นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการต้อนรับเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย
วันที่ 7 มีนาคม 2544 เวลา 11.00 นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์
ภายหลังการต้อนรับนางซิลเวีย เปโตรวิช เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
ถึงกรณีการตั้งกรรมาธิการว่าขึ้นอยู่กับข้อบังคับการประชุมที่จะกำหนดให้มีกี่คณะ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าข้อบังคับจะออกมาอย่างไร
ซึ่งกรรมาธิการได้ขอเวลา 21 วัน เพื่อร่างข้อบังคับ สำหรับความเห็นส่วนตัวเห็นว่ารูปแบบการทำงานน่าจะเสร็จได้เร็วกว่านี้ เพราะ
เมื่อเสร็จแล้วต้องนำเข้าสู่สภาเพื่อรับหลักการ และแปรญัตติอีก แต่สำหรับในเรื่องของสัดส่วนนั้นเป็นเรื่องของแต่ละพรรคต้องตกลงกันเอง
คงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในบริเวณรัฐสภานั้น ได้สั่งการไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า
ให้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อที่จะได้ทบทวนถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในรัฐสภาว่าต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
แต่ในการหารือนี้ต้องเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุมด้วย และสิ่งที่เป็นห่วงก็คือเรื่องความเข้าใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนง่าย ๆ เมื่อมาเจออะไรจุกจิก ก็จะไม่ค่อยสบอารมณ์ ในส่วนของผู้ติดตามหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะ
เข้ามาในสภา เพราะการปลอมตัวทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่อยาก
ให้วัวหายแล้วล้อมคอก หากเกิดระเบิดขึ้นในสภาคงเสียหายหลายหมื่นล้านบาท เพราะสภาก็เป็นสถาบันทางการเมืองหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
คงไม่เป็นผลดี
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
วันที่ 7 มีนาคม 2544 เวลา 11.00 นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์
ภายหลังการต้อนรับนางซิลเวีย เปโตรวิช เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
ถึงกรณีการตั้งกรรมาธิการว่าขึ้นอยู่กับข้อบังคับการประชุมที่จะกำหนดให้มีกี่คณะ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าข้อบังคับจะออกมาอย่างไร
ซึ่งกรรมาธิการได้ขอเวลา 21 วัน เพื่อร่างข้อบังคับ สำหรับความเห็นส่วนตัวเห็นว่ารูปแบบการทำงานน่าจะเสร็จได้เร็วกว่านี้ เพราะ
เมื่อเสร็จแล้วต้องนำเข้าสู่สภาเพื่อรับหลักการ และแปรญัตติอีก แต่สำหรับในเรื่องของสัดส่วนนั้นเป็นเรื่องของแต่ละพรรคต้องตกลงกันเอง
คงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในบริเวณรัฐสภานั้น ได้สั่งการไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า
ให้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อที่จะได้ทบทวนถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในรัฐสภาว่าต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
แต่ในการหารือนี้ต้องเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุมด้วย และสิ่งที่เป็นห่วงก็คือเรื่องความเข้าใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนง่าย ๆ เมื่อมาเจออะไรจุกจิก ก็จะไม่ค่อยสบอารมณ์ ในส่วนของผู้ติดตามหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะ
เข้ามาในสภา เพราะการปลอมตัวทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่อยาก
ให้วัวหายแล้วล้อมคอก หากเกิดระเบิดขึ้นในสภาคงเสียหายหลายหมื่นล้านบาท เพราะสภาก็เป็นสถาบันทางการเมืองหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
คงไม่เป็นผลดี
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร