กรุงเทพ--7 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไทยที่โรงแรม Inter-continental ที่กรุงพนมเปญภายหลังเสร็จสิ้นการหารือกับบุคคลต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
1. ภาพรวมความสัมพันธ์
การเยือนกัมพูชาในครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศภายหลังเข้ารับตำแหน่งในฐานะที่เป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิด และมีพรมแดนติดกันทั้งทางบกและทางทะเล เป็นการสานต่อและต่อยอดความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกสาขาทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีซึ่งดำเนินมาด้วยดีตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยระหว่างการเยือนรัฐมนตรี
ว่าการ ฯ ได้เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์นโรดม สีหโมนีแห่งกัมพูชา และเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี และเข้าพบและหารือข้อราชการกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
2. การหารือกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
- เป็นการหารือที่เป็นประโยชน์ และสะท้อนถึงความใกล้ชิดของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยการหารือได้ครอบคลุมหลายประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์ของแต่ละประเทศและความร่วมมือ ในหลายด้าน ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี โดยไทยได้ย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญยิ่งกับ
ความสัมพันธ์กับกัมพูชาและเพื่อนบ้าน เน้นความสัมพันธ์ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกันพัฒนา
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ได้คืบหน้า โดยเฉพาะการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเมื่อ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. 2546 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะขยายความร่วมมือในทุกด้าน
2.1 ประเด็นทวิภาคี
- ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเร่งรัดความร่วมมือในการพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ถนนหมายเลข 48 (เกาะกง — สแรอัมเบิล) และการก่อสร้างสะพาน 4 แห่ง บนถนนหมายเลข 48 และพัฒนาถนนหมายเลข 67 (สะงำ — อันลองเวง — เสียมราฐ) นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะพิจารณาเรื่องความช่วยเหลือสำหรับเส้นทางหมายเลข 68 (ช่องจอม- โอเสม็ด-สำโรง- กรอลัน-เสียมราฐ)
- ในโอกาสที่ปีนี้ เป็นปีครบรอบ 55 ปี ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ได้มีการหารือเรื่อง การใช้โอกาสนี้ในการพิจารณาโครงการเฉลิมฉลองและส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยมีการพิจารณาว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่จะสามารถเสริมความร่วมมือระหว่างกันได้ โดยจะมีโครงการด้านวัฒนธรรม และความร่วมมือในระดับประชาชนเพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันอย่างมากขึ้น ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้รับที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่
- ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการกำหนดมาตรการระยะยาวสำหรับแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายจากกัมพูชา และไทยได้ตกลงที่จะให้ความร่วมมือให้การให้ความคุ้มครองแก่ชาวกัมพูชาที่ต้องโทษในประเทศไทยเป็นไปได้ด้วยดีในกรอบที่สามารถกระทำได้ ขณะเดียวกันฝ่ายไทยขอให้ ฝ่ายกัมพูชาช่วยดูแลคุ้มครองคนไทยที่ต้องโทษในกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเร่งรัดการจัดทำ สนธิสัญญาบังคับใช้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำความตกลง โอนตัวนักโทษระหว่างกันต่อไป
- ฝ่ายกัมพูชาได้ขอบคุณฝ่ายไทยที่ได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้กรอบ อาเซียนแก่สินค้าจากกัมพูชา จำนวน 310 รายการซึ่งฝ่ายไทยยินดีที่ฝ่ายกัมพูชาได้รับประโยชน์ และเป็นทางหนึ่งในการช่วยเหลือการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา
- สนับสนุนให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชาครั้งที่ 5 ในโอกาสแรกโดยฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ
- ไทยยินดีที่จะช่วยผลักดันให้เขาพระวิหารได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และจะดำเนินการพัฒนา เขาพระวิหารควบคู่กับการพัฒนาช่องตาเฒ่า และฝ่ายไทยจะให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาในการ บูรณะปฏิสังขรปราสาทเขาพระวิหารต่อไป
- ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดการพัฒนาร่วมเขตไหล่ทวีปทับซ้อน
- ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหายาเสพติด
- ฝ่ายกัมพูชาขอให้ฝ่ายไทยให้ความช่วยเหลือเรื่องการบรรเทาภัยแล้ง โดยกล่าวถึง การแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยฝนหลวง ซึ่งไทยยินดีที่จะช่วย โดยจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.2 ประเด็นพหุภาคี
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้กรอบสามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะให้มีการประชุมเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย ลาว กัมพูชา โดยจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในปลายปีนี้เพื่อกระตุ้นให้มีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และจะมีการจัดการประชุมในระดับผู้นำในโอกาสต่อไป
