กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูเอโนสไอเรสว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2544 น.ส.ศิริลักษณ์ ศรีสุโข อุปทูตไทยประจำสาธารณรัฐอาร์เจนตินาและนาย Horacio Basabe รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศด้านนโยบายต่างประเทศอาร์เจนตินา ได้ทำพิธีแลกเปลี่ยนสัตยาบันสาร บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท
การที่รัฐบาลไทยและอาร์เจนตินาได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันในครั้งนี้ทำให้ บันทึกความเข้าใจฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ โดยรัฐบาลแต่ละฝ่ายจะสามารถร่วมมือกันใช้มาตรการต่างๆ ในการป้องกันชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในประเทศให้พ้นจากอันตรายของยาเสพติด และการใช้ยาในทางที่ผิด รวมทั้งพยายามร่วมกันหาทางที่จะปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบ ค้ายาเสพติด การควบคุมพืชเสพติดและเคมีภัณฑ์ การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจน การให้ความร่วมมือทางวิชาการซึ่งกันและกัน บันทึกความเข้าใจฉบับนี้นอกจากมีจุดประสงค์ที่จะให้รัฐบาลไทยและอาร์เจนตินาร่วมมือกันดำเนินการภายใต้มาตรการหลักดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการ ส่งเสริมรัฐบาลทั้งสองให้มีการดำเนินการตามพันธกรณีที่มีต่อองค์การสหประชาชาติ ภายใต้กรอบของอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพิธีสารฉบับปี ค.ศ. 1972 แก้ไข เพิ่มเติมอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดปี ค.ศ. 1961 อนุสัญญาว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1971 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดและ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988 ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะเป็นกรอบในการประสานงานด้านยาเสพติดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศต่อไปในอนาคตด้วย การร่วมมือระหว่างไทยกับอาร์เจนตินาในเรื่องนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาที่ต้องการจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อเนื่องมาจากที่ได้มีการก่อตั้ง Forum for East Asian —Latin America Cooperation ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปร่วมประชุมก่อตั้งการหารือดังกล่าวในระดับรัฐมนตรีครั้งแรกที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี เมื่อปลายเดือนมีนาคม ศกนี้ นอกจากนั้น
การร่วมมือในครั้งนี้ย่อมเป็นประจักษ์พยานต่อนานาชาติที่แสดงถึงความจริงจังและ จริงใจของรัฐบาลไทยในการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดข้ามชาติอีกด้วย--จบ--
-ยก-
การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูเอโนสไอเรสว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2544 น.ส.ศิริลักษณ์ ศรีสุโข อุปทูตไทยประจำสาธารณรัฐอาร์เจนตินาและนาย Horacio Basabe รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศด้านนโยบายต่างประเทศอาร์เจนตินา ได้ทำพิธีแลกเปลี่ยนสัตยาบันสาร บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท
การที่รัฐบาลไทยและอาร์เจนตินาได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารกันในครั้งนี้ทำให้ บันทึกความเข้าใจฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ โดยรัฐบาลแต่ละฝ่ายจะสามารถร่วมมือกันใช้มาตรการต่างๆ ในการป้องกันชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในประเทศให้พ้นจากอันตรายของยาเสพติด และการใช้ยาในทางที่ผิด รวมทั้งพยายามร่วมกันหาทางที่จะปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบ ค้ายาเสพติด การควบคุมพืชเสพติดและเคมีภัณฑ์ การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจน การให้ความร่วมมือทางวิชาการซึ่งกันและกัน บันทึกความเข้าใจฉบับนี้นอกจากมีจุดประสงค์ที่จะให้รัฐบาลไทยและอาร์เจนตินาร่วมมือกันดำเนินการภายใต้มาตรการหลักดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการ ส่งเสริมรัฐบาลทั้งสองให้มีการดำเนินการตามพันธกรณีที่มีต่อองค์การสหประชาชาติ ภายใต้กรอบของอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพิธีสารฉบับปี ค.ศ. 1972 แก้ไข เพิ่มเติมอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดปี ค.ศ. 1961 อนุสัญญาว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1971 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดและ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988 ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะเป็นกรอบในการประสานงานด้านยาเสพติดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศต่อไปในอนาคตด้วย การร่วมมือระหว่างไทยกับอาร์เจนตินาในเรื่องนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาที่ต้องการจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อเนื่องมาจากที่ได้มีการก่อตั้ง Forum for East Asian —Latin America Cooperation ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปร่วมประชุมก่อตั้งการหารือดังกล่าวในระดับรัฐมนตรีครั้งแรกที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี เมื่อปลายเดือนมีนาคม ศกนี้ นอกจากนั้น
การร่วมมือในครั้งนี้ย่อมเป็นประจักษ์พยานต่อนานาชาติที่แสดงถึงความจริงจังและ จริงใจของรัฐบาลไทยในการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดข้ามชาติอีกด้วย--จบ--
-ยก-