กรุงเทพ--10 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมขอต้อนรับผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุม Asian Corporate Conference ครั้งที่ 15 และขอขอบคุณ Asia Society ที่ร่วมจัดการประชุมฯ ดังกล่าวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก Asia Society ได้ทำหน้าที่เสมือนเป็นสะพานเชื่อมโยงความเข้าใจอันดีระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชียมาเป็นเวลานานในขณะที่ เศรษฐกิจของเอเชียกำลังฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง การประชุมดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจได้รับทราบโอกาสช่องทางและประเด็นท้าทายของภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้
เมื่อผมเห็นหัวข้อ “การเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ทำให้นึกถึงกระแสความรู้สึกในช่วง สิบปีกว่าที่ผ่านมา ในตอนนั้น ดูเหมือนสิ่งที่เรียกว่าศตวรรษแห่งเอเชียเป็นประเด็นที่พูดถึงกันทุกหนแห่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความหวัง และดูราวกับว่าเอเชียจะไม่มีวันก้าวพลาด
ครั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี ค.ศ. 1997 โถมกระหน่ำภูมิภาคเสมือนพายุทอร์เนโด และทิ้งความมหัศจรรย์ของเอเชียไว้เหลือเพียงซากคำถามที่อยู่ในใจของทุกคนเปลี่ยนจากประเด็นที่ว่า เอเชียจะเติบโตไม่มีวันสิ้นสุดหรืออย่างไร เป็นว่าเอเชียจะสามารถฟื้นตัวได้อีกหรือไม่คำเฉลยของข้อสงสัยทั้งสองข้อปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าที่จะมีใครคาดถึง บัดนี้ เรารู้กันดีว่า เอเชียไม่ได้มีปาฏิหารย์ที่จะไปกำหนดกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ แต่การที่เอเชียฟื้นกลับมายืนบนขาของตนเองได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะความสำเร็จของเอเชียไม่ได้เป็นความบังเอิญ
ขณะนี้ เมื่อเอเชียฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผมได้ยินประชาชนถามว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของ เอเชียนี้จะยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ ผมขอย้ำว่าการพัฒนาเป็นเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ และเพราะว่าโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่เคยทำแล้วเกิดผลในอดีต อาจใช้ไม่ได้ในครั้งต่อไป มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกต่างก็เคยล้มเหลว แต่ความล้มเหลวไม่ได้หยุดยั้งประเทศเหล่านั้นในการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนและก้าวต่อไป
นี่เป็นเหตุผลที่ผมเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเอเชียนี้จะยั่งยืนวิกฤตเศรษฐกิจปี ค.ศ. 1997 เป็นความผิดพลาด แต่ก็เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า ในเมื่อเราต่างจ่ายค่าบทเรียนราคาแพง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องเรียนรู้และได้ประโยชน์จากสิ่งนี้
ขณะนี้ เศรษฐกิจของเอเชียฟื้นตัวขึ้นจากเถ้าถ่านแล้วและพร้อมจะเริ่มบินอีกครั้ง การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย ในฐานะผู้เล่นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นพัฒนาการใหม่ซึ่งเราเห็นว่าเป็นโอกาส ไม่ใช่เป็นภัยคุกคาม ในฐานะที่ไทยเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย และเป็นประตูเชื่อมโยงทั้งสองประเทศนี้ ไทยกำหนดบทบาทใหม่ของตนเองทั้งในภูมิภาคและในโลก ไม่เพียงเพื่อใช้ประโยชน์ แต่เพื่อเป็นแรงส่งเสริมคลื่นเศรษฐกิจระลอกใหม่นี้ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่เราได้ดำเนินการต่างๆ และจะยังคงดำเนินการต่อไปในช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองของผม
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
เมื่อประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียในปี ค.ศ. 1997
ได้เกิดความสงสัยว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวอีกหรือไม่ ความเสียหายที่ผมต้องซ่อมแซมเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งในช่วงสี่ปีครึ่งที่แล้วไม่ใช่จำกัดอยู่แค่เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านจิตวิทยาด้วย
ในการนี้ รัฐบาลของผมได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจคู่ขนาน ซึ่งให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการคงบทบาทที่เปิดกว้างในเวทีเศรษฐกิจโลก นานมากแล้วที่ประเทศไทยได้ยึดติดกับนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการส่งออกเพียงด้านเดียว โดยละเลยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลดังกล่าว รัฐบาลของผมจึงมุ่งส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งและการฟื้นกำลังสู่สภาพเดิมของสังคมตั้งแต่ระดับรากหญ้าขึ้นไป
โครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” ของรัฐบาล ได้ช่วยยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ความริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนทักษะของชุมชนไทยโดยนำมาช่วยสร้างผลกำไรและพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการดังกล่าว แต่ละชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบการผลิตสินค้าศักยภาพของตนเอง โดยรัฐบาลมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุน และช่วยเหลือในเรื่องห่วงโซ่อุปทานให้คำแนะนำ สร้างเครือข่าย และช่วยผลักดันเปิดตลาดใหม่ๆ ประโยชน์จากโครงการ OTOP ไม่ใช่เพียงในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างเสริมความเป็นผู้นำและความภาคภูมิใจของชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย
เราเข้าใจว่าเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความยากจนจะต้องขยายโอกาสเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงได้ก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงแหล่งทุน และได้ก่อตั้งธนาคารเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขึ้นเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเหล่านี้ รวมทั้งได้กำหนดโครงการพักหนี้เกษตรกรเป็นเวลา 3 ปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยแก้ปัญหาขาดแคลนทุนหมุนเวียนและเพิ่มการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
