_นายจุติ ไกรฤกษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โต้กลับ "ทรท." กล้าคนละแบบ ใครกันที่ไม่มี "ยาง" นายจุติ ไกรฤกษ์ _รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ โฆษกพรรคไทยรักไทย ออกมากล่าวถึงรัฐบาลให้ใช้ความกล้าหาญ ในการตัดสินใจแก้ปัหาต่าง ๆ ของประเทศ รวมทั้งการใช้เงินของพรรคไทยรักไทยเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญ หาด้านเศรษฐกิจของประเทศหลายครั้ง และทราบว่าจะต้องเกิดผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างรุนแรง แต่รัฐบาลกล้าที่จะดำเนินการเพราะเป็นการแก้ไขปัหาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผ่านพ.ร.บ.งบประมาณ กฎหมายเลือกตั้ง เป็นต้น ถ้ารัฐบาลเห็นแก่ตัวและเกรงกลัวถูกด่าคงไม่ทนอยู่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คอยจังหวะโจมตีให้ร้ายอยู่ตลอดเวลา _นายจุติ กล่าวว่า _พ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาลชุดนี้ กล้ากันคนละแบบ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มอีกทั้งเพิ่มค่าโทรศัพท์มือถือให้ประชาชนแบก รับ น่าที่จะเป็นภาระของบริษัทเอกชน ไม่เห็นมีความละอายทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทมือถือ นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล้าที่จะพูดว่า พรรคไทยรักไทย มีอดีตส.ส.สมัคร 100 คน โดยวิธีการดูดส.ส.จากพรรคอื่น และไม่ได้สนใจคุณสมบัติไม่เลือกเพศและวัย ไม่ละอายที่โจมตีนายสมัคร สุนทรเวช ว่าอายุมาก แต่ไม่พูดถึงนายเสนาะ เทียนทอง ว่า แก่เฒ่า และมีอายุไล่เลี่ยกับนายสมัคร ตลอดจนการทุ่มเงินการโฆษณา และประชาสัมพันธ์มีความละอายหรือไม่ _"นายสุรนันท์ ยอมรับว่า การใช้เงินเป็นเรื่องปกติในระบอบของประชาธิปไตย ต้องขอชมเชยว่า ไม่มีความละอายเลย ไม่ทราบว่าไปอยู่ไหนมา ในแวดวงส.ส.เขาไม่ได้ปิดบังกัน เพราะเขาชักชวนให้ไปอยู่ในพรรคไทยรักไทย ใจถึง เงินดี จ่ายงาม และทราบหรือไม่ช่วง 45 วันที่ผ่านมา ส.ส.บางคนได้รับเงินจากมหาเศรษฐีถึง 3 รอบ รอบแรก 2 ล้านบาท รอบสอง 2 ล้านบาท รอบสุดท้ายก่อนจะแถลงข่าวและลาออกจ่ายอีก 5 แสนบาท แค่นี้ชัดเจนหรือไม่ หรือต้องให้บอกด้วยว่า จ่ายที่ไหน วันไหน ใครจ่าย ใครรับ และกำชับไว้อย่างไร" นายจุติ กล่าว.--จบ--