ข่าวในประเทศ
1. ธพ.ขอผ่อนผันบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ แหล่งข่าวจากผู้บริหาร ธพ.เปิดเผยว่า วันที่ 27 ธ.ค.43 สมาคมธนาคารไทยจะเข้าร่วมประชุมกับผู้ว่าการ ธปท.เพื่อสรุปทิศทางเศรษฐกิจปี 43 และแนวทางการดำเนินนโยบายปี 44 พร้อมทั้งจะมีการหยิบยกประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 44 ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมธนาคารไทยได้ยื่นข้อเสนอให้ ธปท.มีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การตั้งสำรอง รวมทั้งการตีมูลค่าของสินทรัพย์ที่ ธพ.ลงทุนในบริษัทย่อย สำหรับกรณีการตั้งสำรองนั้น มาตรฐานบัญชีใหม่ไม่ให้นำหลักประกันมาหักก่อนการตั้งสำรองหนี้จัดชั้น จากปัจจุบันที่จะต้องนำหลักประกันมาหักก่อน เหลือสัดส่วนเท่าไร ธพ.จึงจะเติมให้ครบตามเกณฑ์ของ ธปท. ทั้งนี้ หากประกาศใช้ปี 44 จะส่งผลกระทบต่อ ธพ.ทั้งระบบให้ต้องเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมารองรับการตั้งสำรองหนี้จัดชั้น ส่วนกรณีการตีมูลค่าสินทรัพย์ จากเดิมบริษัทประเมินตีราคาที่มูลค่าสินทรัพย์ แต่มาตรฐานบัญชีใหม่จะตีมูลค่าตามราคาตลาด และพิจารณาจากกระแสเงินสดถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจ (แนวหน้า,กรุงเทพธุรกิจ 27)
2. ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างองค์กร ธปท. ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการปรับองค์กร ธปท.เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.44 ธปท.จะมีการปรับระบบงานใน 4 สายงานหลัก คือ สายตลาดการเงิน สายกำกับสถาบันการเงิน สายออกบัตรธนาคาร และสายเงินฝากและตราสารหนี้ โดยสายตลาดการเงินจะปรับปรุงขั้นตอนและวิธีการบริหารทุนสำรองของ ธปท. การบริหารความเสี่ยง รวมทั้งตั้งศูนย์สื่อสารกลางเพื่อประสานงานกับองค์กรภายนอก ส่วนสายกำกับสถาบันการเงิน ได้ปรับปรุงวิธีการตรวจสอบสถาบันการเงิน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ(บีไอเอส)โดยเน้นการตรวจสอบระบบบริหารความเสี่ยง สำหรับสายออกบัตรธนาคาร จะปรับปรุงความสามารถในการนับคัดธนบัตร ปรับปรุงค่าธรรมเนียมการบริการตรวจนับคัดธนบัตร ส่วนสายเงินฝากและตราสารหนี้จะมีการนำระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์มาใช้ โดยมีโครงการรวมฐานข้อมูลระบบตราสารหนี้ รวมทั้งศึกษาวิเคราะห์เพื่อทำแผนรวมส่วนเงินฝากของสำนักงานสุรวงศ์กับสำนักงานใหญ่ และรวมส่วนเงินฝากสาขาลำปางกับสำนักภาคเหนือ (มติชน 27)
3. คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ มีมติให้ ก.คลังค้ำประกันพันธบัตรเงินกู้ รองปลัด ก.คลัง ในฐานะประธานกำกับดูแลหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกล่าวว่า คณะกรรมการฯ มีมติให้ ก.คลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับ พธบ.เงินกู้ของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยจะระดมทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 44 เป็นวงเงินไม่เกิน 72,000 ล.บาท และทยอยออกประมูล พธบ.ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เริ่มประมูลครั้งแรกในวันที่ 9 ม.ค.44 ทั้งนี้ การออก พธบ.แบ่งยอดวงเงินตามอายุ ประกอบด้วย พธบ.อายุ 2 ปีวงเงิน 30,000 ล.บาท, อายุ 3 ปี วงเงิน 22,000 ล.บาท และอายุ 5 ปีวงเงิน 20,000 ล.บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับการประมูลในแต่ละครั้ง สำหรับยอดการขาดทุนของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ ธปท.เสนอ ณ สิ้นเดือน ก.ย.43 มีจำนวน 207,000 ล.บาท ซึ่งคณะกรรมการฯ จะพิจารณาให้ แต่คงไม่ออก พธบ.เงินกู้ได้ทั้งหมดในปี งปม.44 (ไทยรัฐ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.8 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 27 ธ.ค.43 ก.การค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ (MITI) รายงานว่า เดือน พ.ย.43 ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นปรับฤดูกาล ตามตัวเลขเบื้องต้น ลดลงร้อยละ 0.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 ผิดไปจากความหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 โดยในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนประกอบของดัชนีฯ ต่างลดลงทุกรายการ นำโดยสินค้าคงคลังที่ลดลงร้อยละ 0.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 การส่งมอบสินค้าลดลงร้อยละ 0.3 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ในเดือน ต.ค.43 และสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบอยู่ที่ระดับ 99.5 ลดลงร้อยละ 1.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ในเดือน ต.ค.43 อย่างไรก็ตาม ผลผลิตฯ ก่อนปรับฤดูกาลในอัตราเทียบต่อปียังเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ในเดือน ต.ค.43 ขณะที่สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในเดือน ต.ค.43 การส่งมอบสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ในเดือน ต.ค.43 และสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบอยู่ที่ระดับ 97.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ MITI ประเมินสถานการณ์ผลผลิตฯ ว่า มีแนวโน้มดีขึ้น โดยได้ประมาณการผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในข้อมูลผลผลิตฯ ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 และร้อยละ 1.5 ในเดือน ธ.