ข่าวการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๒๒
วันจันทร์ที่ ๖ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณารัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สถาบันการบินพลเรือน และส่วนราชการไม่สังกัด
สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง ในส่วนของสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางน้ำ ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๕ ลดลงจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๒,๒๔๙,๐๓๐,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตดังต่อไปนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ลดลงจากปี ๒๕๔๔ จำนวนมาก
สาเหตุเพราะอะไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่างบประมารรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๔ นั้น ใช้ในการก่อสร้างมากจึงต้อง
ใช้งบประมาณจำนวนมาก ส่วนงบประมาณปี ๒๕๔๕ นั้น เป็นงบประมาณสำหรับก่อสร้างซึ่งค้างจ่ายในปี
๒๕๔๔ จะนำมาจ่ายในปี ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ ๒ (ระยะที่ ๑) จำนวนเงิน
๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๒. คณะกรรมาธิการได้ซักถามโครงการพัฒนาเคหะชุมชนคลองเตย ผลการดำเนินการเป็น
อย่างไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่า จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๓-๒๕๔๔ ใช้งบในการซื้อที่ดินและ
สร้างอาคารที่อยู่อาศัยได้ดำเนินการถึงช่วงสุดท้าย
๓. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเรื่องคดีความบริษัท เทรลเลอร์ทรานสปอร์ท (๑๙๗๔) จำกัด
มีความเป็นมาอย่างไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่า การท่าเรือฯ ได้ยื่นฟ้องบริษัทเทรลเลอร์ฯ รวม ๒ คดี คือ
๑) ฟ้องขับไล่ให้ออกจากที่ดินตรงข้ามกรมศุลกากร ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
และบริวารออกจากที่ดินบริเวณริมถนน สุนทรโกษา และส่งมอบที่เช่าคืนในสภาพเรียบร้อย
ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นวงเงิน ๓๖๗,๗๕๘.๒๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ
๗.๕ ต่อปี แต่บริษัทเทรลเลอร์ฯ ได้กลับมาเป็นโจทก์ฟ้องการท่าเรือฯ เป็นจำเลยเรื่องผิด
ข้อตกลงการเช่าที่ดิน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
๒) ฟ้องขับไล่ให้ออกจากอาคารที่ทำการ ๗ ชั้น (ตึกทวิช) และอาคารคลังสินค้า ๖ หลัง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกเช่าและอาคารคลังสินค้า
และชดใช้ค่าเสียหาย ๒๕.๙ ล้านบาท กับค่าเสียหายรายเดือน ๆ ละ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่
วันถัดจากวันฟ้อง (๑ ส.ค. ๒๕๓๓) เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวาร
ออกไป แต่บริษัทเทรลเลอร์ฯ ได้ยื่นฟ้องการท่าเรือฯ เป็นจำเลยเรื่องผิดข้อตกลงการเช่าตึก
พิพาท ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาศาลชั้นต้น
การรถไฟแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๙,๒๒๓,๓๔๘,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางบก ๘,๖๑๔,๒๘๔,๐๐๐ บาท
ข. แผนงานส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ๕๕,๓๒๘,๐๐๐ บาท
ค. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๕๕๓,๗๓๖,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๙๐๒,๔๔๗,๙๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. การเดินทางมีความล่าช้าไม่ตรงเวลา และเสียเวลามากในระหว่างเดินทางได้รับคำชี้แจงว่า
ทางรถไฟของไทยมีลักษณะเป็นรางเดี่ยวความจุของทางมีจำกัด ขบวนรถมีมาก ขณะนี้ได้พยายามขอร้อง
ภาครัฐให้ทำการก่อสร้างทางคู่รอบกรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้น ส่วนทางภาคใต้ขณะนี้กำลัง
ดำเนินการเปลี่ยนไม้หมอน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ล่าช้า นอกจากนี้พิธีการศุลกากรของประเทศ
มาเลเซียในการเดินทางของรถไฟสายบัตเตอร์เวิร์ธมีความล่าช้า กรณีนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลัง
