กรุงเทพ--9 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2548 นายกฤษณ์ กาญจนกุญชร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยในการหารือยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ (Thai-US Strategic Dialogue) และนาย Eric John รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (Deputy Assistant Security of State for East Asian and Pacific Affairs) เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายสหรัฐฯ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมการหารือนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 ที่กรุงวอชิงตัน โดยผู้นำทั้งสองได้สนับสนุนให้มีการหารือนี้ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและยกระดับความสัมพันธ์อย่างรอบด้านและเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม รวมทั้งจะเป็นเวทีที่จะพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่จะได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลกด้วย
ที่ผ่านมา ไทยและสหรัฐฯ ได้เคยมีการหารือความมั่นคงทวิภาคี (Thai-US Consultative Forum) เมื่อปี 2536 และ 2539 แต่ได้ยุติไป เนื่องจากการหารือได้กำหนดให้ผู้นำของแต่ละหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทำให้การประสานงานหาโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมในเวลาเดียวกันเป็นไปได้ยาก การหารือครั้งนี้ นอกจากจะปรับรูปแบบให้มีลักษณะเป็นกันเอง โดยมีความยืดหยุ่นในเรื่องผู้เข้าร่วมการประชุมแล้ว ยังเปิดโอกาสให้มีการหารือในกรอบกว้างมากขึ้นด้วย
การหารือครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอร่าง Plan of Action โดยที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศ และสอท.สหรัฐฯ หารือกันต่อไปเพื่อให้สามารถสรุปร่าง Plan of Action ได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นอื่นๆ อาทิ ความร่วมมือทางการศึกษา การแก้ไขป้องกันปัญหาไข้หวัดนก ในส่วนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหาร ที่ประชุมได้หารือการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแลกเปลี่นความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีบุชเห็นชอบร่วมกันที่จะส่งเสริมประชาธิปไตยและความปรองดองแห่งชาติในพม่า และทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบที่จะให้มีการหารือในเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
ที่ประชุมได้เห็นฟ้องว่าการหารือนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเป็นเวทีที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดทิศทางและการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เกิดประโยชน์ตามเป้าหมายและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2548 นายกฤษณ์ กาญจนกุญชร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยในการหารือยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ (Thai-US Strategic Dialogue) และนาย Eric John รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (Deputy Assistant Security of State for East Asian and Pacific Affairs) เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายสหรัฐฯ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมการหารือนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 ที่กรุงวอชิงตัน โดยผู้นำทั้งสองได้สนับสนุนให้มีการหารือนี้ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและยกระดับความสัมพันธ์อย่างรอบด้านและเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม รวมทั้งจะเป็นเวทีที่จะพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่จะได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลกด้วย
ที่ผ่านมา ไทยและสหรัฐฯ ได้เคยมีการหารือความมั่นคงทวิภาคี (Thai-US Consultative Forum) เมื่อปี 2536 และ 2539 แต่ได้ยุติไป เนื่องจากการหารือได้กำหนดให้ผู้นำของแต่ละหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทำให้การประสานงานหาโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมในเวลาเดียวกันเป็นไปได้ยาก การหารือครั้งนี้ นอกจากจะปรับรูปแบบให้มีลักษณะเป็นกันเอง โดยมีความยืดหยุ่นในเรื่องผู้เข้าร่วมการประชุมแล้ว ยังเปิดโอกาสให้มีการหารือในกรอบกว้างมากขึ้นด้วย
การหารือครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอร่าง Plan of Action โดยที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศ และสอท.สหรัฐฯ หารือกันต่อไปเพื่อให้สามารถสรุปร่าง Plan of Action ได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นอื่นๆ อาทิ ความร่วมมือทางการศึกษา การแก้ไขป้องกันปัญหาไข้หวัดนก ในส่วนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหาร ที่ประชุมได้หารือการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแลกเปลี่นความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีบุชเห็นชอบร่วมกันที่จะส่งเสริมประชาธิปไตยและความปรองดองแห่งชาติในพม่า และทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบที่จะให้มีการหารือในเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
ที่ประชุมได้เห็นฟ้องว่าการหารือนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเป็นเวทีที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดทิศทางและการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เกิดประโยชน์ตามเป้าหมายและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-