กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
การลดขนาดกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก
องค์การบริหารชั่วคราวของสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออก (United Nations Transitional Administration in East Timor - UNTAET) ได้เริ่มลดขนาดกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก โดยการถอนกำลังของหน่วยทหารเคนยาจำนวน 264 นาย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะลดขนาดกองกำลังให้เหลือประมาณ 5,000 นาย จากเดิม 8,000 นาย ก่อนวันที่ 20 พฤษภาคม 2545 ซึ่งจะเป็นวันประกาศเอกราชของติมอร์ตะวันออก ทั้งนี้ หน่วยทหารเคนยาจะส่งมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่กองทหารโปรตุเกสซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลเขต Ermera พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ในยามฉุกเฉินแทนหน่วยทหารเคนยาต่อไป
คณะมนตรีความมั่นคงรับรองข้อมติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเมืองในอัฟกานิสถาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับรองข้อมติที่มีสาระสำคัญกำหนดให้สหประชาชาติดำเนินบทบาทเป็นแกนกลางในการสนับสนุนความพยายามของประชาชนอัฟกานิสถานในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารชั่วคราวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งจะต้องเป็นรัฐบาลที่ประกอบด้วยตัวแทนของคนทุกกลุ่มในอัฟกานิสถาน และมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมสันติภาพกับเพื่อนบ้าน เคารพในสิทธิมนุษยชน และยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ รวมทั้งในเรื่องความร่วมมือทางด้านต่อต้านการก่อการร้ายและการปราบปรามยาเสพติด สรุปผลการอภิปรายทั่วไปของสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 56 การอภิปรายทั่วไปในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 56 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2544 ได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 7 วันของการอภิปราย มีผู้กล่าวถ้อยแถลงรวมทั้งสิ้น 188 คน ประกอบด้วย ประมุขของรัฐ 31 คน หัวหน้ารัฐบาล 11 คน รองนายก- รัฐมนตรี 9 คน และรัฐมนตรีต่างประเทศ 96 คน ทั้งนี้ นาย Han Seung-Soo อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลี-ใต้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมัชชาในปีนี้ ได้กล่าวสรุปผลการอภิปรายว่า ผู้กล่าวถ้อยแถลงเกือบทุกคนเน้นถึงความสำคัญของการต่อต้านการก่อการร้าย โดยชี้ว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องแก้ไขที่ต้นเหตุคือความยากจน และปัญหาของคนกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสในสังคม อนึ่ง อนุสัญญาว่าด้วยการปราบปรามการการสนับสนุนเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย (Convention for the Suppression of the Financing of Terrorism) ได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยมีประเทศต่างๆ ลงนามเพิ่มขึ้นถึง 114 ประเทศและเป็นภาคีแล้ว 13 ประเทศ
วันสากลแห่งขันติธรรม
ในการเฉลิมฉลองวันสากลแห่งขันติธรรม (International Day for Tolerance) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2544 นายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวถ้อยแถลงสรุปสาระสำคัญได้ว่าขันติธรรมเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการสร้างสันติภาพและการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเริ่มจากการใช้การเจรจาแทนการใช้ความรุนแรง การทำความเข้าใจแทนการเพิกเฉย รวมทั้งการเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่นเพื่อขจัดอคติที่มีอยู่ต่อกัน การประชุมระดับรัฐมนตรีของเอสแคปครั้งที่ 2 ในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
การประชุมระดับรัฐมนตรีในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (Ministerial Conference on Infrastructure) ครั้งที่ 2 ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายน 2544 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบแผนดำเนินงานในช่วงที่ 2 (ค.ศ. 2002 - 2006) เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งเน้นถึงความร่วมมือในการปรับปรุงระบบขนส่งทางบกโดยทางรถยนต์ ทางรถไฟ และการปรับปรุงพัฒนาท่าเรือเพื่อ ส่งเสริมการค้าในภูมิภาค ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการคมนาคมและการขนส่ง รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยกล่าวถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยให้กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการคมนาคมและขนส่ง และประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม International Road Federation World Meeting ในปี ค.ศ. 2005 โดยก่อนหน้านี้จะมีการประชุมและนิทรรศการ "Intertraffic Asia" ในปี ค.ศ. 2002 ที่กรุงเทพฯ--จบ--