ดำเนินการเจรจากับทางประเทศมาเลเซียเพื่อแก้ไขปัญหานี้
๒. ที่ดินของการรถไฟซึ่งให้เอกชนหรือราชการเช่า มีการบริหารทรัพย์สินโดยนำวิธีคิด
ค่าเช่าจากกรมธนารักษ์และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาใช้ ภาคเอกชนหากไม่สามารถ
ชำระค่าเช่าได้สามารถเจรจากับการรถไฟเพื่อผ่อนชำระ ส่วนหน่วยราชการหากเช่าเพื่อใช้ประโยชน์โดย
ไม่มีรายได้จะลดค่าเช่าให้ ๗๕%
๓. คณะกรรมาธิการซักถามถึงนโยบายทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับคำชี้แจงว่า
ทางภาคใต้มีการเชื่อมกับมาเลเซีย ไปที่บัตเตอร์เวิร์ธอยู่แล้ว และกำลังจะทำทางเชื่อมที่สุไหงโกลก เพื่อ
ไปโกตาบารูของมาเลเซียอีกเส้นทางหนึ่ง ทางเชื่อมกับลาวการรถไฟฯ ได้ทำทางเชื่อมไปถึงกึ่งกลางสะพาน
มิตรภาพไทย - ลาว รอให้ลาวทำทางรถไฟเพื่อมาเชื่อมต่อนอกจากนี้ยังมีนโยบายจะทำทางรถไฟจากชัยภูมิ
-เลยข้ามไปหลวงพระบางอีกเส้นทางหนึ่ง ส่วนประเทศกัมพูชา ได้ขอให้ไทยช่วยสำรวจเส้นทางซึ่งการ
ศึกษาได้เสร็จแล้วอยู่ระหว่างเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา
๔. คณะกรรมาธิการขอให้การรถไฟฯ กวดขันพนักงานและตำรวจรถไฟเรื่องการดื่มสุรา
การใช้ยาเสพติด การแต่งกายให้สุภาพระหว่างปฏิบัติงาน และดูแลเด็กและสตรีเป็นพิเศษ
๕. การรถไฟแห่งประเทศไทยมีนโยบายในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อตั้งเป็นบริษัทจำกัด
แต่เกิดปัญหาความขัดแย้งทางความคิดกับสหภาพแรงงาน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงองค์การจึงต้อง
ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๒๕,๐๓๓,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๔๒๕,๐๓๓,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๕ เท่ากับงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๔
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการการถ่ายโอนกิจการขององค์การ
ขนส่งมวลชนกรุงเทพให้กรุงเทพมหานครดูแล ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าได้เริ่มดำเนินการมาหลายปีแล้ว โครงการ
ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ขณะนี้ยังรอคำตอบจากกรุงเทพมหานครว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
๒. คณะกรรมาธิการได้เสนอแนะให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพวางแผนงานเพื่อรองรับการ
ขยายตัวของโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ทั้งในปัจจุบันและที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้อง
กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม
๓. คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรและมาตรฐานการบริการต่าง ๆ
ยังมีข้อบกพร่อง เช่น มารยาทของเจ้าหน้ที่ ขสมก. ความสะอาดบนรถ และอู่รถ เป็นต้น ซึ่งควรได้รับการ
แก้ไขเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถาบันการบินพลเรือน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๖๔,๙๙๓,๒๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางอากาศ ๖๔,๙๙๓,๒๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๔,๐๐๗,๒๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและสอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการแปรรูปของ
สถาบันการบินพลเรือนตามพระราชบัญญัติองค์กรมหาชน ว่าดำเนินการเป็นเช่นไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า
ปัจจุบันจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ ดำเนินงานรับผิดชอบ แก้ไขปัญหาทางด้านการปรับโครงสร้างสนามบิน
รวมทั้งการปรับระเบียบอัตราเงินเดือน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ โดยกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการพิจารณา
คาดว่าปี ๒๕๔๖ จะสามารถแปรรูปได้สำเร็จ
พร้อมกันนี้คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องการทำวิจัยทางด้านการบินว่าควรจัด
ทำแผนการพัฒนาศักยภาพการบินของประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางการค้า ซึ่งปัจจุบันสถาบัน
