นายบูรณัชย์ สมุทรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ระหว่างการปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเมื่อตอนเย็นวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2548 ที่เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวหาบิดเบือนว่า 4 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไร ดีแต่ด่า ดีแต่โกหก จากการรวบรวมข้อมูลต่างๆของพรรคประชาธิปัตย์ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าใครกันแน่ที่ ‘ ดีแต่ด่า’ และบริหารประเทศแบบไม่ฟังใคร ซึ่งตรงนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครคือผู้ที่มีพฤติกรรมด่าเก่งที่สุด ซึ่งพรรคได้รวบรวมถ้อยคำการด่าของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
วันที่ 5 เมษายน 2544
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวหาผู้นำเอ็นจีโอบางคนทำตัวเป็นนายหน้าค้าคนจน มีผลประโยชน์แอบแฝง
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2544
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ที่ออกมาวิจารณ์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลว่าวิจารณ์แบบไม่รู้ข้อมูลโดยยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้โง่ เนื่องจากมีด็อกเตอร์มากมาย
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2545
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบโต้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีว่าอยากดังโดยที่ไม่รู้ว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาอะไรไปบ้างแล้ว หลังจากถูกวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่เอาจริงกับการปราบปรามคอรัปชั่น
วันที่ 19 ธันวาคม 2545
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวหาเอ็นจีโอบางคนว่ารับเงินจากต่างชาติเข้ามาเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายภายในประเทศพร้อมทั้งขู่แฉหลักฐานทั้งหมด
วันที่ 3 มีนาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำหนิ น.พ.ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี รองประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในทำนองว่าไม่รักชาติกรณีที่เสนอรายงานตัวเลขคดีฆ่าตัดตอนในช่วงทำสงครามปราบปรามสาเสพติดในปี 2546 ต่อองค์การสหประชาชาติ โดย พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ”
วันที่ 14 มิถุนายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรตอบโต้ นายสุรชัย ศิริไกร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการอีกหลายคน ว่ามีความรู้น้อยชอบพูดเลอะเทอะและขู่ว่าจะตั้งกรรมการสอบวัดความรู้หลังจากที่ถูกวิจารณ์นโยบายต่างประเทศของไทยว่ากำลังเดินตามก้นสหรัฐ
วันที่ 14 กันยายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาตำหนิ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างรุนแรงว่าเป็นพวก “ขาประจำ”กรณีวิจารณ์การบริหารประเทศแบบซีอีโอรวบอำนาจโดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าเป็นพวกชอบด่ารัฐบาลไม่น่าจะกินเงินหลวงน่าจะไปเป็นฝ่ายค้าน
วันที่ 13 สิงหาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายสมคิด เลิศไพทูรย์อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รวมทั้งนักวิชาการคนอื่นๆที่คัดค้าน พ.ร.ก.ก่อการร้ายที่วิจารณ์ว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อ้างถึงความจำเป็นที่ต้องออกเป็นพระราชกำหนด พร้อมทั้งกล่าวว่าอยากให้มีการระเบิดบ้านคนค้านสักครั้งดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น พูดเอาแต่เท่อย่างเดียว
วันที่ 15 กันยายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ตำหนิ นายธีรยุทธ บุญมี อีกครั้ง ว่าเป็นแค่พวกนักวิจารณ์ในสภากาแฟ มองแค่มิติเดียวไม่รู้ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริงหลังจากไม่พอใจที่ถูกวิจารณ์เรื่องระบบซีอีโอรวบอำนาจ
วันที่ 6 ตุลาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายธีรยุทธ บุญมี ว่าไม่เข้าใจระบบการบริหาร ไม่ได้ใช้หลักวิชาการและมองประชาธิปไตยเพียงซีกเดียวกรณีที่วิจารณ์การบริหารประเทศแบบทุนนิยมในรูปแบบทักษิณอาจนำประเทศไปสู่ความเสี่ยงและแนวทางบูรณาการจะกลายเป็น “บูรณากู”ในที่สุด
วันที่ 11 ตุลาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศขึ้นบัญชีไม่ต้อนรับเอ็นจีโอต่างประเทศ 500 คนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมเอเปค 2003 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยย้ำว่าไม่ต้อนรับคนพวกนี้ โดยให้เหตุผลว่าทำให้การประชุมไม่เรียบร้อย
