กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--พรรคประชาธิปัตย์
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรับร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งของกรรมาธิการร่วมแล้วมีการตั้งข้อสังเกตุในที่ประชุมสภาว่า ต้องผ่านข้อสังเกตุจากส.ส.หลายคนในที่ประชุมอย่างแน่นอน เช่น ประเด็นการนำหลักนิติธรรมมาใช้ เพราะเห็นว่าการออกฎหมายในขณะที่การบังคับใช้ในลักษณะของการลงโทษหรือการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายของการใช้คำว่าปรับโดยให้เท่าที่ได้รับการคัดสรรไปเป็นรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งถือว่าค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแต่กลับบังคับให้คนที่เป็นรัฐมนตรีต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งที่เป็นเรื่องของเอกชน ตนคิดว่าเป็นการขัดหลักนิติธรรมและการลงโทษกลาย ๆ
นายถาวร กล่าวว่า ในเรื่องหลักความเสมอภาค การถูกบังคับใช้กฎหมายคนที่มีอันเป็นไปหรือถูกถอดถอนจาการเป็น ส.ส. กฎหมายไม่ได้เขียนให้เสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม และคนที่ไปเป้ฯรัฐมนตรีต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้นเขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กฎหมายบังคับให้ต้องจ่ายจึงถือว่าไม่เท่าเทียมการ นอกจากนี้สำหรับพรรคการเมืองเล็กที่ไม่ได้รับเลือกตั้งมาในนามของระบบบัญชีรายชื่อพรรคเมื่อเขาเข้าร่วมรัฐบาลอยู่ในสัดส่วนที่ได้เป็นรัฐมนตรี คนที่ได้รับความไว้วางใจใจจากประชาชนชัดเจนที่สุดคือผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากเขตเลือกตั้ง เจตนารมณ์ของคนเหล่านี้มาทำหน้าที่ทางการเมืองแต่กลับต้องถูกให้ออกค่าใช้จ่ายเอง คิดว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์
นายถาวร กล่าวอีกว่า บทลงโทษในกฎหมายฉบับนี้เขียนไว้แต่ไม่ได้ระบุในเรื่องของความผิดถือว่าขัดหลักทั่วไปของกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ตนคิดว่าจะต้องตั้งข้อสังเกตุ เพราะไม่มีข้อปรากฎชัดเจนว่าส่วนใดเป็นเจตนารมณ์ขจองกฎหมายว่าคนที่ได้รับเลือกตั้ง มาเป้ฯรัฐมนตรีมาถูกกีดกันต้องออกค่าใช้จ่ายเองเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับเลือกมาจากระบบบัญชีรายชื่อมีจุดบกพร่องตรงไหนแต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามตรวจสอบอย่างไรก็ตามประเด็นเหล่านี้ตนคิดว่าอดีต สสร. และส.ว. ที่กำลังเคลื่อนไหวเป็นการผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในเบื้องต้นที่เขียนให้มีระบบบัญชีรายชื่อพรรคขึ้นมาก็เพื่อเอาคนดีที่ไม่สามารถพื้นที่เขตให้ได้รับเลือกตั้งได้ และไม่ได้เขียนว่าให้คนเหล่านั้นต้องเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะ 400 คนมีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีได้
"ผมขอฝากข้อสังเกตุไปยัง ส.ว.(วุฒิสมาชิก) บางคนที่ท่านไปใช้เวทีซึ่งไม่ได้กำหนดให้ใช้แสดงบทบาท แต่ไปเคลื่อนไหว ที่บริเวณถนนสีลมหรือที่ใดก็ตาม กำลังถูกต้องข้อสังเกตุจากประชาชนว่าใช้เวทีผิดที่หรือเปล่าเพราะเวทีของท่านอยู่ที่สภาและที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมกันทั้ง 2 สภา แต่กลับไปใช้วิธีปลุกระดมอย่างนี้ ผมคิดว่าท่านกำลังทำให้สถานภาพหรือการได้รับการยอมรับของส.ว. ต่ำลง เพราะท่านกลัวว่ากฎหมายที่ผ่านเสนออาจถูกตีกลับ และต่อไปอาจมีสภาเดียวถ้าการเคลื่อนไหวมีมากขึ้นจนประชาชนมีอำนาจ และท่านเองนำเกมการเมืองมาเล่นกับวิธีการของกฎหมาย ทั้งนี้การรับฟังความเห็นของประชาชนทำได้หลายทางแต่ไม่ใช่การปลุกระดม"นายถาวร กล่าว.--จบ--
