กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่นายโคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาญี่ปุ่น (Diet) สมัยประชุมที่ 151 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2544 นั้น วันนี้ (9 พฤษภาคม 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับท่าทีของไทยในเรื่องดังกล่าว ดังนี้ นโยบายที่นายกรัฐมนตรีโคอิซูมิแถลงให้ความสำคัญในลำดับสูงสุดต่อการปฏิรูป ในทุกๆ ด้าน โดยเน้นการบริหารแบบโปร่งใสเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเมือง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดียิ่ง (ดัชนีคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ สูงถึง 80%) และจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นได้สูงขึ้นเป็นการบ่งชี้ถึงการต้อนรับการแถลงนโยบาย ดังกล่าว
จากการที่ได้รับการต้อนรับความสนับสนุนอย่างกว้างขวาง รัฐบาลไทยมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีโคอิซูมิจะมีขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายปฏิรูปต่อไปได้ดีในด้านต่างๆ อาทิเช่น
- การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยจะมุ่งแก้ปัญหา NPL ภายใน 2 ปี โดยจัดตั้ง Bank Equity Purchasing Corporation (BEPC)
- ปฏิรูปนโยบายการคลังที่จะไม่มีการออกพันธบัตรเกิน 30 trillion yen ในช่วงปี งบประมาณ 2544 ลดผลกระทบจากการว่างงาน ซึ่งการลดผลกระทบต่อการว่างงานนี้ จะช่วยลดความเจ็บปวดที่ประชาชนจะได้รับจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
- ในด้านการต่างประเทศ คาดว่าคงดำเนินตามนโยบายที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับสหรัฐฯ และประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียเหนือ (จีน เกาหลีใต้) และรัสเซีย รวมทั้งบทบาทของญี่ปุ่นในพหุภาคี แม้ว่าในคำแถลงนโยบายจะมิได้ระบุถึงอาเซียน หรือประเทศไทยก็ตาม แต่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นน่าจะให้ความสำคัญกับอาเซียนเหมือนเดิม จากการที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจและการลงทุน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
ตามที่นายโคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาญี่ปุ่น (Diet) สมัยประชุมที่ 151 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2544 นั้น วันนี้ (9 พฤษภาคม 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับท่าทีของไทยในเรื่องดังกล่าว ดังนี้ นโยบายที่นายกรัฐมนตรีโคอิซูมิแถลงให้ความสำคัญในลำดับสูงสุดต่อการปฏิรูป ในทุกๆ ด้าน โดยเน้นการบริหารแบบโปร่งใสเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเมือง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดียิ่ง (ดัชนีคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ สูงถึง 80%) และจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นได้สูงขึ้นเป็นการบ่งชี้ถึงการต้อนรับการแถลงนโยบาย ดังกล่าว
จากการที่ได้รับการต้อนรับความสนับสนุนอย่างกว้างขวาง รัฐบาลไทยมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีโคอิซูมิจะมีขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายปฏิรูปต่อไปได้ดีในด้านต่างๆ อาทิเช่น
- การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยจะมุ่งแก้ปัญหา NPL ภายใน 2 ปี โดยจัดตั้ง Bank Equity Purchasing Corporation (BEPC)
- ปฏิรูปนโยบายการคลังที่จะไม่มีการออกพันธบัตรเกิน 30 trillion yen ในช่วงปี งบประมาณ 2544 ลดผลกระทบจากการว่างงาน ซึ่งการลดผลกระทบต่อการว่างงานนี้ จะช่วยลดความเจ็บปวดที่ประชาชนจะได้รับจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
- ในด้านการต่างประเทศ คาดว่าคงดำเนินตามนโยบายที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับสหรัฐฯ และประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียเหนือ (จีน เกาหลีใต้) และรัสเซีย รวมทั้งบทบาทของญี่ปุ่นในพหุภาคี แม้ว่าในคำแถลงนโยบายจะมิได้ระบุถึงอาเซียน หรือประเทศไทยก็ตาม แต่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นน่าจะให้ความสำคัญกับอาเซียนเหมือนเดิม จากการที่มีผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจและการลงทุน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-