เมื่อมาตรการต่างๆ เหล่านี้เข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ได้เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาและได้ช่วยส่งเสริมสภาพเศรษฐกิจด้วย ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติชาติของไทยเติบโตขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อ เทียบกับร้อยละ 2.2 เมื่อสี่ปีก่อน การส่งออกของไทยเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับติดลบร้อยละ 7.1 เมื่อสี่ปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันเรายังสามารถลดหนี้ต่างประเทศลงได้เกือบ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้นอีกประมาณร้อยละ 52 ที่มูลค่า 49.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สถาบันจัดอันดับชั้นนำ เช่น Moody’s, Standard & Poor และ Fitch ต่างยอมรับในสถานะทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งของไทย และได้จัดอันดับเศรษฐกิจของไทยสูงขึ้นถึงสองครั้งในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาหลายท่านในที่นี้อาจสังเกตว่าดัชนีภาวะเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ระบุว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราร้อยละ 3.3 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ตัวเลขนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมากในหลายส่วนของโลก แต่ผมต้องยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำกว่าเป้าหมายของเรา
ผมหวังว่าการลดลงนี้เกิดจากปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้บ้าง แต่ปัญหาราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงส่งผลกระทบทางลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตน้ำมันและกำลังพัฒนาอย่างเช่นประเทศไทย ภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมายังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราแม้ว่าสิ่งต่างๆ จะเริ่มกลับคืนสู่ภาวะปรกติอย่างรวดเร็วและนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาอีกครั้งแล้วก็ตาม นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังส่งผลให้การส่งออกของไทยลดลง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมไทยใช้กำลังการผลิตเต็มที่ทำให้การนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้นพร้อมไปกับการลงทุนเพื่อการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดก็ตาม นี่เป็นเพียงสภาวการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี ซึ่งยังคงมีเวลาอีกมาก และหมายความว่ารัฐบาลจะทุ่มเททำงานอย่างหนักยิ่งขึ้นเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้รุดหน้าต่อไป ท้ายที่สุด ผมเชื่อมั่นว่า การลดลงของอัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นเพียงสภาวะชั่วคราว และเราจะสามารถบรรลุอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5 สำหรับปีนี้ได้ หากราคาน้ำมันไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
แม้จะมีกำลังใจจากความสำเร็จของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่เราก็ตระหนักดีว่า ยังคงมีปัญหาท้าทายอีกมากรออยู่ข้างหน้า ภารกิจของรัฐบาลของผมในขณะนี้คือ รวบรวมพละกำลังที่ได้กลับมาและสร้างความแข็งแกร่งสำหรับอนาคตต่อไป ในช่วงสี่ปีข้างหน้า การปฏิรูปและการกำหนดสถานะใหม่ของไทยเป็นภารกิจสำคัญ จากการที่ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในจากระดับรากหญ้า ตอนนี้เราต้องให้หลักประกันว่าเสียงของประชาชนจะมีผู้รับฟังสมบัติที่มีค่าที่สุดของประเทศคือประชาชน ดังนั้น การกำหนดนโยบายทั้งในแง่กระบวนการและเป้าหมาย จะต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากการเปิดให้ประชาชนสามารถมีปากเสียงในกิจการบริหารบ้านเมืองแล้ว ยังต้องฝึกฝนทักษะให้แก่ประชาชนเพื่อให้อยู่รอดและก้าวต่อไปได้ในระบบเศรษฐกิจโลกที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ การจัดการด้านการศึกษาจะต้องเปลี่ยนพื้นฐานวิธีการคิดใหม่ นักเรียนและอาจารย์จะต้องเปลี่ยนจากแนวทางการเรียนการสอนแบบท่องจำดั้งเดิม มาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เพื่อคิดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ วิเคราะห์และสร้างสรรค์ได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษาจะต้องเป็นการสร้างความพร้อมให้แก่เยาวชนของเราในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลาของเศรษฐกิจโลกต่อไป การติดอาวุธให้แก่เยาวชนของเราให้สามารถแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศได้เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากจะเป็นทิศทางที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจะเปลี่ยนไป
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมขอกล่าวถึงประเด็นที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงสมัยที่สองของรัฐบาลของผม คือ “การสร้างมูลค่า” ที่ผ่านมา ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ส่งออก ซึ่งเมื่อพัฒนาตามลำดับขั้น ก็จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในกระบวนการผลิตและประกอบ ซึ่งอาศัยแรงงาน ชั้นต่ำหรือกึ่งฝีมือ ไม่เฉพาะประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้นที่ดำเนินการตามแนวทางนี้ ประเทศพัฒนาแล้วในบางภูมิภาคยังอาศัยแนวทางดังกล่าวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว แนวทางนี้ไม่ยั่งยืนสินค้ามักจะต้องประสบปัญหาจากเงื่อนไขทางการค้าที่เสียเปรียบและแม้กระทั่งสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ไมโครชิปส์ อาจเป็นสินค้าได้แรงงานราคาถูกไม่ได้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาระยะยาวต่อไป เช่นกัน ประเทศที่ยังคงพึ่งพิงแรงงานราคาถูกอาจถูกเบียดจากคู่แข่งหน้าใหม่ที่หิวโหยกว่า ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอาจไม่สามารถหันหลังโดยสิ้นเชิงให้กับการผลิตสินค้าในแนวทาง ดังกล่าว ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างมูลค่าในการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาของตน
“การสร้างมูลค่า” เป็นสิ่งที่กว้างกว่าการเพิ่มเพียงมูลค่าประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ อาจภาคภูมิใจกับโรงงานประกอบสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่มีมูลค่าเพิ่ม แต่ในที่สุดมูลค่าที่แท้จริงของสินค้าไม่ได้มาจากการประกอบหรือชิ้นส่วน แต่มาจากทรัพย์สินทางปัญญา คือ สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และการออกแบบที่เราใส่เข้าไปในสินค้าแต่ละชนิด ถ้าเราจะสร้างมูลค่านี่คือสิ่งที่พวกเราที่มีชีวิตอยู่ในรุ่นนี้และในอนาคตจะต้องเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเริ่มโดยการกำหนดจุดที่ตนเองมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ และจะต้องเพิ่มคุณค่าทางภูมิปัญญาและทักษะของตนเพื่อผลิดสินค้าและบริการที่มีอำนาจต่อรองเชิงราคาในตลาดโลก