-อน-
การลดขนาดกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก
องค์การบริหารชั่วคราวของสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออก (United Nations Transitional Administration in East Timor - UNTAET) ได้เริ่มลดขนาดกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก โดยการถอนกำลังของหน่วยทหารเคนยาจำนวน 264 นาย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะลดขนาดกองกำลังให้เหลือประมาณ 5,000 นาย จากเดิม 8,000 นาย ก่อนวันที่ 20 พฤษภาคม 2545 ซึ่งจะเป็นวันประกาศเอกราชของติมอร์ตะวันออก ทั้งนี้ หน่วยทหารเคนยาจะส่งมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่กองทหารโปรตุเกสซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลเขต Ermera พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ในยามฉุกเฉินแทนหน่วยทหารเคนยาต่อไป
คณะมนตรีความมั่นคงรับรองข้อมติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเมืองในอัฟกานิสถาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับรองข้อมติที่มีสาระสำคัญกำหนดให้สหประชาชาติดำเนินบทบาทเป็นแกนกลางในการสนับสนุนความพยายามของประชาชนอัฟกานิสถานในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารชั่วคราวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งจะต้องเป็นรัฐบาลที่ประกอบด้วยตัวแทนของคนทุกกลุ่มในอัฟกานิสถาน และมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมสันติภาพกับเพื่อนบ้าน เคารพในสิทธิมนุษยชน และยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ รวมทั้งในเรื่องความร่วมมือทางด้านต่อต้านการก่อการร้ายและการปราบปรามยาเสพติด สรุปผลการอภิปรายทั่วไปของสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 56 การอภิปรายทั่วไปในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 56 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2544 ได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 7 วันของการอภิปราย มีผู้กล่าวถ้อยแถลงรวมทั้งสิ้น 188 คน ประกอบด้วย ประมุขของรัฐ 31 คน หัวหน้ารัฐบาล 11 คน รองนายก- รัฐมนตรี 9 คน และรัฐมนตรีต่างประเทศ 96 คน ทั้งนี้ นาย Han Seung-Soo อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลี-ใต้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมัชชาในปีนี้ ได้กล่าวสรุปผลการอภิปรายว่า ผู้กล่าวถ้อยแถลงเกือบทุกคนเน้นถึงความสำคัญของการต่อต้านการก่อการร้าย โดยชี้ว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องแก้ไขที่ต้นเหตุคือความยากจน และปัญหาของคนกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสในสังคม อนึ่ง อนุสัญญาว่าด้วยการปราบปรามการการสนับสนุนเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย (Convention for the Suppression of the Financing of Terrorism) ได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยมีประเทศต่างๆ ลงนามเพิ่มขึ้นถึง 114 ประเทศและเป็นภาคีแล้ว 13 ประเทศ
วันสากลแห่งขันติธรรม
ในการเฉลิมฉลองวันสากลแห่งขันติธรรม (International Day for Tolerance) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2544 นายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวถ้อยแถลงสรุปสาระสำคัญได้ว่าขันติธรรมเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการสร้างสันติภาพและการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเริ่มจากการใช้การเจรจาแทนการใช้ความรุนแรง การทำความเข้าใจแทนการเพิกเฉย รวมทั้งการเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่นเพื่อขจัดอคติที่มีอยู่ต่อกัน การประชุมระดับรัฐมนตรีของเอสแคปครั้งที่ 2 ในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
การประชุมระดับรัฐมนตรีในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (Ministerial Conference on Infrastructure) ครั้งที่ 2 ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายน 2544 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบแผนดำเนินงานในช่วงที่ 2 (ค.ศ. 2002 - 2006) เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งเน้นถึงความร่วมมือในการปรับปรุงระบบขนส่งทางบกโดยทางรถยนต์ ทางรถไฟ และการปรับปรุงพัฒนาท่าเรือเพื่อ ส่งเสริมการค้าในภูมิภาค ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการคมนาคมและการขนส่ง รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยกล่าวถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยให้กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการคมนาคมและขนส่ง และประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม International Road Federation World Meeting ในปี ค.ศ. 2005 โดยก่อนหน้านี้จะมีการประชุมและนิทรรศการ "Intertraffic Asia" ในปี ค.ศ. 2002 ที่กรุงเทพฯ--จบ--
-อน-