กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กรมเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “นโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค” ในวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม 2544 ณ วิเทศสโมสร ส่วน 2 เวลาประมาณ 8.30 |17.30 น. โดยมีนายประดาป พิบูลสงคราม อธิบดีกรมเศรษฐกิจเป็นประธานการประชุม ฯ ในปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าร่วมในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับ อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงหลายกรอบ ได้แก่ - ASEAN ครอบคลุม 10 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงฯ เป็น national focal point - ASEAN + 3 เป็นกรอบการเจรจาระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น จีน และสาธารณรัฐ เกาหลี กระทรวงฯ เป็น national focal point - ASEAN | Mekong Basin Development Cooperation (AMBDC) ครอบคลุม 11 ประเทศ ได้แก่ สมาชิกอาเซียน และจีน โดยมีความร่วมมือใน 8 สาขา ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน การค้า/การลงทุน การเกษตร ป่าไม้และแร่ธาตุ อุตสาหกรรม SMEs การท่องเที่ยว ทรัพยากรมนุษย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวง ฯ เป็น national focal point และประเทศไทยกำลังจะเป็นประเทศเจ้าภาพในปีนี้ (2001-2002) - The Initiative for ASEAN Integration (IAI) ครอบคลุม 10 ประเทศอาเซียน และมีความร่วมมือใน 3 สาขาหลัก คือ โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการที่ประเทศสมาชิกเดิมจะให้ GSP แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ด้วย กระทรวง ฯ เป็น national focal point - Greater Mekong Sub-region (GMS) ครอบคลุม 6 ประเทศริมแม่น้ำโขง คือ จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม กรอบนี้ช่วยเชื่อมโยงจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาคพื้นทวีป มีความร่วมมือใน 8 สาขา คือ คมนาคม-ขนส่ง พลังงาน สื่อสารโทรคมนาคม ทรัพยากรมนุษย์ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การค้า การลงทุน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ เป็น national focal point - Bangladesh | India | Myanmar | Sri Lanka | Thailand | Economic Cooperation (BIMST-EC) ครอบคลุม 5 ประเทศดังกล่าว กรอบนี้เชื่อมโยงไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทางตะวันตกจนถึงเอเชียใต้ มีความร่วมมือ 6 สาขาหลัก คือ การประมง การท่องเที่ยว การคมนาคม การค้าการลงทุน พลังงาน และเทคโนโลยี และอีก 15 สาขาย่อย กระทรวงฯ เป็น national focal point และประเทศไทยเป็น lead country ในสาขาการประมง นอกจากนี้ ข้อมติของ ESCAP ที่ 56/1 ได้ประกาศ ให้ปี ค.ศ. 2000-2009 เป็นทศวรรษแห่งการพัฒนาลุ่มน้ำโขง และได้ขอให้เลขาธิการบริหารของ ESCAP เรียกประชุมฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างแผนงานพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งกว่านั้น ระหว่างการเยือนกัมพูชาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ฯ ไทยได้ตอบรับคำขอของกัมพูชาให้ไทย เป็นประเทศเจ้าภาพ Mekong Summit (ไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เพื่อจัดทำแผนแม่บท ว่าด้วยการพัฒนาด้านต่าง ๆ ในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อผลักดันโครงการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมที่เด่นชัด โดยที่ความร่วมมือในกรอบต่าง ๆ มีความซ้ำซ้อนกันทั้งในประเด็นประเทศที่เข้าร่วม และสาขาความร่วมมือ ซึ่งอาจทำให้ยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมือต่างๆ ไม่ชัดเจนเท่าทีควร กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นประโยชน์ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “นโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค” นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมือแต่ละสาขาในทุกกรอบความร่วมมือ รวมทั้งโครงการความช่วยเหลือที่ไทยได้รับและให้กับต่างประเทศ เพื่อสามารถมองเห็นภาพรวมและให้มีความสอดคล้องของแผนงาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยในแต่ละสาขาความร่วมมือต่อไป ในการประชุมดังกล่าวจะมีการบรรยายโดยผู้แทน Asian Development Bank ผู้แทน ESCAP ผู้แทนจากหน่วยราชการต่างๆ ของไทย โดยมีหัวข้อในการประชุม 4 หัวข้อ ได้แก่ 1. การทบทวนความร่วมมือในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค 2. ความร่วมมือทวิภาคีกับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และจีน 3. การใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 4. นโยบายของไทยรายสาขา (คมนาคมขนส่ง สื่อสารโทรคมนาคม พลังงาน การท่องเที่ยว การค้า การเกษตรและการประมง การลงทุนและปรับโครงสร้าง การผลิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อม) และยุทธศาสตร์ในการส่งเสริม ผลประโยชน์ของไทยในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ดังรายละเอียดปรากฏตามร่างกำหนดการประชุมแนบมาพร้อมนี้ โดยที่การประชุมนี้จะเป็นการประชุมเปิด กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเชิญสื่อมวลชนที่สนใจ เข้าร่วมรับฟัง และทำข่าวการประชุมนี้ ตามวัน เวลาและสถานที่ข้างต้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7(ยังมีต่อ)
