ประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียกร้องทุกฝ่ายให้ความเคารพผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่าการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่สามารถกดดันศาลรัฐธรรมนูญได้ ระบุทุกฝ่ายต้องเคารพผลการวินิจฉัยของศาลไม่เช่นนั้น
อาจเกิดความขัดแย้งได้
วันที่ 13 มิถุนายน 2544 เวลา 09.40 นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ
เครือข่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสตรีและสมาชิกวุฒิสภาสตรี ณ โรงแรมสยามซิตี้ กรณีมี
กลุ่มต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหวล่ารายชื่อประชาชนยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้กำลังใจ
นายกรัฐมนตรีว่า ตามระเบียบปฏิบัติประธานสภาไม่สามารถจะทำอะไร แต่กลุ่มต่าง ๆ มีสิทธิ
ที่จะเสนออะไรก็ได้ตามระบอบประชาธิปไตยเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปิดโอกาสให้
ประชาชนมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามประธานสภาผู้แทนราษฎรมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว
จะไม่สามารถกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีหลักในการพิจารณา และเมื่อ
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายจะต้องให้ความเคารพด้วย ไม่เช่นนั้นจะเกิด
ความขัดแย้งในบ้านเมืองได้
ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่จะมีขึ้น
ในระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมนี้ว่า จะมีการพิจารณาพระราชกำหนดบรรษัทบริหาร
สินทรัพย์ไทย และต่อด้วยการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2545
ซึ่งจะเริ่มพิจารณาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยไม่กำหนดเวลาว่าจะพิจารณากี่วัน
แต่จะให้อภิปรายกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเห็นว่ามีประเด็นซ้ำกันแล้วจึงจะเสนอปิด และหากมี
เวลาพอวุฒิสภาอาจจะมีการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 คน จากที่มีการเสนอมา
จำนวน 10 คนก็ได้
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่าการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่สามารถกดดันศาลรัฐธรรมนูญได้ ระบุทุกฝ่ายต้องเคารพผลการวินิจฉัยของศาลไม่เช่นนั้น
อาจเกิดความขัดแย้งได้
วันที่ 13 มิถุนายน 2544 เวลา 09.40 นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ
เครือข่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสตรีและสมาชิกวุฒิสภาสตรี ณ โรงแรมสยามซิตี้ กรณีมี
กลุ่มต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหวล่ารายชื่อประชาชนยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้กำลังใจ
นายกรัฐมนตรีว่า ตามระเบียบปฏิบัติประธานสภาไม่สามารถจะทำอะไร แต่กลุ่มต่าง ๆ มีสิทธิ
ที่จะเสนออะไรก็ได้ตามระบอบประชาธิปไตยเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปิดโอกาสให้
ประชาชนมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามประธานสภาผู้แทนราษฎรมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว
จะไม่สามารถกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีหลักในการพิจารณา และเมื่อ
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายจะต้องให้ความเคารพด้วย ไม่เช่นนั้นจะเกิด
ความขัดแย้งในบ้านเมืองได้
ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่จะมีขึ้น
ในระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมนี้ว่า จะมีการพิจารณาพระราชกำหนดบรรษัทบริหาร
สินทรัพย์ไทย และต่อด้วยการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2545
ซึ่งจะเริ่มพิจารณาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยไม่กำหนดเวลาว่าจะพิจารณากี่วัน
แต่จะให้อภิปรายกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเห็นว่ามีประเด็นซ้ำกันแล้วจึงจะเสนอปิด และหากมี
เวลาพอวุฒิสภาอาจจะมีการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 คน จากที่มีการเสนอมา
จำนวน 10 คนก็ได้
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร