เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2547 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
1. ประเทศอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด Tsunami Summit ณ กรุงจาการ์ตา ในวันที่ 6 มกราคม 2548 ซึ่งเป็นผลมาจากการริเริ่มและหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และนายกรัฐมนตรีของไทยโดยจะมีผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ อาทิ อินเดีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ และประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ อาจพิจารณาเชิญประเทศที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี สวีเดน ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งเชิญองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมหารือด้วย ได้แก่ องค์การสหประชาชาติ (UN), ธนาคารโลก (World Bank), ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB), องค์การอนามัยโลก (WHO), และสหภาพยุโรป (EU) โดยจะมีหัวข้อในการประชุม คือ
1.1 เพื่อร่วมกันวางระบบป้องกันและเตือนภัยสำหรับภัยพิบัติในมหาสมุทรอินเดีย
1.2 เพื่อระดมความช่วยเหลือสำหรับประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนระหว่างประเทศภายใต้การดูแลของ UN
ทั้งนี้ การประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ
(1) ระดับผู้นำ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมย์ทางการเมืองในระดับภูมิภาคและในระดับประเทศเพื่อการฟื้นฟูและวางระบบเตือนภัยร่วมกัน
(2) ระดับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
โดยการประชุมระดับผู้นำจะมีเพียงวันเดียว คือ วันที่ 6 มกราคม 2548
2. การเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นาย Colin Powell รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง อาทิ นาย Jeb Bush ผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา น้องชายประธานาธิบดี George W. Bush นาย James Kelly ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการ เอเชียและแปซิฟิก นาย Andrew Natsios ผู้อำนวยการ United States Agency for International Development (USAID) และนาย Ralph Boyce ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยมีกำหนดเดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 3 — 4 มกราคม 2548 ในฐานะผู้แทนรัฐบาลและประชาชนสหรัฐฯ เพื่อแสดงความเสียใจต่อไทยที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ประสบภัย
นาย Powell และคณะจะเข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและจะเดินทางไป จ.ภูเก็ตเพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จากนั้นมีกำหนดเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มกราคม 2548
3. ความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัย ที่ จ.พังงา เจ้าหน้าที่สามารถชันสูตรศพจำนวน 500 - 600 ศพ / วัน ซึ่งจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติที่วัดย่านยาว ต.เขาหลัก จ.พังงา ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำว่ารัฐบาลไทยไม่มีนโยบายในการเผาศพชาวต่างชาติ ศพที่ถูกเผาไปนั้น เป็นศพของคนไทยที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ในวันนี้ (31 ธันวาคม) เวลา 19.00 น. จะมีการประกอบพิธีจุดเทียนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตหน้าศูนย์การค้า Central Festival และที่ จ.กระบี่ ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 371 ราย ได้รับการชันสูตรแล้ว 336 ราย ซึ่งแบ่งเป็นชาวต่างประเทศจำนวน 88 ราย และคนไทย 141 ราย และไม่ทราบสัญชาติ 107 ราย
สำหรับการช่วยเหลือจากต่างชาติล่าสุด มีดังนี้
- ญี่ปุ่นได้ส่งเรือจำนวน 3 ลำ เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือร่วมกับกองทัพเรือไทยเพื่อกู้ศพที่ลอยในทะเลและชายฝั่งรวมทั้งค้นหาผู้สูญหาย
- สิงคโปร์ได้ส่งหน่วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยฝ่ายไทยค้นหาผู้สูญหาย
- รัฐบาลเวียตนามได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ไทย อินเดีย ศรีลังกา และจำนวน 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่อินโดนีเซียเพื่อช่วยบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งอธิบดีกรมสารนิเทศได้ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณรัฐบาลเวียตนามด้วย
- สวิตเซอร์แลนด์จะส่งหน่วยแพทย์ จำนวน 15 คน เข้ามาปฏิบัติการ ช่วยเหลือร่วมกับคณะแพทย์ฝ่ายไทยและจะส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวน 22 คน มาช่วยเหลือ กู้ภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
ในการนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแบบ One Stop Service เพื่อดำเนินการในเรื่องชันสูตรศพ พิสูจน์สัญชาติ พิสูจน์ดีเอ็นเอ และออกใบมรณะบัตร โดยศูนย์ฯ นี้ได้จัดตั้งขึ้นแล้วที่ จ. ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความจำนงขอรับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ในเรื่องผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์สัญชาติและพิสูจน์ดีเอ็นเอมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
1. ประเทศอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด Tsunami Summit ณ กรุงจาการ์ตา ในวันที่ 6 มกราคม 2548 ซึ่งเป็นผลมาจากการริเริ่มและหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และนายกรัฐมนตรีของไทยโดยจะมีผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ อาทิ อินเดีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ และประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ อาจพิจารณาเชิญประเทศที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี สวีเดน ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งเชิญองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมหารือด้วย ได้แก่ องค์การสหประชาชาติ (UN), ธนาคารโลก (World Bank), ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB), องค์การอนามัยโลก (WHO), และสหภาพยุโรป (EU) โดยจะมีหัวข้อในการประชุม คือ
1.1 เพื่อร่วมกันวางระบบป้องกันและเตือนภัยสำหรับภัยพิบัติในมหาสมุทรอินเดีย
1.2 เพื่อระดมความช่วยเหลือสำหรับประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนระหว่างประเทศภายใต้การดูแลของ UN
ทั้งนี้ การประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ
(1) ระดับผู้นำ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมย์ทางการเมืองในระดับภูมิภาคและในระดับประเทศเพื่อการฟื้นฟูและวางระบบเตือนภัยร่วมกัน
(2) ระดับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
โดยการประชุมระดับผู้นำจะมีเพียงวันเดียว คือ วันที่ 6 มกราคม 2548
2. การเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นาย Colin Powell รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง อาทิ นาย Jeb Bush ผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา น้องชายประธานาธิบดี George W. Bush นาย James Kelly ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการ เอเชียและแปซิฟิก นาย Andrew Natsios ผู้อำนวยการ United States Agency for International Development (USAID) และนาย Ralph Boyce ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยมีกำหนดเดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 3 — 4 มกราคม 2548 ในฐานะผู้แทนรัฐบาลและประชาชนสหรัฐฯ เพื่อแสดงความเสียใจต่อไทยที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ประสบภัย
นาย Powell และคณะจะเข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและจะเดินทางไป จ.ภูเก็ตเพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จากนั้นมีกำหนดเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มกราคม 2548
3. ความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัย ที่ จ.พังงา เจ้าหน้าที่สามารถชันสูตรศพจำนวน 500 - 600 ศพ / วัน ซึ่งจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติที่วัดย่านยาว ต.เขาหลัก จ.พังงา ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำว่ารัฐบาลไทยไม่มีนโยบายในการเผาศพชาวต่างชาติ ศพที่ถูกเผาไปนั้น เป็นศพของคนไทยที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ในวันนี้ (31 ธันวาคม) เวลา 19.00 น. จะมีการประกอบพิธีจุดเทียนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตหน้าศูนย์การค้า Central Festival และที่ จ.กระบี่ ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 371 ราย ได้รับการชันสูตรแล้ว 336 ราย ซึ่งแบ่งเป็นชาวต่างประเทศจำนวน 88 ราย และคนไทย 141 ราย และไม่ทราบสัญชาติ 107 ราย
สำหรับการช่วยเหลือจากต่างชาติล่าสุด มีดังนี้
- ญี่ปุ่นได้ส่งเรือจำนวน 3 ลำ เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือร่วมกับกองทัพเรือไทยเพื่อกู้ศพที่ลอยในทะเลและชายฝั่งรวมทั้งค้นหาผู้สูญหาย
- สิงคโปร์ได้ส่งหน่วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยฝ่ายไทยค้นหาผู้สูญหาย
- รัฐบาลเวียตนามได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ไทย อินเดีย ศรีลังกา และจำนวน 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่อินโดนีเซียเพื่อช่วยบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งอธิบดีกรมสารนิเทศได้ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณรัฐบาลเวียตนามด้วย
- สวิตเซอร์แลนด์จะส่งหน่วยแพทย์ จำนวน 15 คน เข้ามาปฏิบัติการ ช่วยเหลือร่วมกับคณะแพทย์ฝ่ายไทยและจะส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวน 22 คน มาช่วยเหลือ กู้ภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
ในการนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแบบ One Stop Service เพื่อดำเนินการในเรื่องชันสูตรศพ พิสูจน์สัญชาติ พิสูจน์ดีเอ็นเอ และออกใบมรณะบัตร โดยศูนย์ฯ นี้ได้จัดตั้งขึ้นแล้วที่ จ. ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความจำนงขอรับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ในเรื่องผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์สัญชาติและพิสูจน์ดีเอ็นเอมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-