-วว-
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรับร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งของกรรมาธิการร่วมแล้วมีการตั้งข้อสังเกตุในที่ประชุมสภาว่า ต้องผ่านข้อสังเกตุจากส.ส.หลายคนในที่ประชุมอย่างแน่นอน เช่น ประเด็นการนำหลักนิติธรรมมาใช้ เพราะเห็นว่าการออกฎหมายในขณะที่การบังคับใช้ในลักษณะของการลงโทษหรือการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายของการใช้คำว่าปรับโดยให้เท่าที่ได้รับการคัดสรรไปเป็นรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งถือว่าค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแต่กลับบังคับให้คนที่เป็นรัฐมนตรีต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งที่เป็นเรื่องของเอกชน ตนคิดว่าเป็นการขัดหลักนิติธรรมและการลงโทษกลาย ๆ
นายถาวร กล่าวว่า ในเรื่องหลักความเสมอภาค การถูกบังคับใช้กฎหมายคนที่มีอันเป็นไปหรือถูกถอดถอนจาการเป็น ส.ส. กฎหมายไม่ได้เขียนให้เสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม และคนที่ไปเป้ฯรัฐมนตรีต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้นเขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่กฎหมายบังคับให้ต้องจ่ายจึงถือว่าไม่เท่าเทียมการ นอกจากนี้สำหรับพรรคการเมืองเล็กที่ไม่ได้รับเลือกตั้งมาในนามของระบบบัญชีรายชื่อพรรคเมื่อเขาเข้าร่วมรัฐบาลอยู่ในสัดส่วนที่ได้เป็นรัฐมนตรี คนที่ได้รับความไว้วางใจใจจากประชาชนชัดเจนที่สุดคือผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากเขตเลือกตั้ง เจตนารมณ์ของคนเหล่านี้มาทำหน้าที่ทางการเมืองแต่กลับต้องถูกให้ออกค่าใช้จ่ายเอง คิดว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์
นายถาวร กล่าวอีกว่า บทลงโทษในกฎหมายฉบับนี้เขียนไว้แต่ไม่ได้ระบุในเรื่องของความผิดถือว่าขัดหลักทั่วไปของกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ตนคิดว่าจะต้องตั้งข้อสังเกตุ เพราะไม่มีข้อปรากฎชัดเจนว่าส่วนใดเป็นเจตนารมณ์ขจองกฎหมายว่าคนที่ได้รับเลือกตั้ง มาเป้ฯรัฐมนตรีมาถูกกีดกันต้องออกค่าใช้จ่ายเองเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับเลือกมาจากระบบบัญชีรายชื่อมีจุดบกพร่องตรงไหนแต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามตรวจสอบอย่างไรก็ตามประเด็นเหล่านี้ตนคิดว่าอดีต สสร. และส.ว. ที่กำลังเคลื่อนไหวเป็นการผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในเบื้องต้นที่เขียนให้มีระบบบัญชีรายชื่อพรรคขึ้นมาก็เพื่อเอาคนดีที่ไม่สามารถพื้นที่เขตให้ได้รับเลือกตั้งได้ และไม่ได้เขียนว่าให้คนเหล่านั้นต้องเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะ 400 คนมีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีได้
"ผมขอฝากข้อสังเกตุไปยัง ส.ว.(วุฒิสมาชิก) บางคนที่ท่านไปใช้เวทีซึ่งไม่ได้กำหนดให้ใช้แสดงบทบาท แต่ไปเคลื่อนไหว ที่บริเวณถนนสีลมหรือที่ใดก็ตาม กำลังถูกต้องข้อสังเกตุจากประชาชนว่าใช้เวทีผิดที่หรือเปล่าเพราะเวทีของท่านอยู่ที่สภาและที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมกันทั้ง 2 สภา แต่กลับไปใช้วิธีปลุกระดมอย่างนี้ ผมคิดว่าท่านกำลังทำให้สถานภาพหรือการได้รับการยอมรับของส.ว. ต่ำลง เพราะท่านกลัวว่ากฎหมายที่ผ่านเสนออาจถูกตีกลับ และต่อไปอาจมีสภาเดียวถ้าการเคลื่อนไหวมีมากขึ้นจนประชาชนมีอำนาจ และท่านเองนำเกมการเมืองมาเล่นกับวิธีการของกฎหมาย ทั้งนี้การรับฟังความเห็นของประชาชนทำได้หลายทางแต่ไม่ใช่การปลุกระดม"นายถาวร กล่าว.--จบ--
-วว-