การสร้างมูลค่าหมายถึง หนึ่งบวกหนึ่งจะได้มากกว่าสอง แต่จะได้มากเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดจะให้กับความคิดที่ใส่ไว้ในสินค้านั้นๆ สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีความประณีตทางศิลปะ วัฒนธรรม ที่สวยงาม การสร้างมูลค่าอาจหมายถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว การพัฒนา สินค้ายี่ห้อใหม่ และสินค้าที่มีความแตกต่างโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทย หรืออาจอยู่บนพื้นฐานของอะไรอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ประชาชนของเราจะต้องได้รับการเตรียมความพร้อมและมีอิสระที่จะค้นหา ทดลอง และสร้างสรรค์ หลายคนอาจต้องล้มเหลว แต่บางส่วนจะสำเร็จ และบางคนอาจประสบความสำเร็จอย่างมาก นี่คือ กลไกของตลาดเสรี และเป็นสิ่งที่ทำให้กลไกตลาดเสรีมีพลัง ไม่มีรูปแบบหรือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใดตายตัวที่จะเป็นหลักประกันการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ละประเทศมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน วิธีการที่ใช้ได้ผลในประเทศหนึ่งอาจใช้ไม่ได้ผลในอีกประเทศ ดังนั้นรูปแบบทางเศรษฐกิจควรมุ่งที่ความสามารถในการผลิตและปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของแรงงาน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของความสามารถในการแข่งขัน รูปแบบทางเศรษฐกิจจะต้องมุ่งที่การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสม่ำเสมอ มากกว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วบนรากฐานที่อ่อนแอ จะต้องมุ่งที่ความยั่งยืนโดยรวม ไม่ว่าจะในเชิงสังคมหรือสิ่งแวดล้อม
ผมเชื่อว่าการสร้างมูลค่าเป็นรูปแบบทางเศรษฐกิจใหม่สำหรับประเทศไทย และเป็นไปได้ว่าจะเป็นรูปแบบสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประชากรได้รับการศึกษาดีขึ้น และเศรษฐกิจก้าวขึ้นไปสู่ระดับขั้นการพัฒนาที่สูงขึ้น การสร้างมูลค่าจะมีส่วนช่วยที่สำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาจะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อใช้รูปแบบทางเศรษฐกิจนี้ การศึกษาจะเป็นส่วนแรกของสมการในการสร้างมูลค่าและเราได้ดำเนินการทุกทางในการผลักดันการปฏิรูปทางการศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีความรู้ในทุกสาขา
ส่วนที่สองได้แก่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในด้านกฎกติกาที่ใช้ในการควบคุม ซึ่งในด้านนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อแนวคิดและการปฏิบัติเรื่องการบริหารจัดการที่ดี เรากำลังผลักดันการปฏิรูปภาคการเงิน ภาคเอกชน และภาครัฐบาล อย่างรอบด้านตามแนวทางการบริหารจัดการที่ดี ในขณะเดียวกันเราดำเนินการไปมากแล้วในการสร้างมาตรฐานและปรับปรุงกฎระเบียบทางธนาคารของประเทศไทย ซึ่งเมื่อดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้น เราก็มุ่งมั่นจะปรับปรุงภาคเอกชนและธนาคารต่อไปเพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดที่สะดวกและน่าสนใจที่สุดในการประกอบธุรกิจ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ที่ผ่านมาผมได้กล่าวถึงนโยบายภายในประเทศที่ไทยดำเนินการมาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของยุคปัจจุบัน ในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เรากำลังพัฒนาและสร้างหุ้นส่วนที่ยังประโยชน์ร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์ให้มากจากความหลากหลายของเอเชีย
อาเซียนเป็นรากฐานของความร่วมมือในภูมิภาคของเรา อาเซียนซึ่งรวมประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตที่มีพลวัต และเป็นประตูสู่เอเชีย โดยเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวและมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันสูงถึง 700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประชากรจำนวน 550 ล้านคนประกอบด้วยแรงงานหนุ่มสาวซึ่งมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เป็นจำนวน 20.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2546 แม้ว่ากระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในโลกจะลดลง
อาเซียนกำลังมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี ค.ศ. 2020 ซึ่งประกอบด้วยประชาคมความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรม ด้วยความร่วมมือและการบูรณาการอย่างใกล้ชิดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและจะมีผลบังคับโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2015 เป็นกุญแจสำคัญของกระบวนการบูรณาการเพื่อส่งเสริมแนวโน้มดังที่ได้กล่าว ประเทศไทยกำลังดำเนินการเพื่อลดช่องว่างของการพัฒนาระหว่างสมาชิกอาเซียนเก่าและใหม่ สำหรับประเทศไทยนั้น การที่เอเชียจะรุ่งเรืองขึ้นนั้นมีความหมายเพียงน้อยนิด หากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพรมแดนติดกันถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในหลายกรอบด้วยกัน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค ความจำเป็นที่จะต้องลดความแตกต่างทางเศรษฐกิจเป็นแนวคิดเบื้องหลังเรื่องนี้ อาเซียนจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น แนบแน่นยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการลดช่องว่างดังกล่าว
ในขณะที่ทางภูมิศาสตร์เราให้ความสำคัญในลำดับแรกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยก็ยังมองไปข้างหน้าเพื่อหาโอกาสการร่วมมือ ประชากรกว่าร้อยละ 60 ของโลกอาศัยอยู่ในเอเชีย ทุนสำรองระหว่างประเทศของเอเชียคิดมากกว่าร้อยละ 75 ของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมดรวมกัน เราเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ นอกเหนือไปจากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอย่างล้นเหลือของเอเชีย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาที่สั่งสมมาจากอดีต จะเป็นบ่อเกิดของความแข็งแกร่งที่ควรจะใช้ประโยชน์และสามารถทำให้เป็นจริงได้
ผมเชื่อว่าการร่วมมือและเจรจาในกรอบกว้างเป็นขั้นตอนแรกที่ดีที่สุดในการปลดปล่อยศักยภาพเหล่านี้ผมได้ริเริ่มกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ ACD ซึ่งเป็นกรอบในระดับรัฐมนตรีที่ครอบคลุมทุกอนุภูมิภาคในเอเชีย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนี้ ACD ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในด้านสมาชิกภาพและสาขาความร่วมมือ ซึ่งในปัจจุบันรวมถึงสาขาความมั่นคงทางพลังงาน การขจัดความยากจน และความร่วมมือทางการเงิน เป็นต้น
ประเด็นหนึ่งที่ ACD มีบทบาทอย่างแข็งขันได้แก่ การพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี ค.ศ. 1997 ได้สอนให้เราทราบถึงความสำคัญของการมีสถาปัตยกรรมทางการเงินในระดับภูมิภาคที่เข้มแข็ง เพื่อรักษาเสถียรภาพในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงและไม่แน่นอน ตลาดพันธบัตรเอเชียจะช่วยในสองด้าน คือ จะเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนระหว่างประเทศและภายในภูมิภาคที่จะนำเงินมาลงทุน และยังจะช่วยนำเงินทุนเหล่านั้นมาเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาเอเชีย ดังนั้น จึงเป็นการใช้ความมั่งคั่งของเอเชียมาสร้างความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเราแทนที่จะเป็นที่อื่น
