ข่าวในประเทศ
1. ธปท. เตรียมวางหลักเกณฑ์โครงสร้างองค์กรสถาบันการเงินใหม่ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา "คู่มือสำหรับกรรมการสถาบันการเงิน" ว่า ธปท. อยู่ระหว่างการวางหลักเกณฑ์เพื่อจัดโครงสร้างในองค์กรสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งจะเป็นระบบที่คานอำนาจระหว่างกรรมการก่อนนำไปสู่กระบวนการตัดสิน มีระบบเตือนภัยให้ฝ่ายบริหารได้รับรู้ถึงปัญหาก่อนเกิดความเสียหาย โดยจะมีสัดส่วนบุคคลภายนอกมากกว่าคนในองค์กร เน้นธรรมาภิบาล และคำนึงถึงประโยชน์ของพนักงานและลูกค้าเป็นสำคัญ (ไทยโพสต์, ผู้จัดการ, ไทยรัฐ 21)
2. ธปท.กำหนดหลักเกณฑ์ให้ บง.รับฝากเงินโดยใช้สมุดคู่ฝาก ผู้อำนวยการฝ่ายเงินกองทุนและบริการข้อมูล สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้บริษัทเงินทุน (บง.) รับฝากเงินประเภทที่ต้องจ่ายคืนเมื่อสิ้นระยะเวลาโดยใช้สมุดคู่ฝากได้ ในส่วนของเงินฝากประจำประเภท 3 เดือนขึ้นไป สำหรับการปฏิบัติเกี่ยวกับดอกเบี้ยให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ ธพ. ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป โดย บง.ยังคงสามารถรับฝากเงินจากประชาชนโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินและบัตรเงินฝากได้ตามปกติ (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 21)
3. ไทย-กองทุนเซอเบอรัส สรอ. ลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งกองทุนร่วมทุน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งกองทุนร่วมทุนระหว่างไทยกับกองทุนเซอเบอรัส แคปปิตอล ของ สรอ.ว่า กองทุนที่จัดตั้งขึ้นมีวงเงิน 500 ล.ดอลลาร์ สรอ. แบ่งสัดส่วนเป็นเงินทุนของเซอเบอรัส 400 ล.ดอลลาร์ สรอ. และไทย 100 ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 4,000 ล.บาท ซึ่งในส่วนของไทยมาจาก ธ.กรุงไทยและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายละ 1,500 ล.บาท และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 1,000 ล.บาท (โลกวันนี้, มติชน, ไทยโพสต์ 21)
4. รัฐบาลเตรียมจัดตั้งกองทุนอาร์เอ็มเอฟเพื่อช่วยลูกจ้างหลังเกษียณ ปลัด ก.คลัง กล่าวในงานสัมมนา "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยชีพ-มิติใหม่ของสิทธิประโยชน์ทางภาษี ว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ทำการออมให้เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับคุณภาพชีวิตหลังเกษียณให้ใกล้เคียงกับช่วงวัยทำงาน และเตรียมเปิดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกจ้างและผู้ประกอบอาชีพอิสระ (เดลินิวส์ 21)
5. ไทยสามารถส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์และคาดว่าจะมากที่สุดในโลกในปี 45 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) รายงานว่า จากความต้องการข้าวที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและจีน ตลอดจนผลผลิตข้าวในประเทศคู่แข่งทั้งจีน ปากีสถาน และเวียดนามลดต่ำลง จะส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 45 โดยในปีนี้ไทยสามารถส่งออกข้าวแล้วถึง 7.2 ล้านตัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และนับเป็นปริมาณส่งออกที่สูงเกิน 7 ล้านตันเป็นครั้งแรก จากที่คาดไว้ที่ 6.8 ล้านตัน (ไทยรัฐ 21)
ข่าวต่างประเทศ
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการแรงงานของ สรอ.ลดลง รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 20 ธ.ค.44 ก.แรงงานเปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.44 ตลาดแรงงานของ สรอ.อยู่ในภาวะที่ดีขึ้นและเป็นสัญญาณว่าการปลดคนงานจะลดลง ทั้งนี้จากรายงานประจำสัปดาห์พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเป็นครั้งแรก เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.44 มีจำนวนลดลงอยู่ที่ 384,000 คน หลังจากเพิ่มขึ้นที่ระดับ 395,000 คน เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค.44 (รอยเตอร์ 20)
2. เศรษฐกิจอาร์เจนตินาใกล้วิกฤต รายงานจากกรุงบูเอโนส ไอเรส 20 ธ.ค.44 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธบดีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 30 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจลที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า อาร์เจนตินาประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก อาทิ 1) อัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2534 2) ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศที่สูงถึง 132 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. 3) ค่าเงินเปโซสูงกว่าความเป็นจริงเนื่องจากรัฐบาลพยายามรักษาระบบอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไว้ ส่งผลให้ประเทศไม่มีขีดสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นได้ 4) สถาบันการเงินอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลายเนื่องจากประชาชนขาดความเชื่อมั่นและพากันถอนเงินออกจากระบบ ประกอบกับปัญหาความอดอยากยากจนที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจว่า รัฐบาลจะต้องลดค่าเงินเปโซลงประมาณร้อยละ 50-60 ซึ่งจะส่งผลลบต่อการชำระหนี้ภาคเอกชน ทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งอาจล้มละลาย และคาดว่าปี 2545 เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาจะหดตัวประมาณร้อยละ 10-15 รอยเตอร์ 20)
3. ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน ต.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 21 ธ.ค.44 ก.เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวม (หลังปรับฤดูกาล) ของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน หลังจากลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน ก.ย.44 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยส่วนประกอบต่างๆ ของดัชนีฯ ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือนก่อน ผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.2 และธุรกรรมในภาครัฐลดลงร้อยละ 0.1 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 2.9 และร้อยละ 0.7 ตามลำดับ ขณะที่ Teritory sector index ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของดัชนีฯ โดยรวม ลดลงร้อยละ 0.4 หลังจากลดลงร้อยละ 1.1 ในเดือนก่อน (รอยเตอร์ 21)
4. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.จะเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.44 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อ 20 ธ.ค.44 นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า เดือน ธ.ค.44 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.จะอยู่ที่ระดับ 85.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 83.9 โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญจากการใช้จ่ายของผู้ซื้อรถยนต์ ที่ได้ประโยชน์จากเงินกู้อัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นฯ นั้น นักวิเคราะห์ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถใช้วัดแนวทางการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอนาคต และมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของธุรกรรมทางเศรษฐกิจ สรอ. (รอยเตอร์ 20)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.44 43.858 (43.820)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.44
ซื้อ 43.6456 (43.6289) ขาย 43.9284 (43.9332)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.76 (17.90)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 13.89 (13.59) ดีเซลหมุนเร็ว 11.29 (10.99)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. เตรียมวางหลักเกณฑ์โครงสร้างองค์กรสถาบันการเงินใหม่ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา "คู่มือสำหรับกรรมการสถาบันการเงิน" ว่า ธปท. อยู่ระหว่างการวางหลักเกณฑ์เพื่อจัดโครงสร้างในองค์กรสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งจะเป็นระบบที่คานอำนาจระหว่างกรรมการก่อนนำไปสู่กระบวนการตัดสิน มีระบบเตือนภัยให้ฝ่ายบริหารได้รับรู้ถึงปัญหาก่อนเกิดความเสียหาย โดยจะมีสัดส่วนบุคคลภายนอกมากกว่าคนในองค์กร เน้นธรรมาภิบาล และคำนึงถึงประโยชน์ของพนักงานและลูกค้าเป็นสำคัญ (ไทยโพสต์, ผู้จัดการ, ไทยรัฐ 21)
2. ธปท.กำหนดหลักเกณฑ์ให้ บง.รับฝากเงินโดยใช้สมุดคู่ฝาก ผู้อำนวยการฝ่ายเงินกองทุนและบริการข้อมูล สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้บริษัทเงินทุน (บง.) รับฝากเงินประเภทที่ต้องจ่ายคืนเมื่อสิ้นระยะเวลาโดยใช้สมุดคู่ฝากได้ ในส่วนของเงินฝากประจำประเภท 3 เดือนขึ้นไป สำหรับการปฏิบัติเกี่ยวกับดอกเบี้ยให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ ธพ. ทั้งนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป โดย บง.ยังคงสามารถรับฝากเงินจากประชาชนโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินและบัตรเงินฝากได้ตามปกติ (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 21)
3. ไทย-กองทุนเซอเบอรัส สรอ. ลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งกองทุนร่วมทุน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งกองทุนร่วมทุนระหว่างไทยกับกองทุนเซอเบอรัส แคปปิตอล ของ สรอ.ว่า กองทุนที่จัดตั้งขึ้นมีวงเงิน 500 ล.ดอลลาร์ สรอ. แบ่งสัดส่วนเป็นเงินทุนของเซอเบอรัส 400 ล.ดอลลาร์ สรอ. และไทย 100 ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือ 4,000 ล.บาท ซึ่งในส่วนของไทยมาจาก ธ.กรุงไทยและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายละ 1,500 ล.บาท และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 1,000 ล.บาท (โลกวันนี้, มติชน, ไทยโพสต์ 21)
4. รัฐบาลเตรียมจัดตั้งกองทุนอาร์เอ็มเอฟเพื่อช่วยลูกจ้างหลังเกษียณ ปลัด ก.คลัง กล่าวในงานสัมมนา "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยชีพ-มิติใหม่ของสิทธิประโยชน์ทางภาษี ว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ทำการออมให้เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับคุณภาพชีวิตหลังเกษียณให้ใกล้เคียงกับช่วงวัยทำงาน และเตรียมเปิดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกจ้างและผู้ประกอบอาชีพอิสระ (เดลินิวส์ 21)
