กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์เกี่ยวกับเรื่องระเบียบใหม่สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ณ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมอบให้บริษัทเอกชนซาอุดิอาระเบีย ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงฮัจย์เป็นผู้จัดบริการและดูแลรับผิดชอบ โดยจะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้
1. ผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ จะต้องมีดร๊าฟท์ธนาคารที่เป็นที่ยอมรับของ Saudi Arabian Monetary Agency จ่ายให้แก่บริษัทฮัจย์ที่เกี่ยวข้องเมื่อเดินทางไปถึง ส่วนจำนวนเงินค่าดร๊าฟท์สำหรับเป็นค่าบริการของบริษัทจะเป็นเท่าไรนั้น กระทรวงฮัจย์จะแจ้งในโอกาสต่อไป
2. ผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ จะต้องแสดงตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ภูมิลำเนา
3. ระยะเวลาการพำนักในซาอุดิอาระเบียมีกำหนด 30 วัน (จากเดิม 15 วัน) และไม่จำกัดพื้นที่เฉพาะนครมักกะห์ นครมาดินะห์ หรือเมืองเจดดาห์ เช่นที่เคยเป็นมา แต่สามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักร แต่ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของบริษัทเอกชนดังกล่าว
4. เมื่อเดินทางไปถึงซาอุดิอาระเบีย ทางบริษัทฮัจย์จะจัดเจ้าหน้าที่ไปต้อนรับอำนวยความสะดวก รวมทั้งจัดพาหนะและที่พัก ให้ความดูแลเมื่อเจ็บป่วย และจะติดตามดูแลตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในซาอุดิอาระเบียจนกระทั่งเดินทางกลับภูมิลำเนา
5. การที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียประกาศใช้ระเบียบเกี่ยวกับพิธีอุมเราะห์ใหม่นั้น สืบเนื่องจากการที่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์อยู่เกินกำหนดที่ทางการซาอุดิอาระเบียอนุญาต หรือหลบหนีอยู่อย่างผิดกฏหมายเพื่อประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก จึงยากแก่การควบคุมหรือจับกุมส่งกลับประเทศ และรัฐบาลซาอุดิอาระเบียต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณเป็นจำนวนมากในการจับกุมบุคคลดังกล่าวส่งกลับประเทศเป็นประจำทุกปี โดยในปีที่แล้ว รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ได้ทำการจับกุมผู้อยู่เกินกำหนดทั้งสิ้น 800,000 คน ส่งกลับประเทศ--จบ--
นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์เกี่ยวกับเรื่องระเบียบใหม่สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ณ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมอบให้บริษัทเอกชนซาอุดิอาระเบีย ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงฮัจย์เป็นผู้จัดบริการและดูแลรับผิดชอบ โดยจะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้
1. ผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ จะต้องมีดร๊าฟท์ธนาคารที่เป็นที่ยอมรับของ Saudi Arabian Monetary Agency จ่ายให้แก่บริษัทฮัจย์ที่เกี่ยวข้องเมื่อเดินทางไปถึง ส่วนจำนวนเงินค่าดร๊าฟท์สำหรับเป็นค่าบริการของบริษัทจะเป็นเท่าไรนั้น กระทรวงฮัจย์จะแจ้งในโอกาสต่อไป
2. ผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ จะต้องแสดงตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ภูมิลำเนา
3. ระยะเวลาการพำนักในซาอุดิอาระเบียมีกำหนด 30 วัน (จากเดิม 15 วัน) และไม่จำกัดพื้นที่เฉพาะนครมักกะห์ นครมาดินะห์ หรือเมืองเจดดาห์ เช่นที่เคยเป็นมา แต่สามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักร แต่ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของบริษัทเอกชนดังกล่าว
4. เมื่อเดินทางไปถึงซาอุดิอาระเบีย ทางบริษัทฮัจย์จะจัดเจ้าหน้าที่ไปต้อนรับอำนวยความสะดวก รวมทั้งจัดพาหนะและที่พัก ให้ความดูแลเมื่อเจ็บป่วย และจะติดตามดูแลตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในซาอุดิอาระเบียจนกระทั่งเดินทางกลับภูมิลำเนา
5. การที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียประกาศใช้ระเบียบเกี่ยวกับพิธีอุมเราะห์ใหม่นั้น สืบเนื่องจากการที่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์อยู่เกินกำหนดที่ทางการซาอุดิอาระเบียอนุญาต หรือหลบหนีอยู่อย่างผิดกฏหมายเพื่อประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก จึงยากแก่การควบคุมหรือจับกุมส่งกลับประเทศ และรัฐบาลซาอุดิอาระเบียต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณเป็นจำนวนมากในการจับกุมบุคคลดังกล่าวส่งกลับประเทศเป็นประจำทุกปี โดยในปีที่แล้ว รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ได้ทำการจับกุมผู้อยู่เกินกำหนดทั้งสิ้น 800,000 คน ส่งกลับประเทศ--จบ--