การพักชำระหนี้และลดภาระหนี้แก่เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2544 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้แก่เกษตรกร รายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลผ่านระบบ ธ.ก.ส. โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.1 เป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. หรือสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่เป็นลูกค้าและใช้บริการเงินกู้โดยตรงกับ ธ.ก.ส. หรือเป็นเกษตรกรที่รับภาระหนี้สินแทนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ในฐานะผู้ค้ำประกันหรือทายาทโดยธรรมก่อนวันที่ 1 เมษายน 2544 โดยเกษตรกรต้องแสดงความจำนงเข้าร่วม โครงการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544
1.2 เป็นเกษตรกรที่ไม่เคยถูก ธ.ก.ส. ดำเนินคดีในฐานะผู้กู้มาก่อน
1.3 เป็นเกษตรกรที่มีภาระหนี้เงินกู้กับ ธ.ก.ส. ในวงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท (ไม่นับภาระหนี้เงินกู้ตามโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลและไม่นับรวมดอกเบี้ยเงินกู้)
2. รัฐบาลจะสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยที่พักชำระหนี้ออมเงินตามความสามารถและฟื้นฟูอาชีพตลอดระยะเวลาที่พักชำระหนี้
3. เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้สิทธิประโยชน์ ดังนี้
3.1 หลังพักชำระหนี้ในปีที่ 4 เกษตรกรดังกล่าวจะได้รับสิทธิ ในการชำระดอกเบี้ยตามเกณฑ์ลูกค้าชั้นเดิมก่อนพักชำระหนี้
3.2 เกษตรกรจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มเติมร้อยละ 1 ต่อปี จากอัตราปกติ เป็นเวลา 3 ปี ในวงเงินฝากไม่เกินรายละ 50,000 บาท
3.3 เกษตรกรที่ชำระหนี้ได้ครบถ้วนก่อนกำหนด 3 ปี จะได้รับเลื่อนชั้นคุณภาพลูกค้าสูงขึ้นตามเกณฑ์ของ ธ.ก.ส.
4. ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในส่วนที่ ธ.ก.ส. ต้องจ่ายเพิ่มจากการดำเนินงานตามปกติ เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกินปีละ 7,700 ล้านบาท
5. ในส่วนของเกษตรกรที่มีวงเงินกู้ 100,000 บาท ซึ่งไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ดูแลช่วยเหลือ โดยการเร่งรัดให้มีการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูเกษตรกร ดังกล่าว
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2544 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้แก่เกษตรกร รายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลผ่านระบบ ธ.ก.ส. โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.1 เป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. หรือสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่เป็นลูกค้าและใช้บริการเงินกู้โดยตรงกับ ธ.ก.ส. หรือเป็นเกษตรกรที่รับภาระหนี้สินแทนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ในฐานะผู้ค้ำประกันหรือทายาทโดยธรรมก่อนวันที่ 1 เมษายน 2544 โดยเกษตรกรต้องแสดงความจำนงเข้าร่วม โครงการภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544
1.2 เป็นเกษตรกรที่ไม่เคยถูก ธ.ก.ส. ดำเนินคดีในฐานะผู้กู้มาก่อน
1.3 เป็นเกษตรกรที่มีภาระหนี้เงินกู้กับ ธ.ก.ส. ในวงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท (ไม่นับภาระหนี้เงินกู้ตามโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลและไม่นับรวมดอกเบี้ยเงินกู้)
2. รัฐบาลจะสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยที่พักชำระหนี้ออมเงินตามความสามารถและฟื้นฟูอาชีพตลอดระยะเวลาที่พักชำระหนี้
3. เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้สิทธิประโยชน์ ดังนี้
3.1 หลังพักชำระหนี้ในปีที่ 4 เกษตรกรดังกล่าวจะได้รับสิทธิ ในการชำระดอกเบี้ยตามเกณฑ์ลูกค้าชั้นเดิมก่อนพักชำระหนี้
3.2 เกษตรกรจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มเติมร้อยละ 1 ต่อปี จากอัตราปกติ เป็นเวลา 3 ปี ในวงเงินฝากไม่เกินรายละ 50,000 บาท
3.3 เกษตรกรที่ชำระหนี้ได้ครบถ้วนก่อนกำหนด 3 ปี จะได้รับเลื่อนชั้นคุณภาพลูกค้าสูงขึ้นตามเกณฑ์ของ ธ.ก.ส.
4. ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในส่วนที่ ธ.ก.ส. ต้องจ่ายเพิ่มจากการดำเนินงานตามปกติ เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกินปีละ 7,700 ล้านบาท
5. ในส่วนของเกษตรกรที่มีวงเงินกู้ 100,000 บาท ซึ่งไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ดูแลช่วยเหลือ โดยการเร่งรัดให้มีการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูเกษตรกร ดังกล่าว
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-