หมู่เกาะบาฮามาส (The Islands of the Bahamas) ตั้งอยู่ระหว่างทะเลแคริบเบียนกับมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาเหนือ ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็กกว่า 3,000 เกาะ ในจำนวนนี้เป็นเกาะที่มีผู้อาศัยอยู่เพียงประมาณ 30 เกาะ หมู่เกาะบาฮามาสได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2516 และมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า เครือรัฐบาฮามาส (Commonwealth of the Bahamas) มีพลเมืองเพียง 3 แสนคน ส่วนใหญ่มีเชื้อชาติแอฟริกัน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ มีอัตราการอ่านออกเขียนได้สูงถึงร้อยละ 98 และมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 20,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนต่อปี ซึ่งนับว่าเป็นประเทศที่มั่งคั่งประเทศหนึ่งในแถบทะเลแคริบเบียน
แหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญของบาฮามาสคือ ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากบาฮามาสเป็นหมู่เกาะที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดในแถบทะเลแคริบเบียน โดยมีจำนวนไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านคน การท่องเที่ยวจึงกลายเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ มีสัดส่วนประมาณ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศให้กับบาฮามาสถึงกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2542 นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 50% ของกำลังแรงงานทั้งหมดอีกด้วย
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแล้ว หมู่เกาะบาฮามาสยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากรัฐบาลบาฮามาสได้ให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติมากมาย อาทิ ยกเว้นภาษีประเภทต่าง ๆ ให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในเขตการค้าเสรี (The Free Trade Zone) เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีกำไร ภาษีเงินปันผล และภาษีการส่งออก-นำเข้า เป็นต้น
นักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติสามารถส่งสินทรัพย์และผลกำไรจากการลงทุนในหมู่เกาะบาฮามาส กลับประเทศของตนได้อย่างเสรี มีกฎหมายธุรกิจที่ทันสมัย อาทิ กฎหมายบริษัทธุรกิจนานาชาติ (International Business Companies Act : IBCs Act) อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจในหมู่เกาะบาฮามาส ให้สามารถดำเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว กฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต (Industries Encouragement Act) ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ภาษีเครื่องมือเครื่องจักร และค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตผลิตเพื่อทำการส่งออก และยกเว้นภาษีการส่งออกสินค้า เป็นต้น รวมทั้งกฎหมายสนับสนุนการลงทุนในกิจการโรงแรม (Hotels Encouragement Act) ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้างและพัฒนาธุรกิจโรงแรม ตลอดจนยกเว้นภาษีที่ดินและค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจโรงแรม เป็นต้น
สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกื้อหนุนต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับการมีระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทำให้หมู่เกาะบาฮามาสกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ (The International Offshore Financial Centres) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาเปิดดำเนินการมากกว่า 420 แห่งจากเกือบ 40 ประเทศ และดึงดูดบริษัทธุรกิจนานาชาติอีกกว่า 10,000 บริษัท เข้ามาประกอบกิจการในหมู่เกาะบาฮามาส
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร โทร. 271-3700, 278-0047, 617-2111 ต่อ 1142-1145
--ที่มา ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร--
-อน-
แหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญของบาฮามาสคือ ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากบาฮามาสเป็นหมู่เกาะที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดในแถบทะเลแคริบเบียน โดยมีจำนวนไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านคน การท่องเที่ยวจึงกลายเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ มีสัดส่วนประมาณ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และสร้างรายได้เงินตราต่างประเทศให้กับบาฮามาสถึงกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2542 นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 50% ของกำลังแรงงานทั้งหมดอีกด้วย
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแล้ว หมู่เกาะบาฮามาสยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากรัฐบาลบาฮามาสได้ให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติมากมาย อาทิ ยกเว้นภาษีประเภทต่าง ๆ ให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในเขตการค้าเสรี (The Free Trade Zone) เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีกำไร ภาษีเงินปันผล และภาษีการส่งออก-นำเข้า เป็นต้น
นักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติสามารถส่งสินทรัพย์และผลกำไรจากการลงทุนในหมู่เกาะบาฮามาส กลับประเทศของตนได้อย่างเสรี มีกฎหมายธุรกิจที่ทันสมัย อาทิ กฎหมายบริษัทธุรกิจนานาชาติ (International Business Companies Act : IBCs Act) อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจในหมู่เกาะบาฮามาส ให้สามารถดำเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว กฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต (Industries Encouragement Act) ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ภาษีเครื่องมือเครื่องจักร และค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตผลิตเพื่อทำการส่งออก และยกเว้นภาษีการส่งออกสินค้า เป็นต้น รวมทั้งกฎหมายสนับสนุนการลงทุนในกิจการโรงแรม (Hotels Encouragement Act) ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับการก่อสร้างและพัฒนาธุรกิจโรงแรม ตลอดจนยกเว้นภาษีที่ดินและค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจโรงแรม เป็นต้น
สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกื้อหนุนต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับการมีระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทำให้หมู่เกาะบาฮามาสกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ (The International Offshore Financial Centres) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสถาบันการเงินจากต่างประเทศเข้ามาเปิดดำเนินการมากกว่า 420 แห่งจากเกือบ 40 ประเทศ และดึงดูดบริษัทธุรกิจนานาชาติอีกกว่า 10,000 บริษัท เข้ามาประกอบกิจการในหมู่เกาะบาฮามาส
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร โทร. 271-3700, 278-0047, 617-2111 ต่อ 1142-1145
--ที่มา ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร--
-อน-