พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 14 - 18 ธ.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Wednesday December 14, 2005 14:45 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 149/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 14-20 ธ.ค. 2548
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นและมีอุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา กับมีลมแรง สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังมีฝนตกชุกและมีฝน ตกหนักบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล ส่วนคลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ในช่วงวันที่19-20 ธ.ค. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมภาคใต้จะอ่อนกำลังลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับภาคใต้มีฝนลดลงและคลื่นในทะเลเริ่มมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไประมัดระวังภัยจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนคลื่นในอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ระยะนี้อากาศหนาวเกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังเพราะทัศนวิสัยต่ำเนื่องจากหมอก และควรระวังความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรที่ทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เนื่องจากหมอกและน้ำค้าง
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. มีอากาศหนาวเกือบทั่วไป อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ทำให้อุณหภูมิต่ำ 11-15 องศา กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-11 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. มีอากาศหนาวเกือบทั่วไป อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ทำให้อุณหภูมิต่ำ 11-15 องศา กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-11 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง และระวังโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และควรระมัดระวังอัคคีภัยจากวัสดุฟืนไฟ นอกจากนี้ควรป้องกันการระบาดของโรค ราน้ำค้าง ในพืชไร่และพืชผัก
กลาง
ลักษณะอากาศ
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา กับมีลมแรง ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา กับมีลมแรง ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีหมอกและอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง นอกจากนี้ควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ฟางข้าว และหญ้าแห้งคลุมบริเวณโคนต้นพืชเพื่อรักษาความชื้นดิน
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. มีอากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. มีอากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. มีอุณหภูมิสูงขึ้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้ง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและอายุ การเก็บเกี่ยวสั้น
ใต้
ลักษณะอากาศ
ฝั่งตะวันออกเหนือจังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมามีเมฆบางส่วน และตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. ฝนจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ส่วนทางฝั่ง ตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
ฝั่งตะวันออกเหนือจังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมามีเมฆบางส่วน และตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค. ฝนจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ส่วนทางฝั่ง ตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ระยะนี้มีฝนตกชุกซึ่งทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า ไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และ ทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา อนึ่ง ระยะนี้คลื่นลมในอ่าวไทยและอันดามันจะมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็ก ในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