คุณถาม : GSTP คืออะไร
EXIM ตอบ : GSTP หรือ Global System of Trade Preferences Among Developing Countries คือ ระบบการแลกเปลี่ยนสิทธิ
พิเศษทางการค้าด้วยการลดหย่อนหรือยกเว้นอัตราภาษีศุลกากรนำเข้า รวมทั้งลดหรือ ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่
ภาษีระหว่างประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นสมาชิกระบบ GSTP รวม 48 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ประเทศในทวีปแอฟริกา 19
ประเทศ ทวีปยุโรป 2 ประเทศ ทวีปเอเชีย 14 ประเทศ (รวมไทย) และทวีปอเมริกา 13 ประเทศ ปัจจุบันการแลกเปลี่ยน
สิทธิพิเศษทางการค้าของประเทศสมาชิก GSTP ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมรวมจำนวน 1,627 รายการ
วัตถุประสงค์สำคัญของการแลกเปลี่ยนสิทธิ พิเศษทางการค้าระหว่างประเทศกำลังพัฒนา คือการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง
ประเทศสมาชิกและเสริมสร้างศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยสินค้าที่จะได้รับสิทธิ GSTP
ต้องเข้าเงื่อนไข ดังนี้
1. เป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นโดยใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาสินค้าที่ส่งออก
2. กระบวนการผลิตขั้นสุดท้ายของสินค้านั้นต้องกระทำโดยประเทศผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกของ ระบบ GSTP
ในปี 2543 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ระบบ GSTP ไปประเทศต่างๆ เพียง 5 ประเทศเท่านั้น คือ เกาหลีใต้ โรมาเนีย อินเดีย
อิหร่าน และยูโกสลาเวีย โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมเพียง 31.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกของไทย ภายใต้ระบบ
GSTP ที่สำคัญ ได้แก่ น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง และยางธรรมชาติ ฯลฯ
คุณถาม : ผักสดประเภทใดที่ตลาดสหรัฐฯ นำเข้ามาก และนำเข้าจากแหล่งใดบ้าง
EXIM ตอบ : สหรัฐฯ นำเข้าผักสดจากต่างประเทศเป็นมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี คิดเป็น ร้อยละ 15 ของมูลค่าผัก
และผลไม้ที่สหรัฐฯ นำเข้าทั้งหมด ผักสดที่สหรัฐฯนำเข้ามากเป็นอันดับหนึ่ง คือ มะเขือเทศ (ประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่านำ
เข้าผักสดทั้งหมดของสหรัฐฯ) รองลงไปคือ พริก โดยเฉพาะพริกหยวก แตงกวาและแตงประเภทอื่นๆ หอมหัวใหญ่ และหน่อไม้ฝรั่ง
เป็นต้น
แหล่งนำเข้าผักสดที่สำคัญของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบลาตินอเมริกา ได้แก่ เม็กซิโก คอสตาริกา และเปรู นอกจากนี้
สหรัฐฯยังนำเข้าผักสดจากแคนาดาและเนเธอร์แลนด์ด้วย โดยสหรัฐฯ นำเข้าผักสดจากเม็กซิโกมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ
70 ของมูลค่าผักสดที่นำเข้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ผักสดจากเม็กซิโกที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ ได้มากเป็นอันดับ 1 ได้แก่
พริก มะเขือเทศ แตงกวา หอมหัวใหญ่ เป็นต้น สำหรับผักสดที่สหรัฐฯ นำเข้าจากแคนาดา ได้แก่ แครอท ผักกาดหอม และกะหล่ำปลี
เป็นสำคัญ
ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกผักสดไปตลาดสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน แต่ยังมีมูลค่าไม่มากนัก เนื่องจากสหรัฐฯ มีข้อจำกัดในด้านกฎระเบียบ
การนำเข้าผักสดที่เข้มงวดและต้นทุนค่าขนส่งผักจากไทยไปสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การ
ส่งออกผักสดของไทยไปตลาดสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวดี โดยเฉพาะข้าวโพดฝักอ่อนสดแช่เย็น หน่อไม้ มะเขือเทศ และกระเทียม เป็นต้น
คุณถาม : หากจะขอวงเงินสนับสนุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศจาก ธสน. จะต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้าง และติดต่อที่ส่วนงานใด
EXIM ตอบ : ข้อมูลที่ ธสน. จะใช้ประกอบการพิจารณาให้วงเงิน ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ข้อมูลด้านการตลาด การเงิน และการ
บริหาร เช่น บริษัทดำเนินธุรกิจอะไร ประสบการณ์ที่ผ่านมา สถานะทางการเงิน โครงการที่จะดำเนินการมีใครที่เป็นกลุ่ม
ลูกค้าบ้าง มีคู่แข่งขันกี่ราย แผนการตลาดเป็นอย่างไร และคาดว่าเมื่อดำเนินโครงการแล้วจะมีกำไรมากน้อยเพียงใดภาย
ใน 1 ปีจะมียอดขายเท่าไร ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวควรมีแหล่งที่มาที่สามารถอ้างอิงได้
ติดต่อขอวงเงินได้ที่ส่วนโครงการระหว่างประเทศ ฝ่ายรับประกันการส่งออกและการลงทุน ต่างประเทศ ซึ่งหากธนาคาร
พิจารณาในเบื้องต้นเห็นว่าโครงการนั้นๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ให้การสนับสนุนได้ ธนาคารอาจจะต้องขอรายละเอียดเพิ่มเติม และ
ขอเยี่ยมชมกิจการเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาวงเงินต่อไป
ข้อมูลจาก: ฝ่ายรับประกันการส่งออกและการลงทุนต่างประเทศ
--Exim News ปีที่ 7 ฉบับที่ 11 ประจำเดือนธันวาคม 2544--
