แท็ก
รัฐสภา
วันนี้ (14 พ.ย. 48) เวลา 13.20 น. คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้จัดเวทีสาธารณะวิปฝ่ายค้านครั้งที่ 3 เรื่อง “ แปรรูปกิจการไฟฟ้าประชาชนได้อะไร ” ที่ห้องประชุมงบประมาณชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3 โดยมีวิทยากรผู้ร่วมเวทีสาธารณะ อาทิเช่น นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานซึ่งเป็นตัวแทนของนายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายวิฑูรย์ เพิ่มพงษาเจริญ เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ดร.อัครเดช ไทยเพิ่ม นายสุวิต วัดหนู เป็นต้น
ในการจัดเวทีสาธารณะครั้งนี้มีผู้กล่าวเปิดการสัมมนา คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ที่สนใจและเข้าร่วมเวทีครั้งนี้ อาทิ นายเอกมล คีรีวัฒน์ มล.อภิมงคล โสณกุล นายกรณ์ จาติกวนิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิกร จำนง อีกทั้งยังมีประชาชนที่ให้ความสนใจมาร่วมฟังอีกเป็นจำนวนหนึ่งด้วย
เมื่อเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวเปิดเวทีสาธารณะว่าหากรัฐมีการเปิดเวทีระดมความคิดเพื่อหาข้อยุติแล้ว การดำเนินการจะไม่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างเช่นเมื่อเช้านี้ที่มีการสลายม็อบกฟผ. ดังที่เป็นข่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ได้มีการถกเถียงกันไป ด้านหนึ่งมีความเห็นที่อยู่บนพื้นฐานว่าหากมีการแปรรูปเพื่อให้เหมือนเอกชนจะทำให้กิจการมีประสิทธิภาพและมีการระดมทุนได้ดีกว่า ทั้งประชาชนก็จะได้รับการบริการที่ดี แต่ในทางกลับกันก็เชื่อว่าแนวคิดนี้จะต้องมีเงื่อนไข เพื่อให้ประสิทธิภาพเกิดขึ้นจริงทั้งการแข่งขัน การออกกฎหมายมารองรับ ดังนั้นในวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำความเข้าใจว่าการแปรรูปจะส่งผลต่อประเทศและประชาชนอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีจุดยืนมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่งในเบื้องต้นต้องมีการปฎิรูปโครงสร้างที่เป็นบริการสาธารณะก่อน เช่น การขนส่ง ประปา การสื่อสาร จึงพูดได้ว่าฝ่ายค้านไม่ได้ค้านแบบหัวชนฝา แต่ข้อที่ห่วงใยคือ การแปรรูปนั้นต้องเตรียมการให้เกิดความรอบคอบ สร้างความมั่นใจให้ได้เสียก่อน และก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ฝ่ายค้านก็ได้อภิปรายในสภาฯว่าหากจะมีการแปรรูปต้องไม่ใช่การโอนอำนาจผูกขาดของรัฐไปให้เอกชน เพราะหากจะมีการแปรรูปแล้วเราไม่อาจคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนได้ ดังนั้นฝ่ายค้านจึงเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน และมีกฏหมายที่รองรับทั้งในแง่การดูแลแข่งขันที่ต้องเป็นธรรม การคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ใช้ไฟเป็นต้น ....(โปรดติดตามรายละเอียดได้ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์)
ด้านนายณอคุณ สิทธิพงศ์ กล่าวยืนยัน ว่าการแปรรูปกิจการไฟฟ้านั้น เพียงเพื่อต้องการแบ่งเบาภาระหนี้สาธารณะของประเทศ และเมื่อมีการกระจายหุ้นแล้วรัฐบาลจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของประเทศถึงร้อยละ 75 ดังนั้น กิจการไฟฟ้ายังเป็นของประเทศเหมือนเดิม
ส่วนนายวิฑูรย์ เพิ่มพงษาเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่ายังไม่มีคนยืนยันตามข้อเสนอให้มีการปฎิรูปโดยไม่ต้องนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำนั้นสร้างความไม่ชัดเจน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลประโยชน์กับคนบางกลุ่มได้