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้นายธียุทธ บุญมี อีกรอบว่าเป็นพวกขาประจำที่ยืนอยู่คนละมุมจึงไม่สนใจฟัง หลังจากถูกวิจารณ์เรื่องการแก้ปัญหาคนจนใน 6 ปี ว่าใช้ระบบอุปถัมภ์โดยนโยบายเข้าลักษณะใช้ทุนนิยมเพื่อการเมือง
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรตำหนินักโหราศาสตร์ที่ระบุว่าดวงเมืองปี 2547 ไม่ดีและจะมีการยุบสภาก่อนกำหนดว่า เป็นพวกงมงายพร้อมทั้งท้าทายว่าถ้าไม่เป็นความจริงให้โหรที่ทำนายดังกล่าวเลิกอาชีพ
วันที่ 10 เมษายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตำหนินักวิชาการบางคนเช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่าการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ว่าขัดกับรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในประเด็น พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งนายใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาว่าเป็นพวกตะแบง ตะบี้ตะบันโจมตีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทำให้กลายเป็นการเมืองจนเพี้ยนไปหมดแล้ว
วันที่ 26 พฤษภาคม 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้กลุ่มคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่นำโดย นายสุรพล นิติไกรพจน์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ออกมาคัดค้านการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)เป็นหน่วยงานหลักในการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลเนื่องจากเกรงว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าห้ามหน่วยงานของรัฐทำธุรกิจแข่งกับเอกชน ว่าเป็นพวกขัดทุกเรื่องทั้งที่บางคนเรียนกฎหมายน้อยกว่าตัวเองเสียอีก
วันที่ 26 มิถุนายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาตอบโต้ นักวิชาการจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาสภาเศรษฐกิจฯ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ รวมทั้งนายสมเกียรติ ตั้งกิจวณิชย์ นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)ว่าเป็นพวกขาประจำ ไม่มีความเป็นกลาง ไม่ใช่นักวิชาการ มีหน้าที่แค่รับจ้างสอนหนังสือ กรณีที่เสนอรายงานประจำปีระบุว่ามีปัญหาคอรัปชั่นมากมายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
วันที่ 27 มิถุนายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำหนินักวิชาการจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)โดยเฉพาะ นายสังสิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานที่ปรึกษาสภาเศรษฐกิจฯว่า เป็นขาประจำ พวกรับจ้างด่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-
วันที่ 5 เมษายน 2544
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวหาผู้นำเอ็นจีโอบางคนทำตัวเป็นนายหน้าค้าคนจน มีผลประโยชน์แอบแฝง
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2544
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ที่ออกมาวิจารณ์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลว่าวิจารณ์แบบไม่รู้ข้อมูลโดยยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้โง่ เนื่องจากมีด็อกเตอร์มากมาย
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2545
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอบโต้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีว่าอยากดังโดยที่ไม่รู้ว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาอะไรไปบ้างแล้ว หลังจากถูกวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่เอาจริงกับการปราบปรามคอรัปชั่น
วันที่ 19 ธันวาคม 2545
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวหาเอ็นจีโอบางคนว่ารับเงินจากต่างชาติเข้ามาเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายภายในประเทศพร้อมทั้งขู่แฉหลักฐานทั้งหมด
วันที่ 3 มีนาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำหนิ น.พ.ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี รองประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในทำนองว่าไม่รักชาติกรณีที่เสนอรายงานตัวเลขคดีฆ่าตัดตอนในช่วงทำสงครามปราบปรามสาเสพติดในปี 2546 ต่อองค์การสหประชาชาติ โดย พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ”
วันที่ 14 มิถุนายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรตอบโต้ นายสุรชัย ศิริไกร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการอีกหลายคน ว่ามีความรู้น้อยชอบพูดเลอะเทอะและขู่ว่าจะตั้งกรรมการสอบวัดความรู้หลังจากที่ถูกวิจารณ์นโยบายต่างประเทศของไทยว่ากำลังเดินตามก้นสหรัฐ
