นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับสินค้าเมล็ดถั่วเหลือง ปี 2544 เพิ่มเติมอีกจำนวน 300,000 ตัน หลังจากลงนามในระเบียบฯครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ไปแล้ว 1,200,000 ตัน
สำหรับปริมาณเมล็ดถั่วเหลืองในโควตา WTO ครั้งที่สอง จำนวน 300,000 ตัน โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าจะออกหนังสือรับรองการชำระภาษีในโควตาให้กับนิติบุคคล 6 ราย ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว จำนวน 173,845 ตัน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย จำนวน 106,325 ตัน สมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ จำนวน 11,830 ตัน สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อการส่งออกไทย จำนวน 6,000 ตัน บริษัท ไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จำนวน 300 ตัน และบริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1,700 ตัน โดยเมล็ดถั่วเหลืองที่นำเข้าจะต้องอยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าที่ 1201.001 และ 1201.009 ซึ่งประเทศที่ผู้นำเข้าของไทยจะนำเข้ามาได้ ต้องเป็นเมล็ดถั่วเหลืองที่มีถิ่นกำเนิดและส่งมาจากสมาชิก WTO หรือภาคีแกตต์ 1947 สปป.ลาว และกัมพูชา เท่านั้น ทั้งนี้การเปิดให้นำเข้าเพิ่มเติมจะไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ได้รับจัดสรรในการนำเข้ายังคงรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกรภายในประเทศตลอด
ในด้านสถิติการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองตามหนังสือรับรองของกรมการค้าต่างประเทศตั้งแต่เดือนมกราคม — กันยายน 2544 นำเข้ามาแล้วจำนวน 859,764 ตัน มูลค่าประมาณ 7,726 ล้านบาท โดยนำเข้าจากอาร์เยนตินามากที่สุด รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา บราซิล แคนาดา และจีน
--กรมการค้าต่างประเทศ ตุลาคม 2544--
-อน-
สำหรับปริมาณเมล็ดถั่วเหลืองในโควตา WTO ครั้งที่สอง จำนวน 300,000 ตัน โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าจะออกหนังสือรับรองการชำระภาษีในโควตาให้กับนิติบุคคล 6 ราย ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว จำนวน 173,845 ตัน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย จำนวน 106,325 ตัน สมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ จำนวน 11,830 ตัน สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อการส่งออกไทย จำนวน 6,000 ตัน บริษัท ไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จำนวน 300 ตัน และบริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1,700 ตัน โดยเมล็ดถั่วเหลืองที่นำเข้าจะต้องอยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าที่ 1201.001 และ 1201.009 ซึ่งประเทศที่ผู้นำเข้าของไทยจะนำเข้ามาได้ ต้องเป็นเมล็ดถั่วเหลืองที่มีถิ่นกำเนิดและส่งมาจากสมาชิก WTO หรือภาคีแกตต์ 1947 สปป.ลาว และกัมพูชา เท่านั้น ทั้งนี้การเปิดให้นำเข้าเพิ่มเติมจะไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ได้รับจัดสรรในการนำเข้ายังคงรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกรภายในประเทศตลอด
ในด้านสถิติการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองตามหนังสือรับรองของกรมการค้าต่างประเทศตั้งแต่เดือนมกราคม — กันยายน 2544 นำเข้ามาแล้วจำนวน 859,764 ตัน มูลค่าประมาณ 7,726 ล้านบาท โดยนำเข้าจากอาร์เยนตินามากที่สุด รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา บราซิล แคนาดา และจีน
--กรมการค้าต่างประเทศ ตุลาคม 2544--
-อน-