แท็ก
การส่งออก
การค้าระหว่างประเทศของไทยประกอบด้วยการค้าทั้งในหมวดของสินค้าและบริการ ในปี 2543 ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการรวมประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้ที่มาจากการส่งออกสินค้าประมาณร้อยละ 84 ที่เหลือร้อยละ 16 เป็นการส่งออกในหมวดบริการ แม้ว่ารายได้จากการส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้า แต่ในภาวะปัจจุบันที่การส่งออกสินค้าของไทยหลายรายการเริ่มไม่สดใสนักเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยหลายประเทศชะลอการขยายตัวลง การส่งออกภาคบริการจึงเป็นความหวังของประเทศในการเป็นแหล่งแสวงหารายได้สำคัญที่จะนำมาชดเชยรายได้จากการส่งออกสินค้าที่ชะลอตัวลง อันจะช่วยรักษาฐานะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไว้ได้ทางหนึ่ง
ธุรกิจบริการของไทยที่มีบทบาทสำคัญต่อการนำรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ ได้แก่
1. บริการท่องเที่ยว เป็นธุรกิจบริการที่สามารถสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศได้มากเป็นอันดับหนึ่งของไทย และมีสัดส่วนสูงถึงครึ่งหนึ่งของรายได้เงินตราต่างประเทศจากธุรกิจบริการทั้งหมดของไทย รายได้จากบริการท่องเที่ยวครอบคลุมถึงรายได้ที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ที่ชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการในประเทศไทย ทั้งการเข้ามาท่องเที่ยว การประชุมสัมมนา การใช้บริการทางการแพทย์ และการศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดการใช้จ่ายด้านที่พัก อาหาร และของที่ระลึก ในปี 2543 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 2.9 แสนล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 9.8 เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จูงใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น สำหรับในปี 2544 รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งผลักดันให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและบริการทางการศึกษามีบทบาทมากขึ้นในการสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศ
2. บริการขนส่ง เป็นธุรกิจบริการที่สร้างรายได้เข้าประเทศมากเป็นอันดับสองรองจากธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาทในปี 2543 รายได้จากบริการขนส่งครอบคลุมถึงรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศด้วยพาหนะทุกประเภท ตลอดจนบริการขนส่งอื่นๆ เช่น การเช่าเหมาเรือพร้อมลูกเรือ รายได้จากค่าธรรมเนียมสนามบิน เป็นต้น รายได้เงินตราต่างประเทศที่มาจากการให้บริการขนส่งของไทยกว่าร้อยละ 70 เป็นการให้บริการขนส่งผู้โดยสารเป็นสำคัญ ที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 30 เป็นรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าซึ่งยังมีไม่มากนัก เนื่องจากไทยมีข้อจำกัดในด้านขนาดของกองเรือพาณิชย์นาวีที่มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถรองรับการขยายตัวทางการค้าระหว่างประเทศของไทยซึ่งต้องอาศัยการขนส่งทางทะเลถึงกว่าร้อยละ 95 ของปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั้งหมด โดยไทยมีรายรับจากค่าระวางเรือเพียงประมาณร้อยละ 10 ของค่าระวางเรือที่เกิดขึ้นจากการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย ค่าระวางเรือที่เหลือกว่าร้อยละ 90 จึงตกเป็นของกองเรือพาณิชย์นาวีต่างชาติ ซึ่งสะท้อนถึงเงินตราต่างประเทศที่ไหลออกจากประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนากองเรือพาณิชย์นาวีของไทยเพื่อลดการพึ่งพากองเรือต่างชาติลงให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับบริการด้านการขนส่งของไทยได้อีกมาก
นอกเหนือจากบริการท่องเที่ยวและบริการขนส่งแล้ว ประเทศไทยยังมีรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศจากการให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม การรับเหมาก่อสร้าง การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า/สิทธิบัตร/ลิขสิทธิ์ การประกันภัย และบริการของหน่วยงานรัฐบาลไทยที่ให้แก่ชาวต่างประเทศ ซึ่งแม้ว่ารายได้ที่เป็นตัวเงินจากการให้บริการต่างๆ ข้างต้นยังมีมูลค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับจากการท่องเที่ยวและการขนส่ง แต่รายได้เงินตราต่างประเทศจากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างและบริการประกันภัยของไทยมีศักยภาพในการขยายตัวอีกมาก โดยในช่วงปี 2541-2543 รายได้จากการให้บริการประกันภัยระหว่างประเทศของไทยขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 17 ต่อปี ขณะที่รายได้เงินตราต่างประเทศจากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 117 ต่อปีและเป็นหนึ่งในธุรกิจเป้าหมายที่รัฐบาลไทยเร่งผลักดันให้มีบทบาทในการสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศให้มากขึ้นในปัจจุบัน
ธุรกิจบริการเป็นธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกที่อยู่ในภาวะไม่สดใสนักในปัจจุบัน ทั้งนี้ นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการขนส่งที่เป็นบริการหลักที่นำรายได้เข้าประเทศแล้ว บริการทางการแพทย์ บริการด้านสุขภาพ บริการทางการศึกษา รวมทั้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก็เป็นธุรกิจบริการที่มีลู่ทางขยายตลาดได้อีกมากโดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงทางแถบเอเชียที่ปัจจุบันได้เริ่มเข้ามาใช้บริการเหล่านี้ในประเทศไทย เนื่องจากบริการเหล่านี้ของไทยมีค่าบริการไม่สูงนัก ขณะที่มีมาตรฐานการให้บริการทัดเทียมนานาประเทศและบุคลากรของไทยมีใจรักงานให้บริการ หากภาครัฐบาลและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการทำการตลาดในเชิงรุกไปยังประเทศลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง รวมทั้งเสนอบริการที่สอดคล้องกับความต้องการและรสนิยมของลูกค้าในแต่ละประเทศ เชื่อแน่ว่าจะเป็นลู่ทางนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศได้อีกมาก--จบ--