ประเทศไทยได้ร่วมมือกับประเทศเอเชียอื่นๆ ในเรื่องนี้ ประเทศไทยร่วมลงทุนในกองทุนพันธบัตร เอเชียระยะที่สอง จำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีวงเงินรวม 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุนนี้มุ่งที่จะจุดประกายการซื้อขายในตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่น รัฐบาลได้สร้างแรงกระตุ้นโดยการยกเว้นภาษีให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในพันธบัตรของไทย และได้อนุญาตให้ธนาคารโลก IFC ADB รัฐบาลและสถาบันการเงินต่างชาติ ออกพันธบัตรในสกุลเงินของเอเชีย ผมขอเน้นว่าความคิดริเริ่มในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียจะช่วยเสริมจุดมุ่งหมายของ IMF ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของโลก และช่วยบรรเทาความต้องการใช้ทรัพยากรของ IMF ในโลกที่สิ่งท้าทายมาในรูปแบบและขนาดที่แตกต่างกัน วิธีการแก้ไขก็ต้องปรับตามให้สอดคล้อง
ในระดับระหว่างประเทศ เรายึดมั่นต่อทางแก้ปัญหาในกรอบพหุภาคีทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องการเห็นการเจรจาการค้ารอบโดฮาบรรลุผลตามเวลา เราได้ดำเนินการเจรจาการค้าเสรีทั้งในระดับภูมิภาคและทวิภาคีกับประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ประเทศที่เราได้บรรลุข้อตกลงแล้วได้แก่ ออสเตรเลีย บาห์เรน นิวซีแลนด์ และจีน เพื่อรักษาประโยชน์จากการค้าที่เสรีมากขึ้น ในขณะที่การเจรจาในกรอบ WTO ดำเนินอยู่
การค้าเสรีเป็นเครื่องมือที่แปลกที่นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง และรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อบรรลุข้อตกลง เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ แต่การค้าเสรีในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์โลกาภิวัฒน์ก็ได้รับแรงต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
ในประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ ความตกใจของสาธารณชนมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนทำงานชั้นสูงไหลออกไปต่างประเทศ แต่การจะรับมือกับการรุ่งเรืองขึ้นของเอเชียนั้นไม่ใช่ด้วยการกล่าวโทษกันเอง โลกาภิวัตน์คือโอกาสที่จะต้องฉกฉวยไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งท้าทายด้วย เงินทุนย่อมไหลไปยังที่ที่จะถูกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ถ้าไม่ใช่จีน หรืออินเดีย ก็จะเป็นที่อื่น เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องไห้โลกาภิวัตน์มีเลือดเนื้อของความเป็นมนุษย์ ทั้งรัฐบาลและเอกชนการเคลื่อนไหวอย่างเสรีของการค้าและเงินทุนจะต้องมีควบคู่กันไป หากไม่สมดุลย์ก็จะสร้างผลกระทบด้านใดด้านหนึ่ง ตราบใดที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนเล็งเห็นว่าประโยชน์ที่ได้รับจากโลกาภิวัตน์มีน้ำหนักมากกว่าผลเสีย ก็จะต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อลดความรุนแรงของผลกระทบต่อสมาชิกในสังคมที่ อ่อนแอที่สุด นี่คือสาเหตุที่ผมเน้นถึงความสำคัญของการศึกษาและความสามารถในการปรับตัวของแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจ
นี่คือสาเหตุที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อบทบาทของภาคเอกชน บริษัทต่างๆ ที่มีผู้แทนอยู่ในห้องนี้รวมถึงบริษัทที่มีพลวัตสูงที่สุดในเอเชียอยู่ด้วย เมื่อคุณมองหาโอกาสในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุณาระลึกด้วยว่าประเทศเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังเป็นสังคมที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอีกด้วย บริษัทสามารถให้การสนับสนุนที่มีคุณค่าต่อการพัฒนา มาตรฐานและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ ในฐานะที่เป็นสมาชิกภาคเอกชนที่มีความรับผิดชอบ บริษัทเอกชนสามารถช่วย ทะนุถนอมสายใยในสังคม และศักดิ์ศรีของสังคมที่ตนได้เข้าไปลงทุน ดังนั้น บริษัทเอกชนจึงไม่ได้เป็นเพียง เครื่องจักรของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เป็นเครื่องจักรของการพัฒนาในระดับชาติโดยแท้
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ความรุ่งเรืองของเอเชียไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาก่อน แต่เป็นเดิมพัน ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นตลาดร่วม หรือแม้กระทั่งเป็นประชาคมนั้นไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อน แต่เมื่อท่านมองมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรดอย่ามองเพียงแค่เศรษฐกิจหลักๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมไม่สามารถ จะรุ่งเรืองขึ้นได้ หากสมาชิกที่ฐานะด้อยกว่ายังคงตกอยู่ในภาวะความยากจน รัฐบาลของผมกำลังทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปิดหรืออย่างน้อยก็ลดช่องว่างภายในอาเซียน ซึ่งกระทำผ่านกรอบต่างๆ รวมถึงกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ ACMECS ภารกิจนี้ใหญ่หลวงนัก เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ทั้งในแง่ของเวลาและทรัพยากร แต่ก็เป็นภารกิจที่ต้องทำ ผมขอให้ท่านในฐานะสมาชิกภาคเอกชนทำงานร่วมกับผมในการเร่งเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้เป็นตลาดการค้า ดังที่ได้วาดภาพกันไว้เมื่อทศวรรษครึ่งที่แล้ว
เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพมากมาย เอเชียที่เกาะกลุ่มกัน มีพลวัต และมีเสถียรภาพจะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของโลกได้อย่างมหาศาล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะที่เป็นจุดพบกันของ การค้าและวัฒนธรรมมาหลายศตวรรษอยู่ในทำเลที่เหมาะสมที่จะเป็นแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยนโยบายที่ถูกต้องและอาศัยโชคอีกนิดหน่อย เราอาจได้เห็นการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งมีตลาดเงินทุน การเงิน และสินค้าที่มีการพัฒนาอย่างดีเป็นของตนเอง และมีความเชื่อมโยงกับโลก ภายนอกยิ่งไปกว่านั้น หากประชาชนในเอเชียมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เอกลักษณ์ของเอเชียอาจเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นประชาคมอย่างแท้จริงของเอเชีย
ทั้งหมดยังคงเป็นความฝันในขณะนี้ แต่ถ้าเรามีคนมากพอร่วมกับผม และผมหวังว่าทุกคนจะร่วมด้วย ความฝันนี้ก็สามารถเป็นความจริงได้ ผมหวังว่าท่านจะทำงานร่วมกับผมเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง เพื่อลูกหลานของเราซึ่งเป็นประชากรของโลกในอนาคต
