จุลสารฉบับที่ผ่าน ๆ มา เราได้นำเสนอวิธีการชำระเงินด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น DigiCash, NetBill เป็นต้น ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ผู้ทำธุรกิจ e-commerce ที่ต้องการเลือกวิธีการชำระด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ อาจจะเปรียบเทียบเงินในแต่ละระบบได้โดยพิจารณาคุณลักษณะของเงินแต่ละประเภท ดังนี้
1. Easily Exchangeable คือ สามารถที่จะเปลี่ยนรูปแบบได้โดยง่าย เช่น การแลกเปลี่ยนเป็นเงินเหรียญ และธนบัตร หรือการเปลี่ยนจากเงินอิเล็กทรอนิกส์กลับไปเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร เป็นต้น
2. Private คือสามารถที่จะปกปิดข้อมูลที่เป็นความลับในระหว่างหรือหลังการซี้อขายได้ เพราะหากข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยอาจก่อให้เกิดความเสียหายในเชิงธุรกิจได้ เช่น ใครซื้ออะไร ซื้อกับใคร ที่ไหน เวลาใด เป็นต้น
3. Low Fixed Costs คือมีค่าใช้จ่ายลงทุนเริ่มแรกในการพัฒนาติดตั้งระบบที่ไม่สูง เช่น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชีและออกเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ลูกค้า เป็นต้น
4. Low Transaction Costs คือ ค่าใช้จ่ายในการจับจ่ายใช้สอยต่อครั้งต่ำ
5. Low Financial Risk คือมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมหรือถูกฉ้อฉลจากผู้เกี่ยวข้องน้อย
6. Security Against Unauthorized Use คือ ระบบจะต้องยากต่อการลักขโมยเงินไปใช้ ซึ่งอาจมีระบบการป้องกันโดยการใช้รหัสผ่านหรือวิธีการเข้ารหัส
7. Accessible คือ สามารถใช้ได้ทั่วถึง ตัวอย่างเช่น ทุกคนใช้เงินสดได้ ขณะที่เช็คใช้ได้เฉพาะผู้มีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและเฉพาะในกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ควรใช้ได้กว้างขวางมากขึ้นซึ่งจะยังประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างคุณลักษณะที่สำคัญโดยสังเขป การจะเลือกใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ระบบใด ขึ้นอยู่กับว่าร้านค้า ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ต้องตัดสินใจว่าคุณลักษณะใดเหมาะกับการดำเนินธุรกิจและให้ผลดีที่สุด เช่น ร้านค้าที่มีเงินลงทุนน้อยก็อาจจะเลือกคุณลักษณะแบบ Low Fixed Costs เป็นต้น
--จุลสารระบบการชำระเงินธนาคารแห่งประเทศไทย ประจำเดือน กรกฎาคม 2543--
-ยก-
1. Easily Exchangeable คือ สามารถที่จะเปลี่ยนรูปแบบได้โดยง่าย เช่น การแลกเปลี่ยนเป็นเงินเหรียญ และธนบัตร หรือการเปลี่ยนจากเงินอิเล็กทรอนิกส์กลับไปเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร เป็นต้น
2. Private คือสามารถที่จะปกปิดข้อมูลที่เป็นความลับในระหว่างหรือหลังการซี้อขายได้ เพราะหากข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยอาจก่อให้เกิดความเสียหายในเชิงธุรกิจได้ เช่น ใครซื้ออะไร ซื้อกับใคร ที่ไหน เวลาใด เป็นต้น
3. Low Fixed Costs คือมีค่าใช้จ่ายลงทุนเริ่มแรกในการพัฒนาติดตั้งระบบที่ไม่สูง เช่น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชีและออกเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ลูกค้า เป็นต้น
4. Low Transaction Costs คือ ค่าใช้จ่ายในการจับจ่ายใช้สอยต่อครั้งต่ำ
5. Low Financial Risk คือมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมหรือถูกฉ้อฉลจากผู้เกี่ยวข้องน้อย
6. Security Against Unauthorized Use คือ ระบบจะต้องยากต่อการลักขโมยเงินไปใช้ ซึ่งอาจมีระบบการป้องกันโดยการใช้รหัสผ่านหรือวิธีการเข้ารหัส
7. Accessible คือ สามารถใช้ได้ทั่วถึง ตัวอย่างเช่น ทุกคนใช้เงินสดได้ ขณะที่เช็คใช้ได้เฉพาะผู้มีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและเฉพาะในกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ควรใช้ได้กว้างขวางมากขึ้นซึ่งจะยังประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างคุณลักษณะที่สำคัญโดยสังเขป การจะเลือกใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ระบบใด ขึ้นอยู่กับว่าร้านค้า ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ต้องตัดสินใจว่าคุณลักษณะใดเหมาะกับการดำเนินธุรกิจและให้ผลดีที่สุด เช่น ร้านค้าที่มีเงินลงทุนน้อยก็อาจจะเลือกคุณลักษณะแบบ Low Fixed Costs เป็นต้น
--จุลสารระบบการชำระเงินธนาคารแห่งประเทศไทย ประจำเดือน กรกฎาคม 2543--
-ยก-