บทสรุปสำหรับนักลงทุน
อุปกรณ์กันมดเป็นอุปกรณ์ที่มีกลิ่นที่มีผลต่อระบบประสาทของมดและแมลง ซึ่งเมื่อวางไว้บริเวณใดๆแล้วทำให้มดและแมลงไม่มาใกล้บริเวณที่มีสารเหล่านี้อยู่ ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้ยาฉีดประเภทสเปรย์ ซึ่งมีการฉีดและฟุ้งกระจายซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้ การใช้อุปกรณ์กันมดจึงสามารถรับรองด้านความปลอดภัยจากสารพิษต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมได้ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
ตลาดของอุปกรณ์กันมดสามารถเป็นตลาดทดแทนของสารเคมีกำจัดมดทั่วไปได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการใช้คือกันการรบกวนจากมดและแมลง ในขณะเดียวกันกระแสความต้องการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการปลอดสารพิษ จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้อุปกรณ์กันมดมีแนวโน้มการใช้งานที่มากขึ้น โดยควบคุมทั้งการใช้ในบ้านพักอาศัย สำนักงานหรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนดังนั้นอุปกรณ์กันมดจะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี และยังมีแนวโน้มในการส่งออกไปขายในตลาดที่มีการพัฒนาด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและอยู่ในประเทศแถบร้อน เช่น สิงคโปร์ และมาเลเซียได้
ปัจจุบันมีผู้ผลิตอุปกรณ์กันมดเพียง 3 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1 ล้านบาท ทั้งนี้การผลิตอุปกรณ์กันมดผู้ผลิตต้องสามารถดัดแปลงสูตรของสารที่จะใช้ในอุปกรณ์กันมดด้วยตนเองโดยแต่ละผู้ประกอบการก็จะมีสูตรเฉพาะของตนเอง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้
อย่างไรก็ตามสารพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตจะใช้ Deltamethrin เป็นหลัก ส่วนการดัดแปลงสูตรซึ่งเพื่อให้ได้คุณสมบัติพิเศษของแต่ละผู้ผลิตนั้น ต้องมีการคิดค้นเพิ่มเติมทั้งนี้วัตถุดิบส่วนใหญ่จะสามารถหาได้ในประเทศ ส่วนเครื่องจักรที่ใช้ก็ไม่ซับซ้อนโดยมีเพียงเครื่องบดและเครื่องผสมสารเคมีเท่านั้น ส่วนบุคลากรที่ใช้มีเพียงแรงงานทั่วไปประมาณไม่เกิน 10 คน
ด้านการจำหน่ายสามารถจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งค้าปลีกและค้าส่ง แต่ช่องทางที่มีศักยภาพคือ การจำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้แน่นอนกว่าและช่องทางเหล่านี้สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงมากกว่า อย่างไรก็ตามช่องทางนี้จะมีค่าการตลาดค่อนข้างสูงโดยเสียค่านายหน้าในการขายสินค้าประมาณ 30-45 % ของราคาสินค้าที่จำหน่าย
ด้านการลงทุนผู้ประกอบการขนาดเงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายการลงทุนส่วนใหญ่ ในด้านสินทรัพย์ถาวรเป็นส่วนใหญ่ถึง 80 % ส่วนอีก 20% เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการส่วนใหญ่ (40 %) เป็นค่าการตลาดและการขาย รองลงมาคือค่าวัตถุดิบ (30 %) และค่าแรงประมาณ 20-25 % ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ
จากเงินลงทุนขั้นต้น 1 ล้านบาท ถ้าสามารถผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กันมดในปริมาณ 500 โหล/ เดือน ราคาจำหน่าย 156 บาท/โหล ซึ่งมีกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยประมาณ 40% ของยอดขาย จะมีระยะเวลาคืนทุน 3 ปี โดยได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 25.3% ในอัตราผลตอบแทนเท่ากันทุกปีตลอดอายุโครงการ 5 ปี
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจการผลิตอุปกรณ์กันมดสามารถหาแหล่งสนันสนุนด้านวิชาการและสูตรการผลิตได้จากสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งพบสารจากผลส้มที่สามารถนำมาดัดแปลงใช้เป็นสารกันมดและแมลงได้
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