ขอบคุณครับ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมขอต้อนรับผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุม Asian Corporate Conference ครั้งที่ 15 และขอขอบคุณ Asia Society ที่ร่วมจัดการประชุมฯ ดังกล่าวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก Asia Society ได้ทำหน้าที่เสมือนเป็นสะพานเชื่อมโยงความเข้าใจอันดีระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชียมาเป็นเวลานานในขณะที่ เศรษฐกิจของเอเชียกำลังฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง การประชุมดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจได้รับทราบโอกาสช่องทางและประเด็นท้าทายของภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้
เมื่อผมเห็นหัวข้อ “การเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ทำให้นึกถึงกระแสความรู้สึกในช่วง สิบปีกว่าที่ผ่านมา ในตอนนั้น ดูเหมือนสิ่งที่เรียกว่าศตวรรษแห่งเอเชียเป็นประเด็นที่พูดถึงกันทุกหนแห่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความหวัง และดูราวกับว่าเอเชียจะไม่มีวันก้าวพลาด
ครั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี ค.ศ. 1997 โถมกระหน่ำภูมิภาคเสมือนพายุทอร์เนโด และทิ้งความมหัศจรรย์ของเอเชียไว้เหลือเพียงซากคำถามที่อยู่ในใจของทุกคนเปลี่ยนจากประเด็นที่ว่า เอเชียจะเติบโตไม่มีวันสิ้นสุดหรืออย่างไร เป็นว่าเอเชียจะสามารถฟื้นตัวได้อีกหรือไม่คำเฉลยของข้อสงสัยทั้งสองข้อปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าที่จะมีใครคาดถึง บัดนี้ เรารู้กันดีว่า เอเชียไม่ได้มีปาฏิหารย์ที่จะไปกำหนดกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ แต่การที่เอเชียฟื้นกลับมายืนบนขาของตนเองได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะความสำเร็จของเอเชียไม่ได้เป็นความบังเอิญ
ขณะนี้ เมื่อเอเชียฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง ผมได้ยินประชาชนถามว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของ เอเชียนี้จะยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ ผมขอย้ำว่าการพัฒนาเป็นเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ และเพราะว่าโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่เคยทำแล้วเกิดผลในอดีต อาจใช้ไม่ได้ในครั้งต่อไป มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกต่างก็เคยล้มเหลว แต่ความล้มเหลวไม่ได้หยุดยั้งประเทศเหล่านั้นในการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนและก้าวต่อไป
นี่เป็นเหตุผลที่ผมเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเอเชียนี้จะยั่งยืนวิกฤตเศรษฐกิจปี ค.ศ. 1997 เป็นความผิดพลาด แต่ก็เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า ในเมื่อเราต่างจ่ายค่าบทเรียนราคาแพง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องเรียนรู้และได้ประโยชน์จากสิ่งนี้
ขณะนี้ เศรษฐกิจของเอเชียฟื้นตัวขึ้นจากเถ้าถ่านแล้วและพร้อมจะเริ่มบินอีกครั้ง การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย ในฐานะผู้เล่นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นพัฒนาการใหม่ซึ่งเราเห็นว่าเป็นโอกาส ไม่ใช่เป็นภัยคุกคาม ในฐานะที่ไทยเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย และเป็นประตูเชื่อมโยงทั้งสองประเทศนี้ ไทยกำหนดบทบาทใหม่ของตนเองทั้งในภูมิภาคและในโลก ไม่เพียงเพื่อใช้ประโยชน์ แต่เพื่อเป็นแรงส่งเสริมคลื่นเศรษฐกิจระลอกใหม่นี้ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่เราได้ดำเนินการต่างๆ และจะยังคงดำเนินการต่อไปในช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองของผม
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
เมื่อประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียในปี ค.ศ. 1997
ได้เกิดความสงสัยว่าเศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวอีกหรือไม่ ความเสียหายที่ผมต้องซ่อมแซมเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งในช่วงสี่ปีครึ่งที่แล้วไม่ใช่จำกัดอยู่แค่เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านจิตวิทยาด้วย
ในการนี้ รัฐบาลของผมได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจคู่ขนาน ซึ่งให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการคงบทบาทที่เปิดกว้างในเวทีเศรษฐกิจโลก นานมากแล้วที่ประเทศไทยได้ยึดติดกับนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการส่งออกเพียงด้านเดียว โดยละเลยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลดังกล่าว รัฐบาลของผมจึงมุ่งส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งและการฟื้นกำลังสู่สภาพเดิมของสังคมตั้งแต่ระดับรากหญ้าขึ้นไป
โครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” ของรัฐบาล ได้ช่วยยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ความริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนทักษะของชุมชนไทยโดยนำมาช่วยสร้างผลกำไรและพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการดังกล่าว แต่ละชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบการผลิตสินค้าศักยภาพของตนเอง โดยรัฐบาลมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุน และช่วยเหลือในเรื่องห่วงโซ่อุปทานให้คำแนะนำ สร้างเครือข่าย และช่วยผลักดันเปิดตลาดใหม่ๆ ประโยชน์จากโครงการ OTOP ไม่ใช่เพียงในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างเสริมความเป็นผู้นำและความภาคภูมิใจของชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย
เราเข้าใจว่าเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความยากจนจะต้องขยายโอกาสเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงได้ก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงแหล่งทุน และได้ก่อตั้งธนาคารเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขึ้นเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเหล่านี้ รวมทั้งได้กำหนดโครงการพักหนี้เกษตรกรเป็นเวลา 3 ปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยแก้ปัญหาขาดแคลนทุนหมุนเวียนและเพิ่มการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