-อน-
EXIM ตอบ : GSTP หรือ Global System of Trade Preferences Among Developing Countries คือ ระบบการแลกเปลี่ยนสิทธิ
พิเศษทางการค้าด้วยการลดหย่อนหรือยกเว้นอัตราภาษีศุลกากรนำเข้า รวมทั้งลดหรือ ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่
ภาษีระหว่างประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นสมาชิกระบบ GSTP รวม 48 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ประเทศในทวีปแอฟริกา 19
ประเทศ ทวีปยุโรป 2 ประเทศ ทวีปเอเชีย 14 ประเทศ (รวมไทย) และทวีปอเมริกา 13 ประเทศ ปัจจุบันการแลกเปลี่ยน
สิทธิพิเศษทางการค้าของประเทศสมาชิก GSTP ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมรวมจำนวน 1,627 รายการ
วัตถุประสงค์สำคัญของการแลกเปลี่ยนสิทธิ พิเศษทางการค้าระหว่างประเทศกำลังพัฒนา คือการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง
ประเทศสมาชิกและเสริมสร้างศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยสินค้าที่จะได้รับสิทธิ GSTP
ต้องเข้าเงื่อนไข ดังนี้
1. เป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นโดยใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาสินค้าที่ส่งออก
2. กระบวนการผลิตขั้นสุดท้ายของสินค้านั้นต้องกระทำโดยประเทศผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกของ ระบบ GSTP
ในปี 2543 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ระบบ GSTP ไปประเทศต่างๆ เพียง 5 ประเทศเท่านั้น คือ เกาหลีใต้ โรมาเนีย อินเดีย
อิหร่าน และยูโกสลาเวีย โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมเพียง 31.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สินค้าส่งออกของไทย ภายใต้ระบบ
GSTP ที่สำคัญ ได้แก่ น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง และยางธรรมชาติ ฯลฯ
คุณถาม : ผักสดประเภทใดที่ตลาดสหรัฐฯ นำเข้ามาก และนำเข้าจากแหล่งใดบ้าง
EXIM ตอบ : สหรัฐฯ นำเข้าผักสดจากต่างประเทศเป็นมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี คิดเป็น ร้อยละ 15 ของมูลค่าผัก
และผลไม้ที่สหรัฐฯ นำเข้าทั้งหมด ผักสดที่สหรัฐฯนำเข้ามากเป็นอันดับหนึ่ง คือ มะเขือเทศ (ประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่านำ
เข้าผักสดทั้งหมดของสหรัฐฯ) รองลงไปคือ พริก โดยเฉพาะพริกหยวก แตงกวาและแตงประเภทอื่นๆ หอมหัวใหญ่ และหน่อไม้ฝรั่ง
เป็นต้น
แหล่งนำเข้าผักสดที่สำคัญของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบลาตินอเมริกา ได้แก่ เม็กซิโก คอสตาริกา และเปรู นอกจากนี้
สหรัฐฯยังนำเข้าผักสดจากแคนาดาและเนเธอร์แลนด์ด้วย โดยสหรัฐฯ นำเข้าผักสดจากเม็กซิโกมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ
70 ของมูลค่าผักสดที่นำเข้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ผักสดจากเม็กซิโกที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ ได้มากเป็นอันดับ 1 ได้แก่
พริก มะเขือเทศ แตงกวา หอมหัวใหญ่ เป็นต้น สำหรับผักสดที่สหรัฐฯ นำเข้าจากแคนาดา ได้แก่ แครอท ผักกาดหอม และกะหล่ำปลี
เป็นสำคัญ
ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกผักสดไปตลาดสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน แต่ยังมีมูลค่าไม่มากนัก เนื่องจากสหรัฐฯ มีข้อจำกัดในด้านกฎระเบียบ
การนำเข้าผักสดที่เข้มงวดและต้นทุนค่าขนส่งผักจากไทยไปสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การ
ส่งออกผักสดของไทยไปตลาดสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวดี โดยเฉพาะข้าวโพดฝักอ่อนสดแช่เย็น หน่อไม้ มะเขือเทศ และกระเทียม เป็นต้น
คุณถาม : หากจะขอวงเงินสนับสนุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศจาก ธสน. จะต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้าง และติดต่อที่ส่วนงานใด
EXIM ตอบ : ข้อมูลที่ ธสน. จะใช้ประกอบการพิจารณาให้วงเงิน ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ข้อมูลด้านการตลาด การเงิน และการ
บริหาร เช่น บริษัทดำเนินธุรกิจอะไร ประสบการณ์ที่ผ่านมา สถานะทางการเงิน โครงการที่จะดำเนินการมีใครที่เป็นกลุ่ม
ลูกค้าบ้าง มีคู่แข่งขันกี่ราย แผนการตลาดเป็นอย่างไร และคาดว่าเมื่อดำเนินโครงการแล้วจะมีกำไรมากน้อยเพียงใดภาย
ใน 1 ปีจะมียอดขายเท่าไร ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวควรมีแหล่งที่มาที่สามารถอ้างอิงได้
ติดต่อขอวงเงินได้ที่ส่วนโครงการระหว่างประเทศ ฝ่ายรับประกันการส่งออกและการลงทุน ต่างประเทศ ซึ่งหากธนาคาร
พิจารณาในเบื้องต้นเห็นว่าโครงการนั้นๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ให้การสนับสนุนได้ ธนาคารอาจจะต้องขอรายละเอียดเพิ่มเติม และ
ขอเยี่ยมชมกิจการเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาวงเงินต่อไป
ข้อมูลจาก: ฝ่ายรับประกันการส่งออกและการลงทุนต่างประเทศ
--Exim News ปีที่ 7 ฉบับที่ 11 ประจำเดือนธันวาคม 2544--
-อน-