ช่องทางการชำระเงินในอนาคต
ปัจจุบันการชำระเงินของรายการ E-commerce ยังคงผูกติดกับการใช้บัตรเครดิตซะเป็นส่วนใหญ่ ในรายงานข่าวจาก ecommercetime.com กล่าวถึงข้อมูลการศึกษาของ Ovum เกี่ยวกับช่องทางการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ต พบว่า ร้อยละ 98.5 ของรายการ E-commerce เป็นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่จะมีปริมาณลดลงเหลือร้อยละ 90 ในปี 2001 โดยจะมีช่องทางการชำระเงินใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทแทน เนื่องจากการใช้บัตรเครดิตมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต จำนวนและคุณสมบัติของผู้ถือบัตรโดยเฉพาะวัยรุ่นนัก shop ที่ยังไม่มีสิทธิถือบัตรเครดิต วิธีการชำระแบบใหม่ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง
1. Metered Payment เป็นการนำรายการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า โทรศัพท์ มาให้บริการผ่านระบบ E-commerce ของธนาคาร
2. Optimized card payment เป็นการให้วงเงินใช้จ่ายเช่นเดียวกับบัตรเครดิต เช่น Internet wallets หรือ virtual card โดยจะระบุข้อมูลผู้ถือบัตร และข้อมูลผู้ชำระเงินไว้ล่วงหน้า เมื่อต้องการใช้ชำระเงินจะแจ้งเพียง หมายเลข virtual card ดังกล่าว ผู้ถือไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลส่วนตัวเมื่อซื้อสินค้าบ่อย ๆ
3. E- cheques เป็นการสั่งโอนเงินจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไปให้ผู้รับหรือผู้ขายโดยตรง
4. E-cash คือการให้ลูกค้าเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต
5. Alternative currencies ได้แก่ เงินสกุลของ web site ต่าง ๆ เช่น Beenz , Flooz และ Rocket Cash กล่าวคือ ลูกค้าฝากเงินเข้าบัญชีกับ web site นั้น และสามารถใช้ซื้อสินค้ากับ web merchant ที่ยอมรับเงินสกุลของ web site นั้น ๆ ได้ เหล่านี้คือช่องทางการชำระเงินที่ผู้ให้บริการระบบชำระเงิน (Payment Service Providers) จะเข้ามามีบทบาทเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีผลกระทบกับส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจชำระเงินของธนาคาร
--จุลสารระบบการชำระเงินเดือน ตุลาคม 2543/ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
ปัจจุบันการชำระเงินของรายการ E-commerce ยังคงผูกติดกับการใช้บัตรเครดิตซะเป็นส่วนใหญ่ ในรายงานข่าวจาก ecommercetime.com กล่าวถึงข้อมูลการศึกษาของ Ovum เกี่ยวกับช่องทางการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ต พบว่า ร้อยละ 98.5 ของรายการ E-commerce เป็นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่จะมีปริมาณลดลงเหลือร้อยละ 90 ในปี 2001 โดยจะมีช่องทางการชำระเงินใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทแทน เนื่องจากการใช้บัตรเครดิตมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต จำนวนและคุณสมบัติของผู้ถือบัตรโดยเฉพาะวัยรุ่นนัก shop ที่ยังไม่มีสิทธิถือบัตรเครดิต วิธีการชำระแบบใหม่ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง
1. Metered Payment เป็นการนำรายการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า โทรศัพท์ มาให้บริการผ่านระบบ E-commerce ของธนาคาร
2. Optimized card payment เป็นการให้วงเงินใช้จ่ายเช่นเดียวกับบัตรเครดิต เช่น Internet wallets หรือ virtual card โดยจะระบุข้อมูลผู้ถือบัตร และข้อมูลผู้ชำระเงินไว้ล่วงหน้า เมื่อต้องการใช้ชำระเงินจะแจ้งเพียง หมายเลข virtual card ดังกล่าว ผู้ถือไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลส่วนตัวเมื่อซื้อสินค้าบ่อย ๆ
3. E- cheques เป็นการสั่งโอนเงินจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไปให้ผู้รับหรือผู้ขายโดยตรง
4. E-cash คือการให้ลูกค้าเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อใช้สำหรับการซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต
5. Alternative currencies ได้แก่ เงินสกุลของ web site ต่าง ๆ เช่น Beenz , Flooz และ Rocket Cash กล่าวคือ ลูกค้าฝากเงินเข้าบัญชีกับ web site นั้น และสามารถใช้ซื้อสินค้ากับ web merchant ที่ยอมรับเงินสกุลของ web site นั้น ๆ ได้ เหล่านี้คือช่องทางการชำระเงินที่ผู้ให้บริการระบบชำระเงิน (Payment Service Providers) จะเข้ามามีบทบาทเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีผลกระทบกับส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจชำระเงินของธนาคาร
--จุลสารระบบการชำระเงินเดือน ตุลาคม 2543/ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-