กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
อนุสนธิข่าวสารนิเทศที่ 647/2543 แจ้งเรื่องดังกล่าวให้สื่อมวลชนทราบนั้น วันนี้ (11 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่สื่อมวลชนว่า ผู้ได้รับเชื้อไวรัสริฟท์วาลเลย์จะมีอาการอ่อนเพลีย หน้าซีด ตาพร่ามัว ตกเลือด และนำไปสู่สมองอักเสบและเสียชีวิตในเวลาไม่นากนัก ทั้งนี้ นักวิชาการสาธารณสุขบางส่วนกล่าวว่าไวรัสดังกล่าวสามารถฝังตัวอยู่ในเนื้อแดงของสัตว์ที่ชาวซาอุดิอาระเบียนิยมบริโภคคือ แกะ แพะ วัว ควาย และอูฐ นอกเหนือจากยุงซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหะนำโรคเช่นกัน ทางการซาอุดิอาระเบีย จึงได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ทุกชนิดจากแอฟริกา ซึ่งส่งผลให้ไก่และอาหารทะเลทุกชนิดมีราคาสูงขึ้นกว่าปรกติ
นอกจากนี้ เกิดความวิตกกังวลในเรื่องสาธารณสุขของผู้แสวงบุญชาวมุสลิมที่กำลังเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ที่นครเม็กกะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูถือศีลอดในเดือน Ramadan (ประมาณเดือนพฤศจิกายน) และในช่วงฤดูฮัจย์ (ประมาณมีนาคม) หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายลง
กระทรวงการต่างประเทศจึงใคร่ขอให้ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในซาอุดีอาระเบียระวังการติดเชื้อดังกล่าว แม้ยังไม่ปรากฎว่ามีคนไทยที่ทำงานอยู่ในจังหวัด Jizan และ Khamis Musheit ซึ่งเป็นเขตที่มีโรคระบาดป่วยหรือมีอาการของไข้ริฟต์วาลเล่ย์แต่อย่างใด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
อนุสนธิข่าวสารนิเทศที่ 647/2543 แจ้งเรื่องดังกล่าวให้สื่อมวลชนทราบนั้น วันนี้ (11 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่สื่อมวลชนว่า ผู้ได้รับเชื้อไวรัสริฟท์วาลเลย์จะมีอาการอ่อนเพลีย หน้าซีด ตาพร่ามัว ตกเลือด และนำไปสู่สมองอักเสบและเสียชีวิตในเวลาไม่นากนัก ทั้งนี้ นักวิชาการสาธารณสุขบางส่วนกล่าวว่าไวรัสดังกล่าวสามารถฝังตัวอยู่ในเนื้อแดงของสัตว์ที่ชาวซาอุดิอาระเบียนิยมบริโภคคือ แกะ แพะ วัว ควาย และอูฐ นอกเหนือจากยุงซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหะนำโรคเช่นกัน ทางการซาอุดิอาระเบีย จึงได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ทุกชนิดจากแอฟริกา ซึ่งส่งผลให้ไก่และอาหารทะเลทุกชนิดมีราคาสูงขึ้นกว่าปรกติ
นอกจากนี้ เกิดความวิตกกังวลในเรื่องสาธารณสุขของผู้แสวงบุญชาวมุสลิมที่กำลังเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ที่นครเม็กกะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูถือศีลอดในเดือน Ramadan (ประมาณเดือนพฤศจิกายน) และในช่วงฤดูฮัจย์ (ประมาณมีนาคม) หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายลง
กระทรวงการต่างประเทศจึงใคร่ขอให้ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในซาอุดีอาระเบียระวังการติดเชื้อดังกล่าว แม้ยังไม่ปรากฎว่ามีคนไทยที่ทำงานอยู่ในจังหวัด Jizan และ Khamis Musheit ซึ่งเป็นเขตที่มีโรคระบาดป่วยหรือมีอาการของไข้ริฟต์วาลเล่ย์แต่อย่างใด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-