ค.43 และม.ค.44 ตามลำดับ ขณะที่นักวิเคราะห์เห็นว่า สถานการณ์ผลผลิตฯ ยังไม่ดี เนื่องจากการส่งออกยังอ่อนตัวต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการภายในประเทศชะลอลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ (รอยเตอร์ 27)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 8 ในปี 43 รายงานจากปักกิ่ง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.43 นสพ. China Economic Times รายงานโดยอ้างคำกล่าวของรองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (นาย Qiu Xiaohua) ว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 8.0 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 43 GDP ของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 42 ซึ่งเฉพาะในไตรมาสที่ 4 เพียงไตรมาสเดียว GDP มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 7.0 ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 43 อย่างเป็นทางการว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 7.0 แต่ผู้นำระดับสูงเห็นว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าประมาณการดังกล่าว(รอยเตอร์ 26)
3. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของมาเลเซียมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 6 ในปี 44 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ วันที่ 26 ธ.ค. 43 นรม.มาเลเซีย (นาย Mahathir Mohamad) กล่าวคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 44 ว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของมาเลเซียจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.8 เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สรอ. ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของมาเลเซีย ก่อนหน้านี้รัฐบาลประมาณการว่า GDP ในปี 44 จะขยายตัวร้อยละ 7 ลดลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 7.5 ในปี 43 โดย นรม.ฯ กล่าวว่า มาเลเซียจะต้องขยายการค้าไปยังประเทศอื่น ๆ เพื่อชดเชยการส่งออกไปยัง สรอ. ที่ลดลง (รอยเตอร์ 26)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 26 ธ.ค.43 42.106 (42.068)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 26 ธ.ค. 43
ซื้อ 41.8473 (41.8952) ขาย 42.1773 (42.2246)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,450) ขาย 5,600 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.45 (20.27)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.59 (15.59) ดีเซลหมุนเร็ว 13.14 (13.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธพ.ขอผ่อนผันบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ แหล่งข่าวจากผู้บริหาร ธพ.เปิดเผยว่า วันที่ 27 ธ.ค.43 สมาคมธนาคารไทยจะเข้าร่วมประชุมกับผู้ว่าการ ธปท.เพื่อสรุปทิศทางเศรษฐกิจปี 43 และแนวทางการดำเนินนโยบายปี 44 พร้อมทั้งจะมีการหยิบยกประเด็นมาตรฐานบัญชีใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 44 ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมธนาคารไทยได้ยื่นข้อเสนอให้ ธปท.มีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การตั้งสำรอง รวมทั้งการตีมูลค่าของสินทรัพย์ที่ ธพ.ลงทุนในบริษัทย่อย สำหรับกรณีการตั้งสำรองนั้น มาตรฐานบัญชีใหม่ไม่ให้นำหลักประกันมาหักก่อนการตั้งสำรองหนี้จัดชั้น จากปัจจุบันที่จะต้องนำหลักประกันมาหักก่อน เหลือสัดส่วนเท่าไร ธพ.จึงจะเติมให้ครบตามเกณฑ์ของ ธปท. ทั้งนี้ หากประกาศใช้ปี 44 จะส่งผลกระทบต่อ ธพ.ทั้งระบบให้ต้องเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมารองรับการตั้งสำรองหนี้จัดชั้น ส่วนกรณีการตีมูลค่าสินทรัพย์ จากเดิมบริษัทประเมินตีราคาที่มูลค่าสินทรัพย์ แต่มาตรฐานบัญชีใหม่จะตีมูลค่าตามราคาตลาด และพิจารณาจากกระแสเงินสดถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจ (แนวหน้า,กรุงเทพธุรกิจ 27)
2. ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างองค์กร ธปท. ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการปรับองค์กร ธปท.เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.44 ธปท.จะมีการปรับระบบงานใน 4 สายงานหลัก คือ สายตลาดการเงิน สายกำกับสถาบันการเงิน สายออกบัตรธนาคาร และสายเงินฝากและตราสารหนี้ โดยสายตลาดการเงินจะปรับปรุงขั้นตอนและวิธีการบริหารทุนสำรองของ ธปท. การบริหารความเสี่ยง รวมทั้งตั้งศูนย์สื่อสารกลางเพื่อประสานงานกับองค์กรภายนอก ส่วนสายกำกับสถาบันการเงิน ได้ปรับปรุงวิธีการตรวจสอบสถาบันการเงิน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ(บีไอเอส)โดยเน้นการตรวจสอบระบบบริหารความเสี่ยง สำหรับสายออกบัตรธนาคาร จะปรับปรุงความสามารถในการนับคัดธนบัตร ปรับปรุงค่าธรรมเนียมการบริการตรวจนับคัดธนบัตร ส่วนสายเงินฝากและตราสารหนี้จะมีการนำระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์มาใช้ โดยมีโครงการรวมฐานข้อมูลระบบตราสารหนี้ รวมทั้งศึกษาวิเคราะห์เพื่อทำแผนรวมส่วนเงินฝากของสำนักงานสุรวงศ์กับสำนักงานใหญ่ และรวมส่วนเงินฝากสาขาลำปางกับสำนักภาคเหนือ (มติชน 27)
3. คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ มีมติให้ ก.คลังค้ำประกันพันธบัตรเงินกู้ รองปลัด ก.คลัง ในฐานะประธานกำกับดูแลหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกล่าวว่า คณะกรรมการฯ มีมติให้ ก.คลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับ พธบ.เงินกู้ของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยจะระดมทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 44 เป็นวงเงินไม่เกิน 72,000 ล.บาท และทยอยออกประมูล พธบ.ทุกสัปดาห์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เริ่มประมูลครั้งแรกในวันที่ 9 ม.ค.44 ทั้งนี้ การออก พธบ.แบ่งยอดวงเงินตามอายุ ประกอบด้วย พธบ.อายุ 2 ปีวงเงิน 30,000 ล.บาท, อายุ 3 ปี วงเงิน 22,000 ล.บาท และอายุ 5 ปีวงเงิน 20,000 ล.บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับการประมูลในแต่ละครั้ง สำหรับยอดการขาดทุนของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ ธปท.เสนอ ณ สิ้นเดือน ก.ย.43 มีจำนวน 207,000 ล.บาท ซึ่งคณะกรรมการฯ จะพิจารณาให้ แต่คงไม่ออก พธบ.เงินกู้ได้ทั้งหมดในปี งปม.44 (ไทยรัฐ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.8 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 27 ธ.ค.43 ก.การค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ (MITI) รายงานว่า เดือน พ.ย.43 ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นปรับฤดูกาล ตามตัวเลขเบื้องต้น ลดลงร้อยละ 0.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 ผิดไปจากความหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 โดยในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนประกอบของดัชนีฯ ต่างลดลงทุกรายการ นำโดยสินค้าคงคลังที่ลดลงร้อยละ 0.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 การส่งมอบสินค้าลดลงร้อยละ 0.3 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ในเดือน ต.ค.43 และสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบอยู่ที่ระดับ 99.5 ลดลงร้อยละ 1.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ในเดือน ต.ค.43 อย่างไรก็ตาม ผลผลิตฯ ก่อนปรับฤดูกาลในอัตราเทียบต่อปียังเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ในเดือน ต.ค.43 ขณะที่สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในเดือน ต.ค.43 การส่งมอบสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ในเดือน ต.ค.43 และสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบอยู่ที่ระดับ 97.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ MITI ประเมินสถานการณ์ผลผลิตฯ ว่า มีแนวโน้มดีขึ้น โดยได้ประมาณการผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในข้อมูลผลผลิตฯ ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 และร้อยละ 1.5 ในเดือน ธ.ค.43 และม.ค.44 ตามลำดับ ขณะที่นักวิเคราะห์เห็นว่า สถานการณ์ผลผลิตฯ ยังไม่ดี เนื่องจากการส่งออกยังอ่อนตัวต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการภายในประเทศชะลอลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ (รอยเตอร์ 27)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 8 ในปี 43 รายงานจากปักกิ่ง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.43 นสพ. China Economic Times รายงานโดยอ้างคำกล่าวของรองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (นาย Qiu Xiaohua) ว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 8.0 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 43 GDP ของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 42 ซึ่งเฉพาะในไตรมาสที่ 4 เพียงไตรมาสเดียว GDP มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 7.0 ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 43 อย่างเป็นทางการว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 7.0 แต่ผู้นำระดับสูงเห็นว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าประมาณการดังกล่าว(รอยเตอร์ 26)
3. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของมาเลเซียมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 6 ในปี 44 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ วันที่ 26 ธ.ค. 43 นรม.มาเลเซีย (นาย Mahathir Mohamad) กล่าวคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 44 ว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของมาเลเซียจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.8 เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สรอ. ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของมาเลเซีย ก่อนหน้านี้รัฐบาลประมาณการว่า GDP ในปี 44 จะขยายตัวร้อยละ 7 ลดลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 7.5 ในปี 43 โดย นรม.ฯ กล่าวว่า มาเลเซียจะต้องขยายการค้าไปยังประเทศอื่น ๆ เพื่อชดเชยการส่งออกไปยัง สรอ. ที่ลดลง (รอยเตอร์ 26)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 26 ธ.ค.43 42.106 (42.068)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 26 ธ.ค. 43
ซื้อ 41.8473 (41.8952) ขาย 42.1773 (42.2246)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,450) ขาย 5,600 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.45 (20.27)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.59 (15.59) ดีเซลหมุนเร็ว 13.14 (13.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-