5. ไทยสามารถส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์และคาดว่าจะมากที่สุดในโลกในปี 45 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) รายงานว่า จากความต้องการข้าวที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและจีน ตลอดจนผลผลิตข้าวในประเทศคู่แข่งทั้งจีน ปากีสถาน และเวียดนามลดต่ำลง จะส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 45 โดยในปีนี้ไทยสามารถส่งออกข้าวแล้วถึง 7.2 ล้านตัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และนับเป็นปริมาณส่งออกที่สูงเกิน 7 ล้านตันเป็นครั้งแรก จากที่คาดไว้ที่ 6.8 ล้านตัน (ไทยรัฐ 21)
ข่าวต่างประเทศ
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการแรงงานของ สรอ.ลดลง รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 20 ธ.ค.44 ก.แรงงานเปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.44 ตลาดแรงงานของ สรอ.อยู่ในภาวะที่ดีขึ้นและเป็นสัญญาณว่าการปลดคนงานจะลดลง ทั้งนี้จากรายงานประจำสัปดาห์พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเป็นครั้งแรก เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.44 มีจำนวนลดลงอยู่ที่ 384,000 คน หลังจากเพิ่มขึ้นที่ระดับ 395,000 คน เมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค.44 (รอยเตอร์ 20)
2. เศรษฐกิจอาร์เจนตินาใกล้วิกฤต รายงานจากกรุงบูเอโนส ไอเรส 20 ธ.ค.44 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธบดีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 30 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจลที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า อาร์เจนตินาประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก อาทิ 1) อัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2534 2) ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศที่สูงถึง 132 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. 3) ค่าเงินเปโซสูงกว่าความเป็นจริงเนื่องจากรัฐบาลพยายามรักษาระบบอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไว้ ส่งผลให้ประเทศไม่มีขีดสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นได้ 4) สถาบันการเงินอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลายเนื่องจากประชาชนขาดความเชื่อมั่นและพากันถอนเงินออกจากระบบ ประกอบกับปัญหาความอดอยากยากจนที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจว่า รัฐบาลจะต้องลดค่าเงินเปโซลงประมาณร้อยละ 50-60 ซึ่งจะส่งผลลบต่อการชำระหนี้ภาคเอกชน ทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งอาจล้มละลาย และคาดว่าปี 2545 เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาจะหดตัวประมาณร้อยละ 10-15 รอยเตอร์ 20)
3. ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน ต.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 21 ธ.ค.44 ก.เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวม (หลังปรับฤดูกาล) ของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน หลังจากลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน ก.ย.44 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยส่วนประกอบต่างๆ ของดัชนีฯ ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือนก่อน ผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.2 และธุรกรรมในภาครัฐลดลงร้อยละ 0.1 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 2.9 และร้อยละ 0.7 ตามลำดับ ขณะที่ Teritory sector index ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของดัชนีฯ โดยรวม ลดลงร้อยละ 0.4 หลังจากลดลงร้อยละ 1.1 ในเดือนก่อน (รอยเตอร์ 21)
4. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.จะเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.44 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อ 20 ธ.ค.44 นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า เดือน ธ.ค.44 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.จะอยู่ที่ระดับ 85.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 83.9 โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญจากการใช้จ่ายของผู้ซื้อรถยนต์ ที่ได้ประโยชน์จากเงินกู้อัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นฯ นั้น นักวิเคราะห์ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถใช้วัดแนวทางการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอนาคต และมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของธุรกรรมทางเศรษฐกิจ สรอ. (รอยเตอร์ 20)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.44 43.858 (43.820)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.44
ซื้อ 43.6456 (43.6289) ขาย 43.9284 (43.9332)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.76 (17.90)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 13.89 (13.59) ดีเซลหมุนเร็ว 11.29 (10.99)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-