กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของการนำเข้า Carbon Hot — Rolled Flat Products ราคาตกต่ำ สาเหตุเนื่องจากภาวะวิกฤตทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่ตกต่ำของเอเชียส่งผลให้ความต้องการสินค้าเหล็กของโลกลดน้อยลงมาก สินค้าเหล็กมีราคาตกต่ำ การลงทุนลดลง ในเวลาเดียวกันกับวิกฤตของเศรษฐกิจในเอเชียแพร่กระจายไปสู่ประเทศรัสเซีย และบราซิล ทำให้ผู้ผลิตเหล็กที่สำคัญ ต้องหันมาพึ่งตลาดที่สำคัญของโลก คือสหรัฐฯ เพียงตลาดเดียว
การสนองตอบต่อภาวะวิกฤตของสหรัฐฯ
กลุ่มผู้ประกอบธูรกิจเหล็กของสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ผู้ผลิตต่างชาติส่งเหล็กเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ ในราคาที่ต่ำกว่าสินค้าเหล็กของผู้ผลิตสหรัฐฯ กล่าวคือ ความต้องการเหล็กในสหรัฐฯ มีสูง ขณะที่ราคาเหล็กกลับลดลงต่ำมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศได้
การหลีกเลี่ยงวิกฤตในอนาคต
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวาง กลยุทธ์ เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อการค้าเหล็กในสหรัฐฯ และศึกษาการปฏิบัติของประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ในการเบี่ยงเบนทางการค้าที่จะมีผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กของโลก กลยุทธ์หลักที่สำคัญ คือ การเตือนภัยล่วงหน้ากรณีการการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้รับผลกระทบ การเบาเทาความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมภายใน ติดตามประเทศคู่ค้าและเจรจาทวิภาคี เพื่อให้ตลาดสหรัฐฯ และตลาดโลกมีความมั่งคง และสนับสนุนให้นโยบายเรื่องเหล็กในระดับนานาชาติสำคัญยิ่งขึ้น
ความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของรัฐบาล
สมาชิกวุฒิสภา John D. Rockefeller จากพรรคเดโมแครต แสดงความเห็นว่า อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ จะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารของบุช มากกว่าฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี บิล คลินตัน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประธานาธิบดี บุช จะต้องแสดงการเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาที่เกิดกับอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ของสหรัฐฯ โดยที่อุตสาหกรรมเหล็กกำลังเกิดภาวะวิกฤต และควรได้รับการแก้ไขในระดับแรก นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกดดันให้ฝ่ายบริหารชุดใหม่นี้จะต้องเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายการค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่าปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคตเป็นประเด็นที่ท้าทายประธานาธิบดี บุช นับแต่ก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ดังนั้น กฎหมายการค้าจะเป็นเครื่องมือแรกที่ง่ายและสะดวกในการนำมาใช้ปกป้องการค้าเป็นอันดับแรก ในเวลาเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาหลายคน และอุตสาหกรรมเหล็กได้เรียกร้อง และพยายามที่จะผลักดันให้ฝ่ายบริหารชุดใหม่ ดำเนินการไต่สวนผู้นำเข้าเหล็กต่างชาติภายใต้กฎหมายการค้า Section 201 และ AD/CVD อย่างจริงจัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของการนำเข้า Carbon Hot — Rolled Flat Products ราคาตกต่ำ สาเหตุเนื่องจากภาวะวิกฤตทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่ตกต่ำของเอเชียส่งผลให้ความต้องการสินค้าเหล็กของโลกลดน้อยลงมาก สินค้าเหล็กมีราคาตกต่ำ การลงทุนลดลง ในเวลาเดียวกันกับวิกฤตของเศรษฐกิจในเอเชียแพร่กระจายไปสู่ประเทศรัสเซีย และบราซิล ทำให้ผู้ผลิตเหล็กที่สำคัญ ต้องหันมาพึ่งตลาดที่สำคัญของโลก คือสหรัฐฯ เพียงตลาดเดียว
การสนองตอบต่อภาวะวิกฤตของสหรัฐฯ
กลุ่มผู้ประกอบธูรกิจเหล็กของสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ผู้ผลิตต่างชาติส่งเหล็กเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ ในราคาที่ต่ำกว่าสินค้าเหล็กของผู้ผลิตสหรัฐฯ กล่าวคือ ความต้องการเหล็กในสหรัฐฯ มีสูง ขณะที่ราคาเหล็กกลับลดลงต่ำมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศได้
การหลีกเลี่ยงวิกฤตในอนาคต
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวาง กลยุทธ์ เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อการค้าเหล็กในสหรัฐฯ และศึกษาการปฏิบัติของประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ในการเบี่ยงเบนทางการค้าที่จะมีผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กของโลก กลยุทธ์หลักที่สำคัญ คือ การเตือนภัยล่วงหน้ากรณีการการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้รับผลกระทบ การเบาเทาความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมภายใน ติดตามประเทศคู่ค้าและเจรจาทวิภาคี เพื่อให้ตลาดสหรัฐฯ และตลาดโลกมีความมั่งคง และสนับสนุนให้นโยบายเรื่องเหล็กในระดับนานาชาติสำคัญยิ่งขึ้น
ความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของรัฐบาล
สมาชิกวุฒิสภา John D. Rockefeller จากพรรคเดโมแครต แสดงความเห็นว่า อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ จะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารของบุช มากกว่าฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี บิล คลินตัน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประธานาธิบดี บุช จะต้องแสดงการเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาที่เกิดกับอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ของสหรัฐฯ โดยที่อุตสาหกรรมเหล็กกำลังเกิดภาวะวิกฤต และควรได้รับการแก้ไขในระดับแรก นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกดดันให้ฝ่ายบริหารชุดใหม่นี้จะต้องเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายการค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่าปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคตเป็นประเด็นที่ท้าทายประธานาธิบดี บุช นับแต่ก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ดังนั้น กฎหมายการค้าจะเป็นเครื่องมือแรกที่ง่ายและสะดวกในการนำมาใช้ปกป้องการค้าเป็นอันดับแรก ในเวลาเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาหลายคน และอุตสาหกรรมเหล็กได้เรียกร้อง และพยายามที่จะผลักดันให้ฝ่ายบริหารชุดใหม่ ดำเนินการไต่สวนผู้นำเข้าเหล็กต่างชาติภายใต้กฎหมายการค้า Section 201 และ AD/CVD อย่างจริงจัง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-