กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2543 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศได้แวะผ่านนครแฟรงเฟิร์ตภายหลังการเยือนรัสเซียและได้หารือข้อราชการกับนาย Hans W. Reich ประธานสถาบันสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูบูรณะ (Kreditanstalt fuer Wiederaufbau - KfW) สรุปผลการหารือได้ดังนี้
1. ในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท TPI ของไทย นั้น ฝ่าย KfW เชื่อมั่นในระบบศาลยุติธรรมของไทยในการแก้ไขปัญหานี้ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ในขณะเดียวกัน ฝ่าย KfW มีความพึงพอใจในผลงานที่ทำกับฝ่ายไทยในโครงการอื่นๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้ายกระดับ (ธนายง) โครงการ Telecom Asia และโครงการกับ Siam Cement เป็นต้น รวมทั้งยังมีแผนการที่จะขยายความร่วมมือกับไทยในโครงการอื่นๆ ต่อไป เช่น โครงการสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งฝ่าย KfW ได้มีบทบาทในไทยไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านมาร์กและเป็นการร่วมมือกับภาคเอกชนไทยเป็นหลัก Kfw ชื่นชมที่รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การจัดการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกเป็นการช่วยเสริมสร้างประชาธิปไตย สำหรับสหพันธ์ฯ ยังมีปัญหาเรื่องการรวมประเทศ ความอ่อนแอเรื่องอุตสาหกรรมและการค้าการบริการ และความสามารถในการผลิตเครื่องจักรกลในอดีตที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะโลกาภิวัฒน์ ซึ่งล้วนแต่ต้องแก้ไขโดยด่วน
2. รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศแสดงความยินดีที่ได้พบกับสถาบันเยอรมันที่มีบทบาทสำคัญและมีท่าทีเชิงบวกต่อไทย เช่น KfW และรับจะหารือรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาของบริษัท TPI สำหรับสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลไทยยังมีภารกิจที่ต้องดำเนินการอีกมาก เพื่อให้เกิดผลการฟื้นฟูที่ยั่งยืนในกรอบความเป็นประชาธิปไตยและการเป็นสังคมเปิด ขณะนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับ SMEs นี้ ฝ่าย KfW ซึ่งมีประสบการณ์ในการส่งเสริม SMEs แจ้งว่าพร้อมจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาชี้แจงและให้คำแนะนำแก่ไทยด้วย--จบ--
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2543 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศได้แวะผ่านนครแฟรงเฟิร์ตภายหลังการเยือนรัสเซียและได้หารือข้อราชการกับนาย Hans W. Reich ประธานสถาบันสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูบูรณะ (Kreditanstalt fuer Wiederaufbau - KfW) สรุปผลการหารือได้ดังนี้
1. ในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท TPI ของไทย นั้น ฝ่าย KfW เชื่อมั่นในระบบศาลยุติธรรมของไทยในการแก้ไขปัญหานี้ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ในขณะเดียวกัน ฝ่าย KfW มีความพึงพอใจในผลงานที่ทำกับฝ่ายไทยในโครงการอื่นๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้ายกระดับ (ธนายง) โครงการ Telecom Asia และโครงการกับ Siam Cement เป็นต้น รวมทั้งยังมีแผนการที่จะขยายความร่วมมือกับไทยในโครงการอื่นๆ ต่อไป เช่น โครงการสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งฝ่าย KfW ได้มีบทบาทในไทยไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านมาร์กและเป็นการร่วมมือกับภาคเอกชนไทยเป็นหลัก Kfw ชื่นชมที่รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การจัดการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกเป็นการช่วยเสริมสร้างประชาธิปไตย สำหรับสหพันธ์ฯ ยังมีปัญหาเรื่องการรวมประเทศ ความอ่อนแอเรื่องอุตสาหกรรมและการค้าการบริการ และความสามารถในการผลิตเครื่องจักรกลในอดีตที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะโลกาภิวัฒน์ ซึ่งล้วนแต่ต้องแก้ไขโดยด่วน
2. รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศแสดงความยินดีที่ได้พบกับสถาบันเยอรมันที่มีบทบาทสำคัญและมีท่าทีเชิงบวกต่อไทย เช่น KfW และรับจะหารือรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาของบริษัท TPI สำหรับสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลไทยยังมีภารกิจที่ต้องดำเนินการอีกมาก เพื่อให้เกิดผลการฟื้นฟูที่ยั่งยืนในกรอบความเป็นประชาธิปไตยและการเป็นสังคมเปิด ขณะนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับ SMEs นี้ ฝ่าย KfW ซึ่งมีประสบการณ์ในการส่งเสริม SMEs แจ้งว่าพร้อมจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาชี้แจงและให้คำแนะนำแก่ไทยด้วย--จบ--