การบินพลเรือนได้ร่วมมือกับกรมการบินพาณิชย์จัดทำเป็น Model เพื่อศึกษาวิเคราะห์สนามบินทั่วประเทศ
และยังได้จัดทำแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคลไว้เพื่อพัฒนาการบินของประเทศให้สามารถบริการได้
อย่างเป็นสากลและมีประสิทธิภาพ
สำนักพระราชวัง
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๑๓๖,๕๓๖,๖๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๑,๑๓๖,๕๓๖,๖๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๗๗,๙๙๖,๖๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
สำนักราชเลขาธิการ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๒๗๑,๙๘๔,๗๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๒๗๑,๙๘๔,๗๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๘,๖๑๖,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
ราชบัณฑิตยสถาน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๔๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๑,๖๙๙,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมีข้อเสนอแนะในราชบัณฑิตยสถานสร้างระบบเครือข่าย
เพื่อเชื่อมโยงภาษาไทยกลางและภาษาไทยท้องถิ่นให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นการส่งเสริม
ให้ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติต่อไป โดยต้องกำหนดบทบาทของราชบัณฑิตยสถานให้ชัดเจน
รวมทั้งการพัฒนาในส่วนของการบัญญัติศัพท์ ชำระศัพท์ และเผยแพร่ภาษาไทยให้เป็นที่รู้จักอย่าง
กว้างขวาง ซึ่งหากติดขัดในเรื่องบประมาณ ขอให้ราชบัณฑิตยสภาแปรญัตติของบประมาณเพิ่มเข้ามา
เพื่อพัฒนาดำเนินการในส่วนนี้
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๗๕,๗๔๕,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๔๗๕,๗๔๕,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๑๐๗,๖๓๔,๐๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๓๕๒,๕๙๕,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๑,๓๕๒,๕๙๕,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๒๑๒,๑๘๕,๒๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. ปัจจุบันสถานีวิทยุรัฐสภา ยังไม่สามารถขยายเครือข่ายได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งมี
เครือข่ายเพียง ๑๕ สถานี แม้จะมีแผนขยายเครือข่ายให้ครบ ๑๗ สถานี ในปี ๔๕ ซึ่งปีนี้ไม่ได้รับจัดสรร
งบประมาณในส่วนนี้ ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงเสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แปรญัตติ
ของบประมาณเพิ่มเพื่อพัฒนาขยายเครือข่ายสถานีวิทยุให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
๒. เกี่ยวกับเรื่องบำเหน็จ บำนาญ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการชี้แจงว่าทำการ
ยกร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว โดยส่งให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่ และรออนุมัติจากกระทรวงการคลัง
๓. คณะกรรมาธิการได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับงบประมาณในการศึกษาดูงานของคณะ
กรรมาธิการเพื่อนำมาพิจารณา แก้ไขปรับปรุงและเป็นแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งมีการเสนอให้มีการแปรญัตติเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวให้บรรลุตาม
เป้าหมายที่วางไว้
๔. คณะกรรมาธิการแสดงความห่วงใยในความปลอดภัยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกวุฒิสภา และเจ้าหน้าที่ของรัฐสภา คระกรรมาธิการจึงเสนอแนะให้มีการป้องกันความปลอดภัย
โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธเพิ่มมากขึ้น หากติดขัดเรื่อง
งบประมาณก็ให้มีการแปรญัตติเพิ่มในส่วนนี้
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ปรับลด ๔,๘๓๔,๖๕๘,๕๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๑๘,๑๖๕,๓๔๑,๕๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันจันทร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๔
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๒๒
