กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
13. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบพัฒนาการที่ดีของการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum —ARF) จากการที่ได้มีการจัดกิจกรรมหลายประการทั้งในระดับภาครัฐบาลและระดับนักวิชาการ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีความยินดีที่ที่ประชุม ARF ได้รับรองเอกสาร 3 ฉบับ คือ เอกสารเรื่องแนวคิดและหลักการการทูตเชิงป้องกัน เอกสารเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิของ ARF และเอกสารเรื่องการเพิ่มบทบาทของประธาน ARF การรับรองเอกสารทั้ง 3 ฉบับนี้จะเป็นความสำเร็จที่สำคัญของกระบวนการ ARF รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้รับทราบด้วยความยินดีที่การดำเนินการในเรื่องที่คาบเกี่ยวระหว่างมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการทูตเชิงป้องกันมีความคืบหน้า ในปีที่ผ่านมา ได้มีการหารือและพูดคุยกันหลายครั้งเพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศต่างๆ และเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ในการนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แสดงความชื่นชมที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นในฐานะประธานของ ARF โดยประสานงานทั้งอย่างเป็น ทางการและไม่เป็นทางการกับประเทศ ARF และกับองค์การระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหประชาชาติองค์การรัฐอเมริกัน และกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด รัฐมนตรีต่างประเทศแสดงความชื่นชมต่อกิจกรรมที่จัดโดยกลุ่ม ผู้สนับสนุนมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Intersessional Support Group on Confidence Building Measures: ISG on CBMs) และการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ ARF เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาประเด็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีผลกระทบต่อ ภูมิภาคประเด็นการเมืองระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
14. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับพัฒนาการด้านการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศในหลายประเด็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาค และเห็นว่าสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาคโดยทั่วไปยังคง มีเสถียรภาพ และมีพัฒนาการที่ดีหลายประการ รวมถึง การที่ประเทศต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เห็นพ้องกันว่า เสถียรภาพ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน มีความสำคัญต่อภูมิภาครัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำด้วยว่าประเทศมหาอำนาจยังคงมีบทบาทที่สำคัญ และเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ช่วยส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงความร่วมมือ และการพัฒนาในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
15. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีความยินดีต่อพัฒนาการที่ดีในภูมิภาคเอเชีย- แปซิฟิก รวมถึงการ ก่อตั้ง Boao Asia Forum รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบด้วยความ พอใจว่ามีการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออก-ละตินอเมริกา (Ministerial Meeting of the Forum for East Asia — Latin America Cooperation (FEALAC) เป็นครั้งแรกที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี เมื่อเดือนมีนาคม 2544 การประชุมดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางในอนาคตของความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับละตินอเมริกา
16. รัฐมนตรีต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในติมอร์ตะวันออก และยินดีที่มีความคืบหน้าในการฟื้นฟูเสถียรภาพในติมอร์ตะวันออกรวมทั้งรับทราบถึง บทบาทขององค์กรบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออก (UN Transitional Administration in East Timor — UNTAET) ในช่วงการถ่ายโอนอำนาจ และย้ำถึงความจำเป็นที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องได้รับการสนับสนุนให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในความพยายามสร้างชาติของติมอร์ตะวันออกรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยินดีที่มีกระบวนการจดทะเบียนผู้ลี้ภัยชาวติมอร์ตะวันออก ซึ่งลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่มีอุปสรรครัฐมนตรีต่างประเทศสนับสนุนความพยายามอย่าง ต่อเนื่องของรัฐบาลอินโดนีเซียในอันที่จะร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลี้ภัยได้เดินทางกลับถิ่นฐานและตั้งรกรากอีกครั้งหนึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้แสดงความยินดีต่อ UNSECOORD ที่ได้ดำเนินภารกิจจนเสร็จสิ้นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การดำเนินดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการสนับสนุนบทบาทของ สหประชาชาติในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยชาวติมอร์ตะวันออก
17. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบพัฒนาการที่ดีในสหภาพพม่า และชื่นชมความพยายามของรัฐบาลพม่าที่นำไปสู่พัฒนาการดังกล่าว รวมทั้งย้ำว่าจะให้การสนับสนุนกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่าที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
18. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้แสดงความยินดีต่อการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองของอินโดนีเซียและการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของนางเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้แสดงความหวังว่าการถ่ายโอนอำนาจที่เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสันติจะทำให้อินโดนีเซียมีเสถียรภาพและมีเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็วขึ้น รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้ให้การสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนและเอกภาพแห่งรัฐของอินโดนีเซียต่อไป และเชื่อว่าเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของอินโดนีเซียจะนำไปสู่สันติภาพเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ ภูมิภาค
19. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยืนยันนโยบาย "จีนเดียว" และแสดงความหวังว่าจะได้เห็นพัฒนาการที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบ (Cross-Straits relations)
20. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทบทวนพัฒนาการที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ และยินดีที่การหารือระหว่างอาเซียนและจีนเกี่ยวกับการยอมรับเอกสารเรื่องแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้มีความ คืบหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความยับยั้งชั่งใจในการดำเนินการใดๆ สืบต่อไป ส่งเสริมมาตรการสร้างความมั่นใจระหว่างกันในทะเลจีนใต้ และยินดีที่ทุกฝ่าย ยึดมั่นในพันธกรณีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้โดยสันติวิธีที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UN Convention on the Law of the Sea- UNCLOS) และการประกันให้สามารถเดินเรือในบริเวณดังกล่าวได้โดยเสรี
21. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนระลึกถึงการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำเกาหลีเมื่อเดือนมิถุนายน 2543 อันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และการดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมเหนือ-ใต้/ใต้-เหนือ และแสดงความยินดีที่มีความพยายามที่จะสร้างพัฒนาการที่ดีให้เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลีอย่างต่อเนื่องรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายจะช่วยกันให้กระบวนการนี้ดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี Democratic People ’s Republic of Korea —DPRK) และสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea — ROK) เพื่อให้เกิดการรวมชาติอย่างสันติและ เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในคาบสมุทรเกาหลี
22. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง และแสดงความกังวลต่อความตึงเครียดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และความรุนแรงที่ยังคงมีอยู่ในฉนวนกาซ่าและเขตเวสต์แบงค์ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์เลวร้ายลง และเรียกร้องมิให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันไปใช้ความรุนแรง และมุ่งหาวิธีให้ปัญหาตะวันออกกลางได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จและยั่งยืน
23. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำการให้ความสนับสนุนต่อกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และเน้นความสำคัญของการส่งเสริมขีดความสามารถของกลุ่มฯ เพื่อให้เป็นเวทีสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาและเป็นตัวแทนของความหวังและผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนแสดงความหวังว่า ความคิดริเริ่มของกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเมื่อเร็วๆ นี้ ที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันจะประสบความสำเร็จในการดำเนินการ
24. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนชื่นชมผลสำเร็จของการประชุมสุดยอดแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติที่จัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 6 - 8 กันยายน 2542 รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห็นว่าการประชุมดังกล่าวประสบความสำเร็จเนื่องจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้ยืนยันพันธกรณีที่มีต่อกระบวนการของสหประชาชาติ และต่อการดำเนินการตามปฏิญญาสหัสวรรษ (Millenium Declaration) ที่ได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสุดยอดฯ ซึ่งในที่ประชุมดังกล่าว ผู้นำของประเทศสมาชิกได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้สิทธิที่จะได้รับการพัฒนาเป็นจริงได้สำหรับทุกคน รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห็นพ้องกันที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการปฏิบัติตามปฏิญญาสหัสวรรษ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 (ยังมีต่อ)
-อน-
13. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบพัฒนาการที่ดีของการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum —ARF) จากการที่ได้มีการจัดกิจกรรมหลายประการทั้งในระดับภาครัฐบาลและระดับนักวิชาการ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีความยินดีที่ที่ประชุม ARF ได้รับรองเอกสาร 3 ฉบับ คือ เอกสารเรื่องแนวคิดและหลักการการทูตเชิงป้องกัน เอกสารเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิของ ARF และเอกสารเรื่องการเพิ่มบทบาทของประธาน ARF การรับรองเอกสารทั้ง 3 ฉบับนี้จะเป็นความสำเร็จที่สำคัญของกระบวนการ ARF รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้รับทราบด้วยความยินดีที่การดำเนินการในเรื่องที่คาบเกี่ยวระหว่างมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการทูตเชิงป้องกันมีความคืบหน้า ในปีที่ผ่านมา ได้มีการหารือและพูดคุยกันหลายครั้งเพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศต่างๆ และเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ในการนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แสดงความชื่นชมที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นในฐานะประธานของ ARF โดยประสานงานทั้งอย่างเป็น ทางการและไม่เป็นทางการกับประเทศ ARF และกับองค์การระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหประชาชาติองค์การรัฐอเมริกัน และกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด รัฐมนตรีต่างประเทศแสดงความชื่นชมต่อกิจกรรมที่จัดโดยกลุ่ม ผู้สนับสนุนมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Intersessional Support Group on Confidence Building Measures: ISG on CBMs) และการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ ARF เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาประเด็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีผลกระทบต่อ ภูมิภาคประเด็นการเมืองระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
14. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับพัฒนาการด้านการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศในหลายประเด็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาค และเห็นว่าสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาคโดยทั่วไปยังคง มีเสถียรภาพ และมีพัฒนาการที่ดีหลายประการ รวมถึง การที่ประเทศต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เห็นพ้องกันว่า เสถียรภาพ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน มีความสำคัญต่อภูมิภาครัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำด้วยว่าประเทศมหาอำนาจยังคงมีบทบาทที่สำคัญ และเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ช่วยส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงความร่วมมือ และการพัฒนาในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
15. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีความยินดีต่อพัฒนาการที่ดีในภูมิภาคเอเชีย- แปซิฟิก รวมถึงการ ก่อตั้ง Boao Asia Forum รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบด้วยความ พอใจว่ามีการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออก-ละตินอเมริกา (Ministerial Meeting of the Forum for East Asia — Latin America Cooperation (FEALAC) เป็นครั้งแรกที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี เมื่อเดือนมีนาคม 2544 การประชุมดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางในอนาคตของความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับละตินอเมริกา
16. รัฐมนตรีต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในติมอร์ตะวันออก และยินดีที่มีความคืบหน้าในการฟื้นฟูเสถียรภาพในติมอร์ตะวันออกรวมทั้งรับทราบถึง บทบาทขององค์กรบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออก (UN Transitional Administration in East Timor — UNTAET) ในช่วงการถ่ายโอนอำนาจ และย้ำถึงความจำเป็นที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องได้รับการสนับสนุนให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในความพยายามสร้างชาติของติมอร์ตะวันออกรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยินดีที่มีกระบวนการจดทะเบียนผู้ลี้ภัยชาวติมอร์ตะวันออก ซึ่งลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่มีอุปสรรครัฐมนตรีต่างประเทศสนับสนุนความพยายามอย่าง ต่อเนื่องของรัฐบาลอินโดนีเซียในอันที่จะร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลี้ภัยได้เดินทางกลับถิ่นฐานและตั้งรกรากอีกครั้งหนึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้แสดงความยินดีต่อ UNSECOORD ที่ได้ดำเนินภารกิจจนเสร็จสิ้นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การดำเนินดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการสนับสนุนบทบาทของ สหประชาชาติในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยชาวติมอร์ตะวันออก
17. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบพัฒนาการที่ดีในสหภาพพม่า และชื่นชมความพยายามของรัฐบาลพม่าที่นำไปสู่พัฒนาการดังกล่าว รวมทั้งย้ำว่าจะให้การสนับสนุนกระบวนการปรองดองแห่งชาติในพม่าที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
18. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้แสดงความยินดีต่อการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองของอินโดนีเซียและการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของนางเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้แสดงความหวังว่าการถ่ายโอนอำนาจที่เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสันติจะทำให้อินโดนีเซียมีเสถียรภาพและมีเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็วขึ้น รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้ให้การสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนและเอกภาพแห่งรัฐของอินโดนีเซียต่อไป และเชื่อว่าเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของอินโดนีเซียจะนำไปสู่สันติภาพเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ ภูมิภาค
19. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยืนยันนโยบาย "จีนเดียว" และแสดงความหวังว่าจะได้เห็นพัฒนาการที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบ (Cross-Straits relations)
20. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทบทวนพัฒนาการที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ และยินดีที่การหารือระหว่างอาเซียนและจีนเกี่ยวกับการยอมรับเอกสารเรื่องแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้มีความ คืบหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความยับยั้งชั่งใจในการดำเนินการใดๆ สืบต่อไป ส่งเสริมมาตรการสร้างความมั่นใจระหว่างกันในทะเลจีนใต้ และยินดีที่ทุกฝ่าย ยึดมั่นในพันธกรณีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้โดยสันติวิธีที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UN Convention on the Law of the Sea- UNCLOS) และการประกันให้สามารถเดินเรือในบริเวณดังกล่าวได้โดยเสรี
21. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนระลึกถึงการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำเกาหลีเมื่อเดือนมิถุนายน 2543 อันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และการดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมเหนือ-ใต้/ใต้-เหนือ และแสดงความยินดีที่มีความพยายามที่จะสร้างพัฒนาการที่ดีให้เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลีอย่างต่อเนื่องรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายจะช่วยกันให้กระบวนการนี้ดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี Democratic People ’s Republic of Korea —DPRK) และสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea — ROK) เพื่อให้เกิดการรวมชาติอย่างสันติและ เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในคาบสมุทรเกาหลี
22. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง และแสดงความกังวลต่อความตึงเครียดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และความรุนแรงที่ยังคงมีอยู่ในฉนวนกาซ่าและเขตเวสต์แบงค์ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์เลวร้ายลง และเรียกร้องมิให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันไปใช้ความรุนแรง และมุ่งหาวิธีให้ปัญหาตะวันออกกลางได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จและยั่งยืน
23. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ย้ำการให้ความสนับสนุนต่อกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และเน้นความสำคัญของการส่งเสริมขีดความสามารถของกลุ่มฯ เพื่อให้เป็นเวทีสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาและเป็นตัวแทนของความหวังและผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนแสดงความหวังว่า ความคิดริเริ่มของกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเมื่อเร็วๆ นี้ ที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันจะประสบความสำเร็จในการดำเนินการ
24. รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนชื่นชมผลสำเร็จของการประชุมสุดยอดแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติที่จัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 6 - 8 กันยายน 2542 รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห็นว่าการประชุมดังกล่าวประสบความสำเร็จเนื่องจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้ยืนยันพันธกรณีที่มีต่อกระบวนการของสหประชาชาติ และต่อการดำเนินการตามปฏิญญาสหัสวรรษ (Millenium Declaration) ที่ได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสุดยอดฯ ซึ่งในที่ประชุมดังกล่าว ผู้นำของประเทศสมาชิกได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้สิทธิที่จะได้รับการพัฒนาเป็นจริงได้สำหรับทุกคน รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห็นพ้องกันที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการปฏิบัติตามปฏิญญาสหัสวรรษ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 (ยังมีต่อ)
-อน-