กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2544 หญิงไทยรายหนึ่งได้รายงานว่า น้องสาวของตนซึ่งบวชเป็นชีพราหมณ์ ได้ออกเดินทางจากเมืองยะโฮร์ บารูไปเมือง Mersing และเมือง Pontain รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยลำพังและมิได้กลับไปที่โรงแรมที่พักที่เมืองยะโฮร์ บารู อีก
สถานเอกอัครราชฑูตฯ ได้พยายามสอบถามและขอความร่วมมือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของมาเลเซียให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว และได้รับแจ้งว่า หญิงไทยที่หายตัวไปนั้นถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหารับบริจาคเงินในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และถูกส่งตัวให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองควบคุมที่ค่ายกักกัน Pekananas รัฐยะโฮร์ เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป ซึ่งสถานเอกอัครราชฑูต ได้ขอความร่วมมือตำรวจมาเลเซีย และหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียมิให้ดำเนินคดี และส่งตัวบุคคลดังกล่าวกลับประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งทางการมาเลเซียได้ให้ความร่วมมือด้วยดี
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศใคร่ขอเตือนคนไทยที่ประสงค์จะไปขายวัตถุมงคลหรือเรี่ยไรเงินบริจาคจากสาธารณชนเพื่อการกุศลในประเทศมาเลเซียว่าการกระทำดังกล่าว หากไม่มีใบอนุญาตถือเป็นการทำผิดกฎหมายมาเลเซีย ซึ่งมีระวางโทษรุนแรงทั้งปรับและจำคุก
จึงเรียนเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าวตามวันและเวลาดังกล่าวโดยทั่วกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2544 หญิงไทยรายหนึ่งได้รายงานว่า น้องสาวของตนซึ่งบวชเป็นชีพราหมณ์ ได้ออกเดินทางจากเมืองยะโฮร์ บารูไปเมือง Mersing และเมือง Pontain รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยลำพังและมิได้กลับไปที่โรงแรมที่พักที่เมืองยะโฮร์ บารู อีก
สถานเอกอัครราชฑูตฯ ได้พยายามสอบถามและขอความร่วมมือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของมาเลเซียให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว และได้รับแจ้งว่า หญิงไทยที่หายตัวไปนั้นถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหารับบริจาคเงินในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และถูกส่งตัวให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองควบคุมที่ค่ายกักกัน Pekananas รัฐยะโฮร์ เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป ซึ่งสถานเอกอัครราชฑูต ได้ขอความร่วมมือตำรวจมาเลเซีย และหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียมิให้ดำเนินคดี และส่งตัวบุคคลดังกล่าวกลับประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งทางการมาเลเซียได้ให้ความร่วมมือด้วยดี
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศใคร่ขอเตือนคนไทยที่ประสงค์จะไปขายวัตถุมงคลหรือเรี่ยไรเงินบริจาคจากสาธารณชนเพื่อการกุศลในประเทศมาเลเซียว่าการกระทำดังกล่าว หากไม่มีใบอนุญาตถือเป็นการทำผิดกฎหมายมาเลเซีย ซึ่งมีระวางโทษรุนแรงทั้งปรับและจำคุก
จึงเรียนเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าวตามวันและเวลาดังกล่าวโดยทั่วกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-