เมื่อมาตรการต่างๆ เหล่านี้เข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ได้เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาและได้ช่วยส่งเสริมสภาพเศรษฐกิจด้วย ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติชาติของไทยเติบโตขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อ เทียบกับร้อยละ 2.2 เมื่อสี่ปีก่อน การส่งออกของไทยเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับติดลบร้อยละ 7.1 เมื่อสี่ปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันเรายังสามารถลดหนี้ต่างประเทศลงได้เกือบ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้นอีกประมาณร้อยละ 52 ที่มูลค่า 49.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สถาบันจัดอันดับชั้นนำ เช่น Moody’s, Standard & Poor และ Fitch ต่างยอมรับในสถานะทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งของไทย และได้จัดอันดับเศรษฐกิจของไทยสูงขึ้นถึงสองครั้งในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาหลายท่านในที่นี้อาจสังเกตว่าดัชนีภาวะเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ระบุว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราร้อยละ 3.3 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ตัวเลขนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมากในหลายส่วนของโลก แต่ผมต้องยอมรับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำกว่าเป้าหมายของเรา
ผมหวังว่าการลดลงนี้เกิดจากปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้บ้าง แต่ปัญหาราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงส่งผลกระทบทางลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตน้ำมันและกำลังพัฒนาอย่างเช่นประเทศไทย ภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมายังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราแม้ว่าสิ่งต่างๆ จะเริ่มกลับคืนสู่ภาวะปรกติอย่างรวดเร็วและนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาอีกครั้งแล้วก็ตาม นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังส่งผลให้การส่งออกของไทยลดลง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมไทยใช้กำลังการผลิตเต็มที่ทำให้การนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้นพร้อมไปกับการลงทุนเพื่อการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ไม่ว่าด้วยปัจจัยใดก็ตาม นี่เป็นเพียงสภาวการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี ซึ่งยังคงมีเวลาอีกมาก และหมายความว่ารัฐบาลจะทุ่มเททำงานอย่างหนักยิ่งขึ้นเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้รุดหน้าต่อไป ท้ายที่สุด ผมเชื่อมั่นว่า การลดลงของอัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นเพียงสภาวะชั่วคราว และเราจะสามารถบรรลุอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5 สำหรับปีนี้ได้ หากราคาน้ำมันไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
แม้จะมีกำลังใจจากความสำเร็จของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่เราก็ตระหนักดีว่า ยังคงมีปัญหาท้าทายอีกมากรออยู่ข้างหน้า ภารกิจของรัฐบาลของผมในขณะนี้คือ รวบรวมพละกำลังที่ได้กลับมาและสร้างความแข็งแกร่งสำหรับอนาคตต่อไป ในช่วงสี่ปีข้างหน้า การปฏิรูปและการกำหนดสถานะใหม่ของไทยเป็นภารกิจสำคัญ จากการที่ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในจากระดับรากหญ้า ตอนนี้เราต้องให้หลักประกันว่าเสียงของประชาชนจะมีผู้รับฟังสมบัติที่มีค่าที่สุดของประเทศคือประชาชน ดังนั้น การกำหนดนโยบายทั้งในแง่กระบวนการและเป้าหมาย จะต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากการเปิดให้ประชาชนสามารถมีปากเสียงในกิจการบริหารบ้านเมืองแล้ว ยังต้องฝึกฝนทักษะให้แก่ประชาชนเพื่อให้อยู่รอดและก้าวต่อไปได้ในระบบเศรษฐกิจโลกที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ การจัดการด้านการศึกษาจะต้องเปลี่ยนพื้นฐานวิธีการคิดใหม่ นักเรียนและอาจารย์จะต้องเปลี่ยนจากแนวทางการเรียนการสอนแบบท่องจำดั้งเดิม มาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เพื่อคิดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ วิเคราะห์และสร้างสรรค์ได้ วัตถุประสงค์ของการศึกษาจะต้องเป็นการสร้างความพร้อมให้แก่เยาวชนของเราในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลาของเศรษฐกิจโลกต่อไป การติดอาวุธให้แก่เยาวชนของเราให้สามารถแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศได้เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากจะเป็นทิศทางที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจะเปลี่ยนไป
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมขอกล่าวถึงประเด็นที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงสมัยที่สองของรัฐบาลของผม คือ “การสร้างมูลค่า” ที่ผ่านมา ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ส่งออก ซึ่งเมื่อพัฒนาตามลำดับขั้น ก็จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในกระบวนการผลิตและประกอบ ซึ่งอาศัยแรงงาน ชั้นต่ำหรือกึ่งฝีมือ ไม่เฉพาะประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้นที่ดำเนินการตามแนวทางนี้ ประเทศพัฒนาแล้วในบางภูมิภาคยังอาศัยแนวทางดังกล่าวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว แนวทางนี้ไม่ยั่งยืนสินค้ามักจะต้องประสบปัญหาจากเงื่อนไขทางการค้าที่เสียเปรียบและแม้กระทั่งสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ไมโครชิปส์ อาจเป็นสินค้าได้แรงงานราคาถูกไม่ได้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาระยะยาวต่อไป เช่นกัน ประเทศที่ยังคงพึ่งพิงแรงงานราคาถูกอาจถูกเบียดจากคู่แข่งหน้าใหม่ที่หิวโหยกว่า ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอาจไม่สามารถหันหลังโดยสิ้นเชิงให้กับการผลิตสินค้าในแนวทาง ดังกล่าว ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างมูลค่าในการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาของตน
“การสร้างมูลค่า” เป็นสิ่งที่กว้างกว่าการเพิ่มเพียงมูลค่าประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ อาจภาคภูมิใจกับโรงงานประกอบสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่มีมูลค่าเพิ่ม แต่ในที่สุดมูลค่าที่แท้จริงของสินค้าไม่ได้มาจากการประกอบหรือชิ้นส่วน แต่มาจากทรัพย์สินทางปัญญา คือ สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และการออกแบบที่เราใส่เข้าไปในสินค้าแต่ละชนิด ถ้าเราจะสร้างมูลค่านี่คือสิ่งที่พวกเราที่มีชีวิตอยู่ในรุ่นนี้และในอนาคตจะต้องเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเริ่มโดยการกำหนดจุดที่ตนเองมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ และจะต้องเพิ่มคุณค่าทางภูมิปัญญาและทักษะของตนเพื่อผลิดสินค้าและบริการที่มีอำนาจต่อรองเชิงราคาในตลาดโลก