วันจันทร์ที่ ๖ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณารัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สถาบันการบินพลเรือน และส่วนราชการไม่สังกัด
สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง ในส่วนของสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางน้ำ ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๕ ลดลงจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๒,๒๔๙,๐๓๐,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตดังต่อไปนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ลดลงจากปี ๒๕๔๔ จำนวนมาก
สาเหตุเพราะอะไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่างบประมารรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๔ นั้น ใช้ในการก่อสร้างมากจึงต้อง
ใช้งบประมาณจำนวนมาก ส่วนงบประมาณปี ๒๕๔๕ นั้น เป็นงบประมาณสำหรับก่อสร้างซึ่งค้างจ่ายในปี
๒๕๔๔ จะนำมาจ่ายในปี ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ ๒ (ระยะที่ ๑) จำนวนเงิน
๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๒. คณะกรรมาธิการได้ซักถามโครงการพัฒนาเคหะชุมชนคลองเตย ผลการดำเนินการเป็น
อย่างไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่า จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๓-๒๕๔๔ ใช้งบในการซื้อที่ดินและ
สร้างอาคารที่อยู่อาศัยได้ดำเนินการถึงช่วงสุดท้าย
๓. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเรื่องคดีความบริษัท เทรลเลอร์ทรานสปอร์ท (๑๙๗๔) จำกัด
มีความเป็นมาอย่างไร การท่าเรือฯ ชี้แจงว่า การท่าเรือฯ ได้ยื่นฟ้องบริษัทเทรลเลอร์ฯ รวม ๒ คดี คือ
๑) ฟ้องขับไล่ให้ออกจากที่ดินตรงข้ามกรมศุลกากร ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
และบริวารออกจากที่ดินบริเวณริมถนน สุนทรโกษา และส่งมอบที่เช่าคืนในสภาพเรียบร้อย
ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นวงเงิน ๓๖๗,๗๕๘.๒๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ
๗.๕ ต่อปี แต่บริษัทเทรลเลอร์ฯ ได้กลับมาเป็นโจทก์ฟ้องการท่าเรือฯ เป็นจำเลยเรื่องผิด
ข้อตกลงการเช่าที่ดิน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
๒) ฟ้องขับไล่ให้ออกจากอาคารที่ทำการ ๗ ชั้น (ตึกทวิช) และอาคารคลังสินค้า ๖ หลัง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกเช่าและอาคารคลังสินค้า
และชดใช้ค่าเสียหาย ๒๕.๙ ล้านบาท กับค่าเสียหายรายเดือน ๆ ละ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่
วันถัดจากวันฟ้อง (๑ ส.ค. ๒๕๓๓) เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวาร
ออกไป แต่บริษัทเทรลเลอร์ฯ ได้ยื่นฟ้องการท่าเรือฯ เป็นจำเลยเรื่องผิดข้อตกลงการเช่าตึก
พิพาท ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาศาลชั้นต้น
การรถไฟแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๙,๒๒๓,๓๔๘,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางบก ๘,๖๑๔,๒๘๔,๐๐๐ บาท
ข. แผนงานส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ๕๕,๓๒๘,๐๐๐ บาท
ค. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๕๕๓,๗๓๖,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๙๐๒,๔๔๗,๙๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. การเดินทางมีความล่าช้าไม่ตรงเวลา และเสียเวลามากในระหว่างเดินทางได้รับคำชี้แจงว่า
ทางรถไฟของไทยมีลักษณะเป็นรางเดี่ยวความจุของทางมีจำกัด ขบวนรถมีมาก ขณะนี้ได้พยายามขอร้อง
ภาครัฐให้ทำการก่อสร้างทางคู่รอบกรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้น ส่วนทางภาคใต้ขณะนี้กำลัง
ดำเนินการเปลี่ยนไม้หมอน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ล่าช้า นอกจากนี้พิธีการศุลกากรของประเทศ
มาเลเซียในการเดินทางของรถไฟสายบัตเตอร์เวิร์ธมีความล่าช้า กรณีนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลัง
ดำเนินการเจรจากับทางประเทศมาเลเซียเพื่อแก้ไขปัญหานี้