ทั้งนี้ในการจัดเวทีสาธารณะจะมีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ของรัฐสภา ทางwww.parliament.go.th และจะมีการบันทึกเทปเพื่อถ่ายทอดสดทางวิทยุรัฐสภาในโอกาสต่อไป ส่วนท่านที่ต้องการรายละเอียดคำกล่าวเปิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โปรดติดตามได้ทางเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์(www.democrat.or.th)
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ย.2548--จบ--
ในการจัดเวทีสาธารณะครั้งนี้มีผู้กล่าวเปิดการสัมมนา คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ที่สนใจและเข้าร่วมเวทีครั้งนี้ อาทิ นายเอกมล คีรีวัฒน์ มล.อภิมงคล โสณกุล นายกรณ์ จาติกวนิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิกร จำนง อีกทั้งยังมีประชาชนที่ให้ความสนใจมาร่วมฟังอีกเป็นจำนวนหนึ่งด้วย
เมื่อเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวเปิดเวทีสาธารณะว่าหากรัฐมีการเปิดเวทีระดมความคิดเพื่อหาข้อยุติแล้ว การดำเนินการจะไม่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างเช่นเมื่อเช้านี้ที่มีการสลายม็อบกฟผ. ดังที่เป็นข่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ได้มีการถกเถียงกันไป ด้านหนึ่งมีความเห็นที่อยู่บนพื้นฐานว่าหากมีการแปรรูปเพื่อให้เหมือนเอกชนจะทำให้กิจการมีประสิทธิภาพและมีการระดมทุนได้ดีกว่า ทั้งประชาชนก็จะได้รับการบริการที่ดี แต่ในทางกลับกันก็เชื่อว่าแนวคิดนี้จะต้องมีเงื่อนไข เพื่อให้ประสิทธิภาพเกิดขึ้นจริงทั้งการแข่งขัน การออกกฎหมายมารองรับ ดังนั้นในวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำความเข้าใจว่าการแปรรูปจะส่งผลต่อประเทศและประชาชนอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีจุดยืนมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่งในเบื้องต้นต้องมีการปฎิรูปโครงสร้างที่เป็นบริการสาธารณะก่อน เช่น การขนส่ง ประปา การสื่อสาร จึงพูดได้ว่าฝ่ายค้านไม่ได้ค้านแบบหัวชนฝา แต่ข้อที่ห่วงใยคือ การแปรรูปนั้นต้องเตรียมการให้เกิดความรอบคอบ สร้างความมั่นใจให้ได้เสียก่อน และก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ฝ่ายค้านก็ได้อภิปรายในสภาฯว่าหากจะมีการแปรรูปต้องไม่ใช่การโอนอำนาจผูกขาดของรัฐไปให้เอกชน เพราะหากจะมีการแปรรูปแล้วเราไม่อาจคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนได้ ดังนั้นฝ่ายค้านจึงเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน และมีกฏหมายที่รองรับทั้งในแง่การดูแลแข่งขันที่ต้องเป็นธรรม การคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ใช้ไฟเป็นต้น ....(โปรดติดตามรายละเอียดได้ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์)
ด้านนายณอคุณ สิทธิพงศ์ กล่าวยืนยัน ว่าการแปรรูปกิจการไฟฟ้านั้น เพียงเพื่อต้องการแบ่งเบาภาระหนี้สาธารณะของประเทศ และเมื่อมีการกระจายหุ้นแล้วรัฐบาลจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของประเทศถึงร้อยละ 75 ดังนั้น กิจการไฟฟ้ายังเป็นของประเทศเหมือนเดิม
ส่วนนายวิฑูรย์ เพิ่มพงษาเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่ายังไม่มีคนยืนยันตามข้อเสนอให้มีการปฎิรูปโดยไม่ต้องนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำนั้นสร้างความไม่ชัดเจน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลประโยชน์กับคนบางกลุ่มได้
ทั้งนี้ในการจัดเวทีสาธารณะจะมีการถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์ของรัฐสภา ทางwww.parliament.go.th และจะมีการบันทึกเทปเพื่อถ่ายทอดสดทางวิทยุรัฐสภาในโอกาสต่อไป ส่วนท่านที่ต้องการรายละเอียดคำกล่าวเปิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โปรดติดตามได้ทางเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์(www.democrat.or.th)
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 พ.ย.2548--จบ--