การสร้างมูลค่าหมายถึง หนึ่งบวกหนึ่งจะได้มากกว่าสอง แต่จะได้มากเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตลาดจะให้กับความคิดที่ใส่ไว้ในสินค้านั้นๆ สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีความประณีตทางศิลปะ วัฒนธรรม ที่สวยงาม การสร้างมูลค่าอาจหมายถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว การพัฒนา สินค้ายี่ห้อใหม่ และสินค้าที่มีความแตกต่างโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทย หรืออาจอยู่บนพื้นฐานของอะไรอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ประชาชนของเราจะต้องได้รับการเตรียมความพร้อมและมีอิสระที่จะค้นหา ทดลอง และสร้างสรรค์ หลายคนอาจต้องล้มเหลว แต่บางส่วนจะสำเร็จ และบางคนอาจประสบความสำเร็จอย่างมาก นี่คือ กลไกของตลาดเสรี และเป็นสิ่งที่ทำให้กลไกตลาดเสรีมีพลัง ไม่มีรูปแบบหรือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใดตายตัวที่จะเป็นหลักประกันการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ละประเทศมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน วิธีการที่ใช้ได้ผลในประเทศหนึ่งอาจใช้ไม่ได้ผลในอีกประเทศ ดังนั้นรูปแบบทางเศรษฐกิจควรมุ่งที่ความสามารถในการผลิตและปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของแรงงาน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของความสามารถในการแข่งขัน รูปแบบทางเศรษฐกิจจะต้องมุ่งที่การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสม่ำเสมอ มากกว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วบนรากฐานที่อ่อนแอ จะต้องมุ่งที่ความยั่งยืนโดยรวม ไม่ว่าจะในเชิงสังคมหรือสิ่งแวดล้อม
ผมเชื่อว่าการสร้างมูลค่าเป็นรูปแบบทางเศรษฐกิจใหม่สำหรับประเทศไทย และเป็นไปได้ว่าจะเป็นรูปแบบสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประชากรได้รับการศึกษาดีขึ้น และเศรษฐกิจก้าวขึ้นไปสู่ระดับขั้นการพัฒนาที่สูงขึ้น การสร้างมูลค่าจะมีส่วนช่วยที่สำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาจะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อใช้รูปแบบทางเศรษฐกิจนี้ การศึกษาจะเป็นส่วนแรกของสมการในการสร้างมูลค่าและเราได้ดำเนินการทุกทางในการผลักดันการปฏิรูปทางการศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีความรู้ในทุกสาขา
ส่วนที่สองได้แก่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในด้านกฎกติกาที่ใช้ในการควบคุม ซึ่งในด้านนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อแนวคิดและการปฏิบัติเรื่องการบริหารจัดการที่ดี เรากำลังผลักดันการปฏิรูปภาคการเงิน ภาคเอกชน และภาครัฐบาล อย่างรอบด้านตามแนวทางการบริหารจัดการที่ดี ในขณะเดียวกันเราดำเนินการไปมากแล้วในการสร้างมาตรฐานและปรับปรุงกฎระเบียบทางธนาคารของประเทศไทย ซึ่งเมื่อดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้น เราก็มุ่งมั่นจะปรับปรุงภาคเอกชนและธนาคารต่อไปเพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดที่สะดวกและน่าสนใจที่สุดในการประกอบธุรกิจ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ที่ผ่านมาผมได้กล่าวถึงนโยบายภายในประเทศที่ไทยดำเนินการมาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของยุคปัจจุบัน ในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เรากำลังพัฒนาและสร้างหุ้นส่วนที่ยังประโยชน์ร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์ให้มากจากความหลากหลายของเอเชีย
อาเซียนเป็นรากฐานของความร่วมมือในภูมิภาคของเรา อาเซียนซึ่งรวมประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตที่มีพลวัต และเป็นประตูสู่เอเชีย โดยเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวและมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันสูงถึง 700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประชากรจำนวน 550 ล้านคนประกอบด้วยแรงงานหนุ่มสาวซึ่งมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เป็นจำนวน 20.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2546 แม้ว่ากระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในโลกจะลดลง
อาเซียนกำลังมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี ค.ศ. 2020 ซึ่งประกอบด้วยประชาคมความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรม ด้วยความร่วมมือและการบูรณาการอย่างใกล้ชิดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและจะมีผลบังคับโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2015 เป็นกุญแจสำคัญของกระบวนการบูรณาการเพื่อส่งเสริมแนวโน้มดังที่ได้กล่าว ประเทศไทยกำลังดำเนินการเพื่อลดช่องว่างของการพัฒนาระหว่างสมาชิกอาเซียนเก่าและใหม่ สำหรับประเทศไทยนั้น การที่เอเชียจะรุ่งเรืองขึ้นนั้นมีความหมายเพียงน้อยนิด หากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพรมแดนติดกันถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในหลายกรอบด้วยกัน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค ความจำเป็นที่จะต้องลดความแตกต่างทางเศรษฐกิจเป็นแนวคิดเบื้องหลังเรื่องนี้ อาเซียนจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น แนบแน่นยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการลดช่องว่างดังกล่าว
ในขณะที่ทางภูมิศาสตร์เราให้ความสำคัญในลำดับแรกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยก็ยังมองไปข้างหน้าเพื่อหาโอกาสการร่วมมือ ประชากรกว่าร้อยละ 60 ของโลกอาศัยอยู่ในเอเชีย ทุนสำรองระหว่างประเทศของเอเชียคิดมากกว่าร้อยละ 75 ของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมดรวมกัน เราเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ นอกเหนือไปจากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอย่างล้นเหลือของเอเชีย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาที่สั่งสมมาจากอดีต จะเป็นบ่อเกิดของความแข็งแกร่งที่ควรจะใช้ประโยชน์และสามารถทำให้เป็นจริงได้
ผมเชื่อว่าการร่วมมือและเจรจาในกรอบกว้างเป็นขั้นตอนแรกที่ดีที่สุดในการปลดปล่อยศักยภาพเหล่านี้ผมได้ริเริ่มกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ ACD ซึ่งเป็นกรอบในระดับรัฐมนตรีที่ครอบคลุมทุกอนุภูมิภาคในเอเชีย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนี้ ACD ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในด้านสมาชิกภาพและสาขาความร่วมมือ ซึ่งในปัจจุบันรวมถึงสาขาความมั่นคงทางพลังงาน การขจัดความยากจน และความร่วมมือทางการเงิน เป็นต้น
ประเด็นหนึ่งที่ ACD มีบทบาทอย่างแข็งขันได้แก่ การพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี ค.ศ. 1997 ได้สอนให้เราทราบถึงความสำคัญของการมีสถาปัตยกรรมทางการเงินในระดับภูมิภาคที่เข้มแข็ง เพื่อรักษาเสถียรภาพในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงและไม่แน่นอน ตลาดพันธบัตรเอเชียจะช่วยในสองด้าน คือ จะเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนระหว่างประเทศและภายในภูมิภาคที่จะนำเงินมาลงทุน และยังจะช่วยนำเงินทุนเหล่านั้นมาเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาเอเชีย ดังนั้น จึงเป็นการใช้ความมั่งคั่งของเอเชียมาสร้างความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเราแทนที่จะเป็นที่อื่น