๒. ที่ดินของการรถไฟซึ่งให้เอกชนหรือราชการเช่า มีการบริหารทรัพย์สินโดยนำวิธีคิด
ค่าเช่าจากกรมธนารักษ์และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาใช้ ภาคเอกชนหากไม่สามารถ
ชำระค่าเช่าได้สามารถเจรจากับการรถไฟเพื่อผ่อนชำระ ส่วนหน่วยราชการหากเช่าเพื่อใช้ประโยชน์โดย
ไม่มีรายได้จะลดค่าเช่าให้ ๗๕%
๓. คณะกรรมาธิการซักถามถึงนโยบายทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับคำชี้แจงว่า
ทางภาคใต้มีการเชื่อมกับมาเลเซีย ไปที่บัตเตอร์เวิร์ธอยู่แล้ว และกำลังจะทำทางเชื่อมที่สุไหงโกลก เพื่อ
ไปโกตาบารูของมาเลเซียอีกเส้นทางหนึ่ง ทางเชื่อมกับลาวการรถไฟฯ ได้ทำทางเชื่อมไปถึงกึ่งกลางสะพาน
มิตรภาพไทย - ลาว รอให้ลาวทำทางรถไฟเพื่อมาเชื่อมต่อนอกจากนี้ยังมีนโยบายจะทำทางรถไฟจากชัยภูมิ
-เลยข้ามไปหลวงพระบางอีกเส้นทางหนึ่ง ส่วนประเทศกัมพูชา ได้ขอให้ไทยช่วยสำรวจเส้นทางซึ่งการ
ศึกษาได้เสร็จแล้วอยู่ระหว่างเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา
๔. คณะกรรมาธิการขอให้การรถไฟฯ กวดขันพนักงานและตำรวจรถไฟเรื่องการดื่มสุรา
การใช้ยาเสพติด การแต่งกายให้สุภาพระหว่างปฏิบัติงาน และดูแลเด็กและสตรีเป็นพิเศษ
๕. การรถไฟแห่งประเทศไทยมีนโยบายในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อตั้งเป็นบริษัทจำกัด
แต่เกิดปัญหาความขัดแย้งทางความคิดกับสหภาพแรงงาน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงองค์การจึงต้อง
ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๒๕,๐๓๓,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๔๒๕,๐๓๓,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๕ เท่ากับงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๔
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการการถ่ายโอนกิจการขององค์การ
ขนส่งมวลชนกรุงเทพให้กรุงเทพมหานครดูแล ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าได้เริ่มดำเนินการมาหลายปีแล้ว โครงการ
ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ขณะนี้ยังรอคำตอบจากกรุงเทพมหานครว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
๒. คณะกรรมาธิการได้เสนอแนะให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพวางแผนงานเพื่อรองรับการ
ขยายตัวของโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ทั้งในปัจจุบันและที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้อง
กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม
๓. คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรและมาตรฐานการบริการต่าง ๆ
ยังมีข้อบกพร่อง เช่น มารยาทของเจ้าหน้ที่ ขสมก. ความสะอาดบนรถ และอู่รถ เป็นต้น ซึ่งควรได้รับการ
แก้ไขเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถาบันการบินพลเรือน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๖๔,๙๙๓,๒๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานขนส่งทางอากาศ ๖๔,๙๙๓,๒๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๔,๐๐๗,๒๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและสอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการแปรรูปของ
สถาบันการบินพลเรือนตามพระราชบัญญัติองค์กรมหาชน ว่าดำเนินการเป็นเช่นไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า
ปัจจุบันจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ ดำเนินงานรับผิดชอบ แก้ไขปัญหาทางด้านการปรับโครงสร้างสนามบิน
รวมทั้งการปรับระเบียบอัตราเงินเดือน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ โดยกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการพิจารณา
คาดว่าปี ๒๕๔๖ จะสามารถแปรรูปได้สำเร็จ
พร้อมกันนี้คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องการทำวิจัยทางด้านการบินว่าควรจัด
ทำแผนการพัฒนาศักยภาพการบินของประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางการค้า ซึ่งปัจจุบันสถาบัน
การบินพลเรือนได้ร่วมมือกับกรมการบินพาณิชย์จัดทำเป็น Model เพื่อศึกษาวิเคราะห์สนามบินทั่วประเทศ
