นางสาววิศิษฏ์ศรี จินตนา รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้า ประธานคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานเครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมวิชาการเกษตร สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวต่างประเทศ สำนักชั่งตวงวัดและกองนิติการ กรมทะเบียนการค้า ได้มีการประชุมเพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นและพิจารณาร่างกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์วิธีการใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ซึ่งคณะทำงานฯของกรมได้จัดทำร่างรายละเอียดเบื้องต้นเสนอให้พิจารณา ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการได้มีความเห็นร่วมกันว่า การกำหนดมาตรฐานของเครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ควรจะมีมาตรฐานที่เป็นกลางสำหรับการตรวจรับรองในการใช้งาน เครื่องวัดต้องใช้วัดได้ไม่จำกัดประเภทหรือชนิดของข้าว สามารถใช้ตรวจวัดได้ทั้งข้าวเปลือก ข้าวกล้องและข้าวสารได้ด้วย นอกจากนี้ควรจะต้องมีการกำหนดให้การผลิตเครื่องวัดที่มีช่วงพิสัยอุณหภูมิใช้งานของเครื่องวัดอย่างน้อยต้องครอบคลุมช่วงอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ถึง 40 องศาเซลเซียส เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศค่อนข้างร้อน ถ้าขณะที่ทำการวัดหาปริมาณความชื้นของข้าว ตัวอย่าง เครื่องวัดจะต้องแสดงข้อความหรือสัญลักษณ์ความผิดพลาด (ERROR MESSAGE) ให้ทราบโดยอัติโนมัติและชัดเจนว่า เครื่องทำการวัดเกินพิสัยการวัด การอ่านค่าการวัดที่แสดงออกมาควรจะเป็นที่เข้าใจได้ง่ายในการใช้งาน หากผลการตรวจสอบออกมา อ่านค่าเป็นภาษาต่างประเทศต้องมีการเปรียบเทียบในตารางเป็นภาษาไทยประกอบด้วย
รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้าได้กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้คณะทำงานของกรมฯ ได้มีการหาข้อมูลรายละเอียดมาประกอบร่างกฎกระทรวงฉบับนี้อย่างรอบคอบที่สุด เพื่อให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับการปฏิบัติงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วก็จะมีการเชิญผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนรวมทั้งตัวแทนของเกษตรกรได้เข้าร่วมพิจารณาอีกครั้ง ก่อนออกเป็นกฎกระทรวงมาบังคับใช้ต่อไป
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรกฎาคม 2544--
-ปส-
รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้าได้กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้คณะทำงานของกรมฯ ได้มีการหาข้อมูลรายละเอียดมาประกอบร่างกฎกระทรวงฉบับนี้อย่างรอบคอบที่สุด เพื่อให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับการปฏิบัติงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วก็จะมีการเชิญผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนรวมทั้งตัวแทนของเกษตรกรได้เข้าร่วมพิจารณาอีกครั้ง ก่อนออกเป็นกฎกระทรวงมาบังคับใช้ต่อไป
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรกฎาคม 2544--
-ปส-