ประเทศไทยได้ร่วมมือกับประเทศเอเชียอื่นๆ ในเรื่องนี้ ประเทศไทยร่วมลงทุนในกองทุนพันธบัตร เอเชียระยะที่สอง จำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีวงเงินรวม 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุนนี้มุ่งที่จะจุดประกายการซื้อขายในตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่น รัฐบาลได้สร้างแรงกระตุ้นโดยการยกเว้นภาษีให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในพันธบัตรของไทย และได้อนุญาตให้ธนาคารโลก IFC ADB รัฐบาลและสถาบันการเงินต่างชาติ ออกพันธบัตรในสกุลเงินของเอเชีย ผมขอเน้นว่าความคิดริเริ่มในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียจะช่วยเสริมจุดมุ่งหมายของ IMF ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของโลก และช่วยบรรเทาความต้องการใช้ทรัพยากรของ IMF ในโลกที่สิ่งท้าทายมาในรูปแบบและขนาดที่แตกต่างกัน วิธีการแก้ไขก็ต้องปรับตามให้สอดคล้อง
ในระดับระหว่างประเทศ เรายึดมั่นต่อทางแก้ปัญหาในกรอบพหุภาคีทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องการเห็นการเจรจาการค้ารอบโดฮาบรรลุผลตามเวลา เราได้ดำเนินการเจรจาการค้าเสรีทั้งในระดับภูมิภาคและทวิภาคีกับประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ประเทศที่เราได้บรรลุข้อตกลงแล้วได้แก่ ออสเตรเลีย บาห์เรน นิวซีแลนด์ และจีน เพื่อรักษาประโยชน์จากการค้าที่เสรีมากขึ้น ในขณะที่การเจรจาในกรอบ WTO ดำเนินอยู่
การค้าเสรีเป็นเครื่องมือที่แปลกที่นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง และรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อบรรลุข้อตกลง เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ แต่การค้าเสรีในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์โลกาภิวัฒน์ก็ได้รับแรงต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
ในประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ ความตกใจของสาธารณชนมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนทำงานชั้นสูงไหลออกไปต่างประเทศ แต่การจะรับมือกับการรุ่งเรืองขึ้นของเอเชียนั้นไม่ใช่ด้วยการกล่าวโทษกันเอง โลกาภิวัตน์คือโอกาสที่จะต้องฉกฉวยไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งท้าทายด้วย เงินทุนย่อมไหลไปยังที่ที่จะถูกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ถ้าไม่ใช่จีน หรืออินเดีย ก็จะเป็นที่อื่น เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องไห้โลกาภิวัตน์มีเลือดเนื้อของความเป็นมนุษย์ ทั้งรัฐบาลและเอกชนการเคลื่อนไหวอย่างเสรีของการค้าและเงินทุนจะต้องมีควบคู่กันไป หากไม่สมดุลย์ก็จะสร้างผลกระทบด้านใดด้านหนึ่ง ตราบใดที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนเล็งเห็นว่าประโยชน์ที่ได้รับจากโลกาภิวัตน์มีน้ำหนักมากกว่าผลเสีย ก็จะต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อลดความรุนแรงของผลกระทบต่อสมาชิกในสังคมที่ อ่อนแอที่สุด นี่คือสาเหตุที่ผมเน้นถึงความสำคัญของการศึกษาและความสามารถในการปรับตัวของแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจ
นี่คือสาเหตุที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อบทบาทของภาคเอกชน บริษัทต่างๆ ที่มีผู้แทนอยู่ในห้องนี้รวมถึงบริษัทที่มีพลวัตสูงที่สุดในเอเชียอยู่ด้วย เมื่อคุณมองหาโอกาสในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุณาระลึกด้วยว่าประเทศเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังเป็นสังคมที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอีกด้วย บริษัทสามารถให้การสนับสนุนที่มีคุณค่าต่อการพัฒนา มาตรฐานและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ ในฐานะที่เป็นสมาชิกภาคเอกชนที่มีความรับผิดชอบ บริษัทเอกชนสามารถช่วย ทะนุถนอมสายใยในสังคม และศักดิ์ศรีของสังคมที่ตนได้เข้าไปลงทุน ดังนั้น บริษัทเอกชนจึงไม่ได้เป็นเพียง เครื่องจักรของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เป็นเครื่องจักรของการพัฒนาในระดับชาติโดยแท้
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ความรุ่งเรืองของเอเชียไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาก่อน แต่เป็นเดิมพัน ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นตลาดร่วม หรือแม้กระทั่งเป็นประชาคมนั้นไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อน แต่เมื่อท่านมองมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรดอย่ามองเพียงแค่เศรษฐกิจหลักๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมไม่สามารถ จะรุ่งเรืองขึ้นได้ หากสมาชิกที่ฐานะด้อยกว่ายังคงตกอยู่ในภาวะความยากจน รัฐบาลของผมกำลังทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปิดหรืออย่างน้อยก็ลดช่องว่างภายในอาเซียน ซึ่งกระทำผ่านกรอบต่างๆ รวมถึงกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ ACMECS ภารกิจนี้ใหญ่หลวงนัก เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ทั้งในแง่ของเวลาและทรัพยากร แต่ก็เป็นภารกิจที่ต้องทำ ผมขอให้ท่านในฐานะสมาชิกภาคเอกชนทำงานร่วมกับผมในการเร่งเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้เป็นตลาดการค้า ดังที่ได้วาดภาพกันไว้เมื่อทศวรรษครึ่งที่แล้ว
เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพมากมาย เอเชียที่เกาะกลุ่มกัน มีพลวัต และมีเสถียรภาพจะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของโลกได้อย่างมหาศาล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะที่เป็นจุดพบกันของ การค้าและวัฒนธรรมมาหลายศตวรรษอยู่ในทำเลที่เหมาะสมที่จะเป็นแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยนโยบายที่ถูกต้องและอาศัยโชคอีกนิดหน่อย เราอาจได้เห็นการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งมีตลาดเงินทุน การเงิน และสินค้าที่มีการพัฒนาอย่างดีเป็นของตนเอง และมีความเชื่อมโยงกับโลก ภายนอกยิ่งไปกว่านั้น หากประชาชนในเอเชียมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เอกลักษณ์ของเอเชียอาจเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นประชาคมอย่างแท้จริงของเอเชีย
ทั้งหมดยังคงเป็นความฝันในขณะนี้ แต่ถ้าเรามีคนมากพอร่วมกับผม และผมหวังว่าทุกคนจะร่วมด้วย ความฝันนี้ก็สามารถเป็นความจริงได้ ผมหวังว่าท่านจะทำงานร่วมกับผมเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง เพื่อลูกหลานของเราซึ่งเป็นประชากรของโลกในอนาคต
ขอบคุณครับ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-