ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสถาบันการเงินและการให้บริการแก่ประชาชน และธุรกิจ ภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักที่ภาคใต้
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารมวลชน ในฐานะรองโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะน้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้สร้างความเสียหายให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ พอสมควร ในส่วนของภาคการเงิน นั้น สถาบันการเงินทุกแห่ง รวมทั้งตู้บริการถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ได้ปิดดำเนินการระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2543 และเริ่มเปิดดำเนินการให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก สำนักงานภาคใต้ ธปท. ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อแก้ปัญหาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินทุกแห่ง รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ณ สำนักงานภาค โดยมีพนักงานอยู่ปฏิบัติงานที่ศูนย์ตลอดระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้
ทั้งนี้ ในอาทิตย์วันที่ 26 พฤศจิกายน 2543 ธปท. ได้ทดสอบระบบงานต่าง ๆ เช่น งานเงินฝากกระแสรายวัน งานเงินโอน งานเงินฝากต่างจังหวัด งานสินเชื่อ และงานพันธบัตร สามารถดำเนินการได้ตามปกติ รวมทั้งการเชื่อมทางอิเล็คทรอนิก ระหว่างหาดใหญ่กับกรุงเทพฯ ขณะนี้ทุกระบบใช้งานได้สมบูรณ์เรียบร้อยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา
ส่วนของสถาบันการเงินต่าง ๆ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เปิดดำเนินการได้ 22 สำนักงาน จากจำนวน 50 สำนักงาน ต่อมาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2543 เปิดดำเนินการได้เพิ่มอีก 11 สำนักงาน รวมเป็น 33 สำนักงาน ตู้ ATM เปิดบริการได้ 21 ตู้ จากจำนวนทั้งหมด 58 ตู้
ด้านการรับจ่ายเงินสดของสำนักงานภาคใต้ ปรากฏว่าในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เงินสดที่รับเข้ามีจำนวนเพียง 35.3 ล้านบาท ขณะที่ เงินสดจ่ายมีจำนวน 210.8 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนน้ำท่วม คือเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เงินสดรับมีจำนวน 248.4 ล้านบาท และเงินสดจ่ายมีจำนวน 124.8 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า เงินสดรับเข้ามีปริมาณน้อย ขณะที่เงินสดจ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากสถาบันการเงินจำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้ให้ลูกค้าเบิกถอน ประกอบกับคลังจังหวัดต่าง ๆ ยังไม่สามารถเดินทางมาส่งเงินหรือเบิกออกไปได้ตามปกติ เนื่องจากบางแห่งยังมีปัญหาเรื่องการคมนาคมอยู่
ด้านการโอนเงิน สถาบันการเงินหลายแห่งยังคงใช้ระบบการโอนตรง คือ สาขาธนาคารพาณิชย์สั่งโอนเงินทางผู้แทน ธปท. ในแต่ละจังหวัด ไปยังสำนักงานใหญ่ของตนเอง โดยไม่ใช้บริการโอนผ่าน ธปท. สำนักงานภาคใต้ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 มีการโอนเข้า 484.1 ล้านบาท และโอนออก 436.2 ล้านบาท เทียบกับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 ที่มีการโอนเข้า 50.0 ล้านบาท และโอนออก 36.9 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ยอดโอนเงินอยู่ในระดับสูง เนื่องจากภาคการเงินได้ปิดดำเนินการไปรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2543
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/28 พฤศจิกายน 2543--
-ยก-
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารมวลชน ในฐานะรองโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะน้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้สร้างความเสียหายให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ พอสมควร ในส่วนของภาคการเงิน นั้น สถาบันการเงินทุกแห่ง รวมทั้งตู้บริการถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ได้ปิดดำเนินการระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2543 และเริ่มเปิดดำเนินการให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก สำนักงานภาคใต้ ธปท. ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อแก้ปัญหาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินทุกแห่ง รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ณ สำนักงานภาค โดยมีพนักงานอยู่ปฏิบัติงานที่ศูนย์ตลอดระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้
ทั้งนี้ ในอาทิตย์วันที่ 26 พฤศจิกายน 2543 ธปท. ได้ทดสอบระบบงานต่าง ๆ เช่น งานเงินฝากกระแสรายวัน งานเงินโอน งานเงินฝากต่างจังหวัด งานสินเชื่อ และงานพันธบัตร สามารถดำเนินการได้ตามปกติ รวมทั้งการเชื่อมทางอิเล็คทรอนิก ระหว่างหาดใหญ่กับกรุงเทพฯ ขณะนี้ทุกระบบใช้งานได้สมบูรณ์เรียบร้อยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นมา
ส่วนของสถาบันการเงินต่าง ๆ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เปิดดำเนินการได้ 22 สำนักงาน จากจำนวน 50 สำนักงาน ต่อมาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2543 เปิดดำเนินการได้เพิ่มอีก 11 สำนักงาน รวมเป็น 33 สำนักงาน ตู้ ATM เปิดบริการได้ 21 ตู้ จากจำนวนทั้งหมด 58 ตู้
ด้านการรับจ่ายเงินสดของสำนักงานภาคใต้ ปรากฏว่าในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 เงินสดที่รับเข้ามีจำนวนเพียง 35.3 ล้านบาท ขณะที่ เงินสดจ่ายมีจำนวน 210.8 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนน้ำท่วม คือเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เงินสดรับมีจำนวน 248.4 ล้านบาท และเงินสดจ่ายมีจำนวน 124.8 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า เงินสดรับเข้ามีปริมาณน้อย ขณะที่เงินสดจ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากสถาบันการเงินจำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้ให้ลูกค้าเบิกถอน ประกอบกับคลังจังหวัดต่าง ๆ ยังไม่สามารถเดินทางมาส่งเงินหรือเบิกออกไปได้ตามปกติ เนื่องจากบางแห่งยังมีปัญหาเรื่องการคมนาคมอยู่
ด้านการโอนเงิน สถาบันการเงินหลายแห่งยังคงใช้ระบบการโอนตรง คือ สาขาธนาคารพาณิชย์สั่งโอนเงินทางผู้แทน ธปท. ในแต่ละจังหวัด ไปยังสำนักงานใหญ่ของตนเอง โดยไม่ใช้บริการโอนผ่าน ธปท. สำนักงานภาคใต้ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 มีการโอนเข้า 484.1 ล้านบาท และโอนออก 436.2 ล้านบาท เทียบกับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 ที่มีการโอนเข้า 50.0 ล้านบาท และโอนออก 36.9 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ยอดโอนเงินอยู่ในระดับสูง เนื่องจากภาคการเงินได้ปิดดำเนินการไปรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2543
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/28 พฤศจิกายน 2543--
-ยก-