1. การปรับลดอัตราอากรขาเข้าที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 อนุมัติให้ปรับลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับวัตถุดิบขั้นปฐม ปัจจัยการผลิตขั้นกลาง สินค้าทุนและสินค้าอื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อลดต้นทุนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งช่วยให้ภาคการผลิตในประเทศสามารถ แข่งขันในระดับโลกได้ ดังนี้
1) ลดอัตราอากรขาเข้ากระดาษ อลูมิเนียมฟอล์ย โพลีเอทิลีน แผ่นอลูมิเนียม และเหล็กแผ่นรีดร้อนเฉพาะที่นำมาใช้เพื่อผลิตเหล็กแผ่นเคลือบ (Tin Mill Black Plate: TMBP) ซึ่งเป็นปัจจัยในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จากร้อยละ 10 20 และ 30 เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นกล่องกระดาษสำหรับบรรจุอาหาร และกระดาษเคลือบที่นำเข้ามาพิมพ์ให้ลดเหลือร้อยละ 5 และถุงพลาสติกเคลือบอลูมิเนียมเหลือร้อยละ 15
2) ลดอัตราอากรเยื่อใยยาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ และผ้าสำหรับใช้กับ เครื่องจักร (felt) จากร้อยละ 5 และ 10 เหลือร้อยละ 1
3) ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 และยางสังเคราะห์ที่ใช้ผสมกับยางธรรมชาติจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10
4) ลดอัตราอากรสารปรุง แต่งสีและเคลือบเงาที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส์เหลือร้อยละ 1 และ 5 ตามลำดับ
5) ลดอัตราอากรปัจจัยการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ปัจจัยการผลิตเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 5 และเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 10
6) ลดอัตราอากรลวดเหล็ก สแตนเลส และเหล็กกล้ารอบสูงใช้ทำใบมีดใบเลื่อยจากร้อยละ 10 และ 12 เหลือร้อยละ 1
7) ลดอัตราอากรเครื่องจักรและอุปกรณ์ เช่น เครื่องอัดลม วาล์วนิรภัย มอเตอร์ และเครื่องจักรอื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เหลือร้อยละ 3
8) ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ ที่เป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ พลาสติก ยาง กระดาษ เภสัชกรรม และการแพทย์ เป็นต้น เหลือร้อยละ 1 (ยกเว้นบางรายการลดเหลือร้อยละ 5 และ 10)
9) สินค้าอื่น ๆ เช่น ไม้เท้าสำหรับคนพิการลดเหลือร้อยละ 0 เศษเนื้อสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ไม้สนที่ขัดเข้าลิ้น และเยื่อไม้เคมีชนิดละลายน้ำได้ ลดเหลือร้อยละ 5 ช็อกโกเลตและอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่มีโกโก้ ลดลงเหลือร้อยละ 10
อนึ่ง การปรับลดอากรขาเข้าครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 542 รายการ แม้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ปีละประมาณ 3,300 ล้านบาท แต่จะสามารถ ชดเชยได้จากการเก็บภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นรวมทั้งผู้บริโภคในประเทศจะสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ต่ำลง
2. โครงการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2543 อนุมัติในหลักการโครงการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเอธานอลแห่งชาติอยู่ในสังกัดของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ของโครงการนี้ภายใต้สมมติฐานต่าง ๆ เช่น กรณีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง แต่ราคาพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบสูงขึ้นหรือกรณีที่เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบมากจนเกิดภาวะล้นตลาด เป็นต้น ทั้งนี้ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดตั้ง คณะกรรมการดังกล่าว เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ โดยถาวรต่อไป
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 อนุมัติให้ปรับลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับวัตถุดิบขั้นปฐม ปัจจัยการผลิตขั้นกลาง สินค้าทุนและสินค้าอื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อลดต้นทุนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งช่วยให้ภาคการผลิตในประเทศสามารถ แข่งขันในระดับโลกได้ ดังนี้
1) ลดอัตราอากรขาเข้ากระดาษ อลูมิเนียมฟอล์ย โพลีเอทิลีน แผ่นอลูมิเนียม และเหล็กแผ่นรีดร้อนเฉพาะที่นำมาใช้เพื่อผลิตเหล็กแผ่นเคลือบ (Tin Mill Black Plate: TMBP) ซึ่งเป็นปัจจัยในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จากร้อยละ 10 20 และ 30 เหลือร้อยละ 1 ยกเว้นกล่องกระดาษสำหรับบรรจุอาหาร และกระดาษเคลือบที่นำเข้ามาพิมพ์ให้ลดเหลือร้อยละ 5 และถุงพลาสติกเคลือบอลูมิเนียมเหลือร้อยละ 15
2) ลดอัตราอากรเยื่อใยยาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ และผ้าสำหรับใช้กับ เครื่องจักร (felt) จากร้อยละ 5 และ 10 เหลือร้อยละ 1
3) ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 และยางสังเคราะห์ที่ใช้ผสมกับยางธรรมชาติจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10
4) ลดอัตราอากรสารปรุง แต่งสีและเคลือบเงาที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกส์เหลือร้อยละ 1 และ 5 ตามลำดับ
5) ลดอัตราอากรปัจจัยการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ปัจจัยการผลิตเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 5 และเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยเหลือร้อยละ 10
6) ลดอัตราอากรลวดเหล็ก สแตนเลส และเหล็กกล้ารอบสูงใช้ทำใบมีดใบเลื่อยจากร้อยละ 10 และ 12 เหลือร้อยละ 1
7) ลดอัตราอากรเครื่องจักรและอุปกรณ์ เช่น เครื่องอัดลม วาล์วนิรภัย มอเตอร์ และเครื่องจักรอื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เหลือร้อยละ 3
8) ลดอัตราอากรเคมีภัณฑ์ ที่เป็นวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ พลาสติก ยาง กระดาษ เภสัชกรรม และการแพทย์ เป็นต้น เหลือร้อยละ 1 (ยกเว้นบางรายการลดเหลือร้อยละ 5 และ 10)
9) สินค้าอื่น ๆ เช่น ไม้เท้าสำหรับคนพิการลดเหลือร้อยละ 0 เศษเนื้อสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ไม้สนที่ขัดเข้าลิ้น และเยื่อไม้เคมีชนิดละลายน้ำได้ ลดเหลือร้อยละ 5 ช็อกโกเลตและอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่มีโกโก้ ลดลงเหลือร้อยละ 10
อนึ่ง การปรับลดอากรขาเข้าครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 542 รายการ แม้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ปีละประมาณ 3,300 ล้านบาท แต่จะสามารถ ชดเชยได้จากการเก็บภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นรวมทั้งผู้บริโภคในประเทศจะสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ต่ำลง
2. โครงการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2543 อนุมัติในหลักการโครงการผลิตแอลกอฮอล์จากพืชเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเอธานอลแห่งชาติอยู่ในสังกัดของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ของโครงการนี้ภายใต้สมมติฐานต่าง ๆ เช่น กรณีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง แต่ราคาพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบสูงขึ้นหรือกรณีที่เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบมากจนเกิดภาวะล้นตลาด เป็นต้น ทั้งนี้ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดตั้ง คณะกรรมการดังกล่าว เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ โดยถาวรต่อไป
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-