อุปกรณ์กันมดเป็นอุปกรณ์ที่มีกลิ่นที่มีผลต่อระบบประสาทของมดและแมลง ซึ่งเมื่อวางไว้บริเวณใดๆแล้วทำให้มดและแมลงไม่มาใกล้บริเวณที่มีสารเหล่านี้อยู่ ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้ยาฉีดประเภทสเปรย์ ซึ่งมีการฉีดและฟุ้งกระจายซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้ การใช้อุปกรณ์กันมดจึงสามารถรับรองด้านความปลอดภัยจากสารพิษต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมได้ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทนี้
ตลาดของอุปกรณ์กันมดสามารถเป็นตลาดทดแทนของสารเคมีกำจัดมดทั่วไปได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการใช้คือกันการรบกวนจากมดและแมลง ในขณะเดียวกันกระแสความต้องการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการปลอดสารพิษ จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้อุปกรณ์กันมดมีแนวโน้มการใช้งานที่มากขึ้น โดยควบคุมทั้งการใช้ในบ้านพักอาศัย สำนักงานหรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนดังนั้นอุปกรณ์กันมดจะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี และยังมีแนวโน้มในการส่งออกไปขายในตลาดที่มีการพัฒนาด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและอยู่ในประเทศแถบร้อน เช่น สิงคโปร์ และมาเลเซียได้
ปัจจุบันมีผู้ผลิตอุปกรณ์กันมดเพียง 3 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1 ล้านบาท ทั้งนี้การผลิตอุปกรณ์กันมดผู้ผลิตต้องสามารถดัดแปลงสูตรของสารที่จะใช้ในอุปกรณ์กันมดด้วยตนเองโดยแต่ละผู้ประกอบการก็จะมีสูตรเฉพาะของตนเอง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้
อย่างไรก็ตามสารพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตจะใช้ Deltamethrin เป็นหลัก ส่วนการดัดแปลงสูตรซึ่งเพื่อให้ได้คุณสมบัติพิเศษของแต่ละผู้ผลิตนั้น ต้องมีการคิดค้นเพิ่มเติมทั้งนี้วัตถุดิบส่วนใหญ่จะสามารถหาได้ในประเทศ ส่วนเครื่องจักรที่ใช้ก็ไม่ซับซ้อนโดยมีเพียงเครื่องบดและเครื่องผสมสารเคมีเท่านั้น ส่วนบุคลากรที่ใช้มีเพียงแรงงานทั่วไปประมาณไม่เกิน 10 คน
ด้านการจำหน่ายสามารถจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งค้าปลีกและค้าส่ง แต่ช่องทางที่มีศักยภาพคือ การจำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้แน่นอนกว่าและช่องทางเหล่านี้สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงมากกว่า อย่างไรก็ตามช่องทางนี้จะมีค่าการตลาดค่อนข้างสูงโดยเสียค่านายหน้าในการขายสินค้าประมาณ 30-45 % ของราคาสินค้าที่จำหน่าย
ด้านการลงทุนผู้ประกอบการขนาดเงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายการลงทุนส่วนใหญ่ ในด้านสินทรัพย์ถาวรเป็นส่วนใหญ่ถึง 80 % ส่วนอีก 20% เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการส่วนใหญ่ (40 %) เป็นค่าการตลาดและการขาย รองลงมาคือค่าวัตถุดิบ (30 %) และค่าแรงประมาณ 20-25 % ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ
จากเงินลงทุนขั้นต้น 1 ล้านบาท ถ้าสามารถผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กันมดในปริมาณ 500 โหล/ เดือน ราคาจำหน่าย 156 บาท/โหล ซึ่งมีกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยประมาณ 40% ของยอดขาย จะมีระยะเวลาคืนทุน 3 ปี โดยได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 25.3% ในอัตราผลตอบแทนเท่ากันทุกปีตลอดอายุโครงการ 5 ปี
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจการผลิตอุปกรณ์กันมดสามารถหาแหล่งสนันสนุนด้านวิชาการและสูตรการผลิตได้จากสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งพบสารจากผลส้มที่สามารถนำมาดัดแปลงใช้เป็นสารกันมดและแมลงได้
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--