-อน-
กรมเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “นโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค” ในวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม 2544 ณ วิเทศสโมสร ส่วน 2 เวลาประมาณ 8.30 |17.30 น. โดยมีนายประดาป พิบูลสงคราม อธิบดีกรมเศรษฐกิจเป็นประธานการประชุม ฯ ในปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าร่วมในกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับ อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงหลายกรอบ ได้แก่ - ASEAN ครอบคลุม 10 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงฯ เป็น national focal point - ASEAN + 3 เป็นกรอบการเจรจาระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น จีน และสาธารณรัฐ เกาหลี กระทรวงฯ เป็น national focal point - ASEAN | Mekong Basin Development Cooperation (AMBDC) ครอบคลุม 11 ประเทศ ได้แก่ สมาชิกอาเซียน และจีน โดยมีความร่วมมือใน 8 สาขา ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน การค้า/การลงทุน การเกษตร ป่าไม้และแร่ธาตุ อุตสาหกรรม SMEs การท่องเที่ยว ทรัพยากรมนุษย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวง ฯ เป็น national focal point และประเทศไทยกำลังจะเป็นประเทศเจ้าภาพในปีนี้ (2001-2002) - The Initiative for ASEAN Integration (IAI) ครอบคลุม 10 ประเทศอาเซียน และมีความร่วมมือใน 3 สาขาหลัก คือ โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการที่ประเทศสมาชิกเดิมจะให้ GSP แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ด้วย กระทรวง ฯ เป็น national focal point - Greater Mekong Sub-region (GMS) ครอบคลุม 6 ประเทศริมแม่น้ำโขง คือ จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม กรอบนี้ช่วยเชื่อมโยงจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาคพื้นทวีป มีความร่วมมือใน 8 สาขา คือ คมนาคม-ขนส่ง พลังงาน สื่อสารโทรคมนาคม ทรัพยากรมนุษย์ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การค้า การลงทุน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ เป็น national focal point - Bangladesh | India | Myanmar | Sri Lanka | Thailand | Economic Cooperation (BIMST-EC) ครอบคลุม 5 ประเทศดังกล่าว กรอบนี้เชื่อมโยงไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทางตะวันตกจนถึงเอเชียใต้ มีความร่วมมือ 6 สาขาหลัก คือ การประมง การท่องเที่ยว การคมนาคม การค้าการลงทุน พลังงาน และเทคโนโลยี และอีก 15 สาขาย่อย กระทรวงฯ เป็น national focal point และประเทศไทยเป็น lead country ในสาขาการประมง นอกจากนี้ ข้อมติของ ESCAP ที่ 56/1 ได้ประกาศ ให้ปี ค.ศ. 2000-2009 เป็นทศวรรษแห่งการพัฒนาลุ่มน้ำโขง และได้ขอให้เลขาธิการบริหารของ ESCAP เรียกประชุมฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างแผนงานพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งกว่านั้น ระหว่างการเยือนกัมพูชาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ฯ ไทยได้ตอบรับคำขอของกัมพูชาให้ไทย เป็นประเทศเจ้าภาพ Mekong Summit (ไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เพื่อจัดทำแผนแม่บท ว่าด้วยการพัฒนาด้านต่าง ๆ ในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อผลักดันโครงการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมที่เด่นชัด โดยที่ความร่วมมือในกรอบต่าง ๆ มีความซ้ำซ้อนกันทั้งในประเด็นประเทศที่เข้าร่วม และสาขาความร่วมมือ ซึ่งอาจทำให้ยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมือต่างๆ ไม่ชัดเจนเท่าทีควร กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นประโยชน์ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “นโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค” นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์ของไทยต่อกรอบความร่วมมือแต่ละสาขาในทุกกรอบความร่วมมือ รวมทั้งโครงการความช่วยเหลือที่ไทยได้รับและให้กับต่างประเทศ เพื่อสามารถมองเห็นภาพรวมและให้มีความสอดคล้องของแผนงาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทยในแต่ละสาขาความร่วมมือต่อไป ในการประชุมดังกล่าวจะมีการบรรยายโดยผู้แทน Asian Development Bank ผู้แทน ESCAP ผู้แทนจากหน่วยราชการต่างๆ ของไทย โดยมีหัวข้อในการประชุม 4 หัวข้อ ได้แก่ 1. การทบทวนความร่วมมือในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค 2. ความร่วมมือทวิภาคีกับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และจีน 3. การใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 4. นโยบายของไทยรายสาขา (คมนาคมขนส่ง สื่อสารโทรคมนาคม พลังงาน การท่องเที่ยว การค้า การเกษตรและการประมง การลงทุนและปรับโครงสร้าง การผลิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อม) และยุทธศาสตร์ในการส่งเสริม ผลประโยชน์ของไทยในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ดังรายละเอียดปรากฏตามร่างกำหนดการประชุมแนบมาพร้อมนี้ โดยที่การประชุมนี้จะเป็นการประชุมเปิด กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเชิญสื่อมวลชนที่สนใจ เข้าร่วมรับฟัง และทำข่าวการประชุมนี้ ตามวัน เวลาและสถานที่ข้างต้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7(ยังมีต่อ)
-อน-