วันที่ 14 กันยายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาตำหนิ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างรุนแรงว่าเป็นพวก “ขาประจำ”กรณีวิจารณ์การบริหารประเทศแบบซีอีโอรวบอำนาจโดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าเป็นพวกชอบด่ารัฐบาลไม่น่าจะกินเงินหลวงน่าจะไปเป็นฝ่ายค้าน
วันที่ 13 สิงหาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายสมคิด เลิศไพทูรย์อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รวมทั้งนักวิชาการคนอื่นๆที่คัดค้าน พ.ร.ก.ก่อการร้ายที่วิจารณ์ว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อ้างถึงความจำเป็นที่ต้องออกเป็นพระราชกำหนด พร้อมทั้งกล่าวว่าอยากให้มีการระเบิดบ้านคนค้านสักครั้งดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น พูดเอาแต่เท่อย่างเดียว
วันที่ 15 กันยายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ตำหนิ นายธีรยุทธ บุญมี อีกครั้ง ว่าเป็นแค่พวกนักวิจารณ์ในสภากาแฟ มองแค่มิติเดียวไม่รู้ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริงหลังจากไม่พอใจที่ถูกวิจารณ์เรื่องระบบซีอีโอรวบอำนาจ
วันที่ 6 ตุลาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้ นายธีรยุทธ บุญมี ว่าไม่เข้าใจระบบการบริหาร ไม่ได้ใช้หลักวิชาการและมองประชาธิปไตยเพียงซีกเดียวกรณีที่วิจารณ์การบริหารประเทศแบบทุนนิยมในรูปแบบทักษิณอาจนำประเทศไปสู่ความเสี่ยงและแนวทางบูรณาการจะกลายเป็น “บูรณากู”ในที่สุด
วันที่ 11 ตุลาคม 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศขึ้นบัญชีไม่ต้อนรับเอ็นจีโอต่างประเทศ 500 คนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมเอเปค 2003 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยย้ำว่าไม่ต้อนรับคนพวกนี้ โดยให้เหตุผลว่าทำให้การประชุมไม่เรียบร้อย
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้นายธียุทธ บุญมี อีกรอบว่าเป็นพวกขาประจำที่ยืนอยู่คนละมุมจึงไม่สนใจฟัง หลังจากถูกวิจารณ์เรื่องการแก้ปัญหาคนจนใน 6 ปี ว่าใช้ระบบอุปถัมภ์โดยนโยบายเข้าลักษณะใช้ทุนนิยมเพื่อการเมือง
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2546
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรตำหนินักโหราศาสตร์ที่ระบุว่าดวงเมืองปี 2547 ไม่ดีและจะมีการยุบสภาก่อนกำหนดว่า เป็นพวกงมงายพร้อมทั้งท้าทายว่าถ้าไม่เป็นความจริงให้โหรที่ทำนายดังกล่าวเลิกอาชีพ
วันที่ 10 เมษายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตำหนินักวิชาการบางคนเช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่าการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ว่าขัดกับรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในประเด็น พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งนายใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาว่าเป็นพวกตะแบง ตะบี้ตะบันโจมตีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทำให้กลายเป็นการเมืองจนเพี้ยนไปหมดแล้ว
วันที่ 26 พฤษภาคม 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตอบโต้กลุ่มคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่นำโดย นายสุรพล นิติไกรพจน์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ออกมาคัดค้านการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)เป็นหน่วยงานหลักในการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลเนื่องจากเกรงว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าห้ามหน่วยงานของรัฐทำธุรกิจแข่งกับเอกชน ว่าเป็นพวกขัดทุกเรื่องทั้งที่บางคนเรียนกฎหมายน้อยกว่าตัวเองเสียอีก
วันที่ 26 มิถุนายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาตอบโต้ นักวิชาการจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาสภาเศรษฐกิจฯ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ รวมทั้งนายสมเกียรติ ตั้งกิจวณิชย์ นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)ว่าเป็นพวกขาประจำ ไม่มีความเป็นกลาง ไม่ใช่นักวิชาการ มีหน้าที่แค่รับจ้างสอนหนังสือ กรณีที่เสนอรายงานประจำปีระบุว่ามีปัญหาคอรัปชั่นมากมายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
วันที่ 27 มิถุนายน 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำหนินักวิชาการจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)โดยเฉพาะ นายสังสิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานที่ปรึกษาสภาเศรษฐกิจฯว่า เป็นขาประจำ พวกรับจ้างด่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-