ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2543 มีสาขาธนาคารพาณิชย์ 520 สำนักงาน เท่ากับเดือนก่อน เงินฝากคงค้าง 234,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4 และสินเชื่อคงค้าง 232,443.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03 จากเดือนก่อน อัตราส่วนสินชื่อต่อเงินฝากอยู่ในระดับร้อยละ 99.0
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5-3.0 ต่อปี เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลงมาประมาณร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.0-9.5 ต่อปี
คนไทยไปทำงานในต่างประเทศโอนเงินกลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 2,600.3 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.8 แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37.8
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคทั้งสิ้น 358,654 ฉบับ เป็นเงิน 28,072.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 30.7 และร้อยละ 17.6 ตามลำดับ แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คคืนเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 3.6 และร้อยละ 3.7 ของจำนวนฉบับและจำนวนเงิน ตามลำดับ
การจัดเก็บภาษีอากรในภาครวม 1,180.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 25.9 โดยในเดือนนี้ภาษีสรรพากรที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 35.7 เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะหมวดผักและผลไม้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.1 ในขณะที่หมวดที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มขยับสูงขึ้น เนื่องจากหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสารมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมออกสู่ท้องตลาดลดลง ขณะที่ความต้องการยังมีมากทำให้ระดับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ราคาขายส่งเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้า 10% ทรงตัว เกวียนละ 4,869 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 10% (เมล็ดสั้น) เกวียนละ 4,417 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.6 ขณะที่ราคาขายส่งหัวมันสำปะหลังสดกิโลกรัมละ 0.69 บาท มันเส้นกิโลกรัมละ 1.62 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 และร้อยละ 8.0 ตามลำดับ
จำนวนแรงงานเดินทางไปทำงานต่างประเทศเดือนนี้ 10,270 คน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 15.3 จังหวัดอุดรธานีมีแรงงานเดินทางไปทำงานต่างประเทศมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์
การค้าชายแดนไทย-ลาวคึกคักขึ้นจากเดือนก่อน มูลค่าการค้ารวม 1,605.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.0 เป็นการส่งออก 1,268.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0 ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทุนและน้ำมัน ส่วนการนำเข้า 337.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.0 จากเดือนก่อน สินค้านำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นไม้และผลิตภัณฑ์ โดยด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดได้แก่ ด่านหนองคาย 681.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 36.8
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5-3.0 ต่อปี เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลงมาประมาณร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.0-9.5 ต่อปี
คนไทยไปทำงานในต่างประเทศโอนเงินกลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 2,600.3 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.8 แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37.8
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคทั้งสิ้น 358,654 ฉบับ เป็นเงิน 28,072.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 30.7 และร้อยละ 17.6 ตามลำดับ แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คคืนเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 3.6 และร้อยละ 3.7 ของจำนวนฉบับและจำนวนเงิน ตามลำดับ
การจัดเก็บภาษีอากรในภาครวม 1,180.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 25.9 โดยในเดือนนี้ภาษีสรรพากรที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 35.7 เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะหมวดผักและผลไม้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.1 ในขณะที่หมวดที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มขยับสูงขึ้น เนื่องจากหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสารมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมออกสู่ท้องตลาดลดลง ขณะที่ความต้องการยังมีมากทำให้ระดับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ราคาขายส่งเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้า 10% ทรงตัว เกวียนละ 4,869 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 10% (เมล็ดสั้น) เกวียนละ 4,417 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.6 ขณะที่ราคาขายส่งหัวมันสำปะหลังสดกิโลกรัมละ 0.69 บาท มันเส้นกิโลกรัมละ 1.62 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 และร้อยละ 8.0 ตามลำดับ
จำนวนแรงงานเดินทางไปทำงานต่างประเทศเดือนนี้ 10,270 คน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 15.3 จังหวัดอุดรธานีมีแรงงานเดินทางไปทำงานต่างประเทศมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์
การค้าชายแดนไทย-ลาวคึกคักขึ้นจากเดือนก่อน มูลค่าการค้ารวม 1,605.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.0 เป็นการส่งออก 1,268.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0 ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทุนและน้ำมัน ส่วนการนำเข้า 337.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.0 จากเดือนก่อน สินค้านำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นไม้และผลิตภัณฑ์ โดยด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดได้แก่ ด่านหนองคาย 681.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 36.8
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-