8/11/44 นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับสมาคมโรงสีข้าว เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวนาปีฤดูการผลิต 2544/45 ที่จะเริ่มเปิดรับจำนำในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ทางสมาคมฯ ได้รับทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญาของโรงสีที่จะเข้าร่วมในโครงการ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงเงื่อนไขในการเก็บข้าวให้กับรัฐบาลว่า โดยหลักการจะเหมือนกับที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังในฤดูการผลิตที่ผ่านมา ซึ่งโรงสีข้าวจะได้รับผลประโยชน์จากการเก็บค่าเช่าโกดังเก็บข้าวที่รัฐบาลฝากเอาไว้ รวมทั้งค่าจ้างในการสีข้าว โดยในส่วนนี้รัฐบาลอาจจะไม่ต้องจ่ายค่าจ้างเป็นตัวเงิน เพราะรัฐจะใช้ผลพลอยได้จากกระบวนการสีข้าว (by product) เช่น รำ และปลายข้าว เป็นเงินค่าจ้างส่วนหนึ่ง
ส่วนผลประโยชน์อื่นๆ ก็จะมาจากรายได้จากค่าขนส่ง ค่าชดเชยกระสอบใส่ข้าว ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ผ่านมารัฐบาลมีการจ่ายค่าขนส่งให้โรงสีประมาณ 150 บาทต่อตัน ส่วนค่ากระสอบใบละ 35 บาท หรือตันละ 350 บาท
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเห็นด้วยกับสมาคมโรงสีข้าวที่จะให้เก็บข้าวที่รับจำนำไว้ในระดับความชื้น 13.5% แทนระดับเดิมที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 15% เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวเสื่อมสภาพเร็ว ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวตามเกณฑ์ความชื้นใหม่นี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะมีการหารือร่วมกันในระหว่างคณะทำงานอีกครั้ง แต่ในส่วนของเกษตรกรที่นำข้าวมาขายในโครงการรับจำนำ จะยังคงเงื่อนไขของความชื้นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ ยังรับจำนำที่ความชื้น 15% ซึ่งถ้าหากเกษตรกรมีการตากข้าวเพื่อลดความชื้นมาก่อนที่จะนำข้าวมาขาย ก็จะทำให้ขายข้าวได้ในราคาที่ดีขึ้น
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ พฤศจิกายน 2544--
-ปส-
ส่วนผลประโยชน์อื่นๆ ก็จะมาจากรายได้จากค่าขนส่ง ค่าชดเชยกระสอบใส่ข้าว ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ผ่านมารัฐบาลมีการจ่ายค่าขนส่งให้โรงสีประมาณ 150 บาทต่อตัน ส่วนค่ากระสอบใบละ 35 บาท หรือตันละ 350 บาท
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเห็นด้วยกับสมาคมโรงสีข้าวที่จะให้เก็บข้าวที่รับจำนำไว้ในระดับความชื้น 13.5% แทนระดับเดิมที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 15% เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวเสื่อมสภาพเร็ว ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวตามเกณฑ์ความชื้นใหม่นี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะมีการหารือร่วมกันในระหว่างคณะทำงานอีกครั้ง แต่ในส่วนของเกษตรกรที่นำข้าวมาขายในโครงการรับจำนำ จะยังคงเงื่อนไขของความชื้นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ ยังรับจำนำที่ความชื้น 15% ซึ่งถ้าหากเกษตรกรมีการตากข้าวเพื่อลดความชื้นมาก่อนที่จะนำข้าวมาขาย ก็จะทำให้ขายข้าวได้ในราคาที่ดีขึ้น
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ พฤศจิกายน 2544--
-ปส-