และยังได้จัดทำแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคลไว้เพื่อพัฒนาการบินของประเทศให้สามารถบริการได้
อย่างเป็นสากลและมีประสิทธิภาพ
สำนักพระราชวัง
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๑๓๖,๕๓๖,๖๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๑,๑๓๖,๕๓๖,๖๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๗๗,๙๙๖,๖๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
สำนักราชเลขาธิการ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๒๗๑,๙๘๔,๗๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๒๗๑,๙๘๔,๗๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๘,๖๑๖,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
ราชบัณฑิตยสถาน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๔๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๑,๖๙๙,๓๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมีข้อเสนอแนะในราชบัณฑิตยสถานสร้างระบบเครือข่าย
เพื่อเชื่อมโยงภาษาไทยกลางและภาษาไทยท้องถิ่นให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นการส่งเสริม
ให้ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติต่อไป โดยต้องกำหนดบทบาทของราชบัณฑิตยสถานให้ชัดเจน
รวมทั้งการพัฒนาในส่วนของการบัญญัติศัพท์ ชำระศัพท์ และเผยแพร่ภาษาไทยให้เป็นที่รู้จักอย่าง
กว้างขวาง ซึ่งหากติดขัดในเรื่องบประมาณ ขอให้ราชบัณฑิตยสภาแปรญัตติของบประมาณเพิ่มเข้ามา
เพื่อพัฒนาดำเนินการในส่วนนี้
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๗๕,๗๔๕,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๔๗๕,๗๔๕,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๑๐๗,๖๓๔,๐๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและมิได้ตั้งข้อสังเกต
สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๓๕๒,๕๙๕,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
ก. แผนงานบริหารงานขององค์กรแห่งรัฐ ๑,๓๕๒,๕๙๕,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นจำนวนเงิน
๒๑๒,๑๘๕,๒๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
๑. ปัจจุบันสถานีวิทยุรัฐสภา ยังไม่สามารถขยายเครือข่ายได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งมี
เครือข่ายเพียง ๑๕ สถานี แม้จะมีแผนขยายเครือข่ายให้ครบ ๑๗ สถานี ในปี ๔๕ ซึ่งปีนี้ไม่ได้รับจัดสรร
งบประมาณในส่วนนี้ ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงเสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แปรญัตติ
ของบประมาณเพิ่มเพื่อพัฒนาขยายเครือข่ายสถานีวิทยุให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
๒. เกี่ยวกับเรื่องบำเหน็จ บำนาญ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการชี้แจงว่าทำการ
ยกร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว โดยส่งให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่ และรออนุมัติจากกระทรวงการคลัง
๓. คณะกรรมาธิการได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับงบประมาณในการศึกษาดูงานของคณะ
กรรมาธิการเพื่อนำมาพิจารณา แก้ไขปรับปรุงและเป็นแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งมีการเสนอให้มีการแปรญัตติเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวให้บรรลุตาม
เป้าหมายที่วางไว้
๔. คณะกรรมาธิการแสดงความห่วงใยในความปลอดภัยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกวุฒิสภา และเจ้าหน้าที่ของรัฐสภา คระกรรมาธิการจึงเสนอแนะให้มีการป้องกันความปลอดภัย
โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธเพิ่มมากขึ้น หากติดขัดเรื่อง
งบประมาณก็ให้มีการแปรญัตติเพิ่มในส่วนนี้
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ปรับลด ๔,๘๓๔,๖๕๘,๕๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๑๘,๑๖๕,๓๔๑,๕๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันจันทร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๔