รัฐบาลอินเดียได้นำแนวคิดเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones: SEZs) มารวมอยู่ในนโยบายด้านการส่งออกและนำเข้าของอินเดีย (Exim Policy) เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2543 โดยอนุมัติให้เขตอุตสาหกรรมส่งออก (Export Processing Zones: EPZs) ที่มีอยู่เดิมทั้ง 8 แห่ง เปลี่ยนเป็น SEZs ได้แก่ ในรัฐคุชราต เกรละ มหาราษฏระ เบงกอลตะวันตก ทมิฬนาฑู อานธรประเทศ อุตตรประเทศ และมัธยประเทศ ซึ่งบริษัทที่จัดตั้งใน SEZs จะสามารถผลิตสินค้าทั้งเพื่อส่งออกหรือเพื่อจำหน่ายในประเทศได้ จะแตกต่างจากบริษัทใน EPZs ที่กำหนดให้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกเป็นหลัก โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะใช้ SEZs เป็นตัวจักรสำคัญในการสนับสนุนการค้าและการลงทุนของประเทศให้เติบโตอันจะนำมาซึ่งรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังช่วยเพิ่มการสร้างงานในประเทศอีกด้วย
ปัจจุบันอุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่ใน SEZs มีหลายประเภท อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกีฬา และเครื่องหนัง เป็นต้น จนถึง ณ สิ้นปี 2547 รัฐบาลอินเดียได้อนุมัติให้จัดตั้ง SEZs เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 28 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้ง
ข้อกำหนดในการจัดตั้ง SEZs
หน่วยงานของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือบริษัทร่วมทุนระหว่างชาวอินเดียกับชาวต่างชาติ สามารถเป็นผู้จัดตั้ง SEZs (SEZs Developer) ได้
ขนาดพื้นที่ของ SEZs ที่จัดตั้งขึ้นใหม่แต่ละแห่งต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 เฮกตาร์หรือประมาณ 6,000 ไร่ ยกเว้น SEZs ที่เปลี่ยนมาจาก EPZs เดิม ซึ่งอาจมีขนาดพื้นที่เล็กกว่า
บริษัทที่ต้องการดำเนินกิจการใน SEZs (SEZs Unit) จะต้องยื่นคำขอต่อ Development Commissioners ของ SEZs ที่ตนต้องการเข้าไปดำเนินกิจการ โดยต้องระบุถึงรายละเอียดของบริษัท แผนรายรับรายจ่ายในรูปเงินตราต่างประเทศ แผนการผลิตในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินงาน แผนการจ้างงาน รวมถึงข้อมูลด้านการตลาดของบริษัท
บริษัทต่างชาติที่ต้องการจัดตั้งบริษัทใน SEZs ของอินเดีย จะต้องจดทะเบียนบริษัทภายใต้ Indian Companies Act
สิทธิพิเศษที่บริษัทใน SEZs จะได้รับ
ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 100% ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินงาน และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% ใน 2 ปีต่อมา
บริษัทที่ตั้งอยู่ใน SEZs สามารถนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบ และบริการที่ต้องใช้ในการผลิตจากต่างประเทศ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้ารวมทั้งยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าและบริการดังกล่าวด้วย
บริษัทที่เข้าไปลงทุนจัดตั้งใน SEZs สามารถถือหุ้นโดยต่างชาติได้ 100% ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภท ยกเว้นการผลิตอาวุธ ระเบิด วัตถุนิวเคลียร์ สารเสพติด สารเคมีอันตราย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ
สถานะของ SEZs ในปัจจุบัน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 บริษัทที่ดำเนินการอยู่ใน SEZs ทั้ง 8 แห่ง จำนวน 711 บริษัท ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวน 86,765 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2546 (1 เมษายน 2546 - 31 มีนาคม 2547) การส่งออกจาก SEZs ทั้ง 8 แห่ง มีมูลค่า 3,005.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราว 4.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของอินเดีย เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนถึง 39%
ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังเร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อจูงใจให้ธุรกิจต่างๆ เข้าไปลงทุนใน SEZs ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้สมบูรณ์ขึ้นเพื่อรองรับการลงทุน การแก้ไขกฎระเบียบด้านการลงทุนเพื่อดึงดูดให้ทั้งนักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้มูลค่าการส่งออกจาก SEZs ต่อการส่งออกรวมของประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2548--
-พห-
ปัจจุบันอุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่ใน SEZs มีหลายประเภท อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกีฬา และเครื่องหนัง เป็นต้น จนถึง ณ สิ้นปี 2547 รัฐบาลอินเดียได้อนุมัติให้จัดตั้ง SEZs เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 28 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้ง
ข้อกำหนดในการจัดตั้ง SEZs
หน่วยงานของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือบริษัทร่วมทุนระหว่างชาวอินเดียกับชาวต่างชาติ สามารถเป็นผู้จัดตั้ง SEZs (SEZs Developer) ได้
ขนาดพื้นที่ของ SEZs ที่จัดตั้งขึ้นใหม่แต่ละแห่งต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 เฮกตาร์หรือประมาณ 6,000 ไร่ ยกเว้น SEZs ที่เปลี่ยนมาจาก EPZs เดิม ซึ่งอาจมีขนาดพื้นที่เล็กกว่า
บริษัทที่ต้องการดำเนินกิจการใน SEZs (SEZs Unit) จะต้องยื่นคำขอต่อ Development Commissioners ของ SEZs ที่ตนต้องการเข้าไปดำเนินกิจการ โดยต้องระบุถึงรายละเอียดของบริษัท แผนรายรับรายจ่ายในรูปเงินตราต่างประเทศ แผนการผลิตในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินงาน แผนการจ้างงาน รวมถึงข้อมูลด้านการตลาดของบริษัท
บริษัทต่างชาติที่ต้องการจัดตั้งบริษัทใน SEZs ของอินเดีย จะต้องจดทะเบียนบริษัทภายใต้ Indian Companies Act
สิทธิพิเศษที่บริษัทใน SEZs จะได้รับ
ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 100% ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินงาน และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% ใน 2 ปีต่อมา
บริษัทที่ตั้งอยู่ใน SEZs สามารถนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบ และบริการที่ต้องใช้ในการผลิตจากต่างประเทศ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้ารวมทั้งยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าและบริการดังกล่าวด้วย
บริษัทที่เข้าไปลงทุนจัดตั้งใน SEZs สามารถถือหุ้นโดยต่างชาติได้ 100% ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภท ยกเว้นการผลิตอาวุธ ระเบิด วัตถุนิวเคลียร์ สารเสพติด สารเคมีอันตราย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ
สถานะของ SEZs ในปัจจุบัน
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 บริษัทที่ดำเนินการอยู่ใน SEZs ทั้ง 8 แห่ง จำนวน 711 บริษัท ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวน 86,765 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2546 (1 เมษายน 2546 - 31 มีนาคม 2547) การส่งออกจาก SEZs ทั้ง 8 แห่ง มีมูลค่า 3,005.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราว 4.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของอินเดีย เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนถึง 39%
ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังเร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อจูงใจให้ธุรกิจต่างๆ เข้าไปลงทุนใน SEZs ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้สมบูรณ์ขึ้นเพื่อรองรับการลงทุน การแก้ไขกฎระเบียบด้านการลงทุนเพื่อดึงดูดให้ทั้งนักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้มูลค่าการส่งออกจาก SEZs ต่อการส่งออกรวมของประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2548--
-พห-