กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (13 กันยายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและถูกทางการ ญี่ปุ่นจับกุม เนื่องจากนำยาหรือสารกระตุ้นบางประเภทที่มีส่วนผสมเป็นสารต้องห้ามเข้าญี่ปุ่น แม้ยา หรือสารกระตุ้นดังกล่าว สามารถหาซื้อได้โดยทั่วไปในประเทศไทยก็ตาม ซึ่งผู้ที่ถูกจับมีทั้งผู้ที่มีเจตนา นำเข้า และผู้โดยสารที่เดินทางโดยสุจริต รวมทั้งพนักงานต้อนรับของสายการบิน กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2543 ก็คือหญิงไทย 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานคันไซจับกุมข้อหาละเมิด กฎหมายควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (Psychotropics) เนื่องจากนำยาลดความอ้วน ที่มีส่วนผสมสาร Diazepam ซึ่งเป็น Pyschotroplcs ชนิดหนึ่งเข้าญี่ปุ่นจำนวน 5.638 เม็ด ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2543 ศาลได้พิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปีครึ่ง และ 3 ปีตามลำดับ แต่เนื่องจากเป็นความผิดครั้งแรก จึงได้รอลงอาญา 5 ปี และถูกส่งตัวกลับประเทศไทย นอกจากนั้น บุคคลทั้งสองจะถูกห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น อีกเป็นเวลา 5 ปี
โดยที่ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นได้เข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับการนำวัตถุต้องห้าม รวมทั้งยาบางประเภท เข้าประเทศ โดยเฉพาะยาที่มิได้อนุญาตนำเข้าจากหน่วยงานด้านอาหารและยาของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นยาต้องห้าม แม้ว่าจะสามารถซื้อได้ในประเทศไทย และ/หรือมีส่วนผสมของยาประเภทต่าง ๆ ที่มีขายทั่วไปในประเทศไทย แต่ยังมิได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของญี่ปุ่น เช่นยาลดความอ้วนบางประเภท ยาดม เป็นต้น
ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจึงขอประชาสัมพันธ์เตือนคนไทยที่ประสงค์จะเดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น ทราบและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ห้ามการนำเข้ายาและสิ่งของต้องห้ามโดยเคร่งครัด โดยมีรายชื่อยาและสารประกอบต้องห้ามแนบมานี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (13 กันยายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและถูกทางการ ญี่ปุ่นจับกุม เนื่องจากนำยาหรือสารกระตุ้นบางประเภทที่มีส่วนผสมเป็นสารต้องห้ามเข้าญี่ปุ่น แม้ยา หรือสารกระตุ้นดังกล่าว สามารถหาซื้อได้โดยทั่วไปในประเทศไทยก็ตาม ซึ่งผู้ที่ถูกจับมีทั้งผู้ที่มีเจตนา นำเข้า และผู้โดยสารที่เดินทางโดยสุจริต รวมทั้งพนักงานต้อนรับของสายการบิน กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2543 ก็คือหญิงไทย 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานคันไซจับกุมข้อหาละเมิด กฎหมายควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (Psychotropics) เนื่องจากนำยาลดความอ้วน ที่มีส่วนผสมสาร Diazepam ซึ่งเป็น Pyschotroplcs ชนิดหนึ่งเข้าญี่ปุ่นจำนวน 5.638 เม็ด ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2543 ศาลได้พิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปีครึ่ง และ 3 ปีตามลำดับ แต่เนื่องจากเป็นความผิดครั้งแรก จึงได้รอลงอาญา 5 ปี และถูกส่งตัวกลับประเทศไทย นอกจากนั้น บุคคลทั้งสองจะถูกห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น อีกเป็นเวลา 5 ปี
โดยที่ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นได้เข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับการนำวัตถุต้องห้าม รวมทั้งยาบางประเภท เข้าประเทศ โดยเฉพาะยาที่มิได้อนุญาตนำเข้าจากหน่วยงานด้านอาหารและยาของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นยาต้องห้าม แม้ว่าจะสามารถซื้อได้ในประเทศไทย และ/หรือมีส่วนผสมของยาประเภทต่าง ๆ ที่มีขายทั่วไปในประเทศไทย แต่ยังมิได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของญี่ปุ่น เช่นยาลดความอ้วนบางประเภท ยาดม เป็นต้น
ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจึงขอประชาสัมพันธ์เตือนคนไทยที่ประสงค์จะเดินทาง เข้าประเทศญี่ปุ่น ทราบและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ห้ามการนำเข้ายาและสิ่งของต้องห้ามโดยเคร่งครัด โดยมีรายชื่อยาและสารประกอบต้องห้ามแนบมานี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-