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มิถุนายน 2544--
-อน-
ธุรกิจบริการของไทยที่มีบทบาทสำคัญต่อการนำรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ ได้แก่
1. บริการท่องเที่ยว เป็นธุรกิจบริการที่สามารถสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศได้มากเป็นอันดับหนึ่งของไทย และมีสัดส่วนสูงถึงครึ่งหนึ่งของรายได้เงินตราต่างประเทศจากธุรกิจบริการทั้งหมดของไทย รายได้จากบริการท่องเที่ยวครอบคลุมถึงรายได้ที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ที่ชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการในประเทศไทย ทั้งการเข้ามาท่องเที่ยว การประชุมสัมมนา การใช้บริการทางการแพทย์ และการศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดการใช้จ่ายด้านที่พัก อาหาร และของที่ระลึก ในปี 2543 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 2.9 แสนล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 9.8 เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จูงใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น สำหรับในปี 2544 รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งผลักดันให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและบริการทางการศึกษามีบทบาทมากขึ้นในการสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศ
2. บริการขนส่ง เป็นธุรกิจบริการที่สร้างรายได้เข้าประเทศมากเป็นอันดับสองรองจากธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาทในปี 2543 รายได้จากบริการขนส่งครอบคลุมถึงรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศด้วยพาหนะทุกประเภท ตลอดจนบริการขนส่งอื่นๆ เช่น การเช่าเหมาเรือพร้อมลูกเรือ รายได้จากค่าธรรมเนียมสนามบิน เป็นต้น รายได้เงินตราต่างประเทศที่มาจากการให้บริการขนส่งของไทยกว่าร้อยละ 70 เป็นการให้บริการขนส่งผู้โดยสารเป็นสำคัญ ที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 30 เป็นรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าซึ่งยังมีไม่มากนัก เนื่องจากไทยมีข้อจำกัดในด้านขนาดของกองเรือพาณิชย์นาวีที่มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถรองรับการขยายตัวทางการค้าระหว่างประเทศของไทยซึ่งต้องอาศัยการขนส่งทางทะเลถึงกว่าร้อยละ 95 ของปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั้งหมด โดยไทยมีรายรับจากค่าระวางเรือเพียงประมาณร้อยละ 10 ของค่าระวางเรือที่เกิดขึ้นจากการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย ค่าระวางเรือที่เหลือกว่าร้อยละ 90 จึงตกเป็นของกองเรือพาณิชย์นาวีต่างชาติ ซึ่งสะท้อนถึงเงินตราต่างประเทศที่ไหลออกจากประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนากองเรือพาณิชย์นาวีของไทยเพื่อลดการพึ่งพากองเรือต่างชาติลงให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับบริการด้านการขนส่งของไทยได้อีกมาก
นอกเหนือจากบริการท่องเที่ยวและบริการขนส่งแล้ว ประเทศไทยยังมีรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศจากการให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม การรับเหมาก่อสร้าง การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า/สิทธิบัตร/ลิขสิทธิ์ การประกันภัย และบริการของหน่วยงานรัฐบาลไทยที่ให้แก่ชาวต่างประเทศ ซึ่งแม้ว่ารายได้ที่เป็นตัวเงินจากการให้บริการต่างๆ ข้างต้นยังมีมูลค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับจากการท่องเที่ยวและการขนส่ง แต่รายได้เงินตราต่างประเทศจากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างและบริการประกันภัยของไทยมีศักยภาพในการขยายตัวอีกมาก โดยในช่วงปี 2541-2543 รายได้จากการให้บริการประกันภัยระหว่างประเทศของไทยขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 17 ต่อปี ขณะที่รายได้เงินตราต่างประเทศจากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 117 ต่อปีและเป็นหนึ่งในธุรกิจเป้าหมายที่รัฐบาลไทยเร่งผลักดันให้มีบทบาทในการสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศให้มากขึ้นในปัจจุบัน
ธุรกิจบริการเป็นธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกที่อยู่ในภาวะไม่สดใสนักในปัจจุบัน ทั้งนี้ นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการขนส่งที่เป็นบริการหลักที่นำรายได้เข้าประเทศแล้ว บริการทางการแพทย์ บริการด้านสุขภาพ บริการทางการศึกษา รวมทั้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก็เป็นธุรกิจบริการที่มีลู่ทางขยายตลาดได้อีกมากโดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงทางแถบเอเชียที่ปัจจุบันได้เริ่มเข้ามาใช้บริการเหล่านี้ในประเทศไทย เนื่องจากบริการเหล่านี้ของไทยมีค่าบริการไม่สูงนัก ขณะที่มีมาตรฐานการให้บริการทัดเทียมนานาประเทศและบุคลากรของไทยมีใจรักงานให้บริการ หากภาครัฐบาลและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการทำการตลาดในเชิงรุกไปยังประเทศลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง รวมทั้งเสนอบริการที่สอดคล้องกับความต้องการและรสนิยมของลูกค้าในแต่ละประเทศ เชื่อแน่ว่าจะเป็นลู่ทางนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศได้อีกมาก--จบ--
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มิถุนายน 2544--
-อน-