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้ ACMECS ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS โดยเฉพาะการสนับสนุนการประชุมระดับผู้นำ (Summit) ครั้งแรก โดยประสงค์จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีก่อนที่กัมพูชาในช่วงเดือน มิ.ย. 48 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้สนับสนุนการจัดทำ Single Visa ของกลุ่มประเทศภายใต้กรอบ ACMECS ซึ่งลักษณะเดียวกับ Shengen Visa ในยุโรป โดยเห็นพ้องกันว่า หากประเทศใดพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้กรอบ ACD ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญและมีความก้าวหน้า มีหลายประเทศที่แสดงความสนใจที่จะเป็นสมาชิกใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องร่วมกันพิจารณาหาฉันทามติร่วมกัน
-ในส่วนของผู้สมัครเข้าดำรงตำแหน่ง UNSG ของไทย ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุน ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีผู้สมัครของไทยเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สหประชาชาติ นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้รับว่าจะให้การสนับสนุนให้เป็นคราวของเอเชีย
3. การพบสมเด็จฮุน เซน
- ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยสมเด็จฮุน เซนได้แสดงความชื่นชม รัฐบาลไทยที่มี บทบาทอย่างสูงในการช่วยเหลือกัมพูชาในเวทีโลก
- สมเด็จฮุน เซนได้แสดงความประสงค์ที่อยากจะให้มีการลงทุนจากประเทศไทยตามบริเวณชายแดนและความร่วมมือในการเชื่อมโยงและพัฒนาเส้นทางคมนาคมซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกต่อการค้าการลงทุน
- เน้นการกระชับและยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายใต้สามเหลี่ยมมรกต โดยเฉพาะการจัดประชุมสุดยอดของความร่วมมือภายใต้กรอบนี้
- สนับสนุนให้มีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้นำและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสอง
4. การเข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์สีหโมนี
- การได้เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์นโรดม สีหโมนีในครั้งนี้รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง โดยระหว่างการ เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์สีหโมนีได้ทรงให้ความเป็นกันเอง และรับสั่งถึงความสัมพันธ์ทีใกล้ชิดระหว่างไทยกับกัมพูชาซึ่งมาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ความใกล้เคียงทางวัฒนธรรม ศาสนาระหว่างกัน
- ดร.กันตธีร์ ฯ ได้แสดงความขอบคุณที่กษัตริย์นโรดม สีหโมนี และกษัตริย์นโรดม สีหนุได้ทรงบริจาคทรัพย์สินส่วนพระองค์ช่วยเหลือกรณีสึนามิ
- กษัตริย์สีหโมนีแสดงความขอบพระทัยที่ไทยได้ให้การสนับสนุนกัมพูชาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรมนุษย์ซึ่งพระองค์ท่านเห็นความสำคัญในพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจน และการส่งเสริมการศึกษาซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืน
- กษัตริย์สีหโมนีรับสั่งแสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยได้ในการช่วยเหลือกัมพูชาในการพัฒนาทรัพยามนุษย์ การศึกษา และการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไทยที่โรงแรม Inter-continental ที่กรุงพนมเปญภายหลังเสร็จสิ้นการหารือกับบุคคลต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
1. ภาพรวมความสัมพันธ์
การเยือนกัมพูชาในครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศภายหลังเข้ารับตำแหน่งในฐานะที่เป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิด และมีพรมแดนติดกันทั้งทางบกและทางทะเล เป็นการสานต่อและต่อยอดความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกสาขาทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีซึ่งดำเนินมาด้วยดีตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยระหว่างการเยือนรัฐมนตรี
ว่าการ ฯ ได้เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์นโรดม สีหโมนีแห่งกัมพูชา และเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี และเข้าพบและหารือข้อราชการกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
2. การหารือกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
- เป็นการหารือที่เป็นประโยชน์ และสะท้อนถึงความใกล้ชิดของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยการหารือได้ครอบคลุมหลายประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์ของแต่ละประเทศและความร่วมมือ ในหลายด้าน ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี โดยไทยได้ย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญยิ่งกับ
ความสัมพันธ์กับกัมพูชาและเพื่อนบ้าน เน้นความสัมพันธ์ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกันพัฒนา
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ได้คืบหน้า โดยเฉพาะการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเมื่อ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. 2546 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะขยายความร่วมมือในทุกด้าน
2.1 ประเด็นทวิภาคี
- ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเร่งรัดความร่วมมือในการพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ถนนหมายเลข 48 (เกาะกง — สแรอัมเบิล) และการก่อสร้างสะพาน 4 แห่ง บนถนนหมายเลข 48 และพัฒนาถนนหมายเลข 67 (สะงำ — อันลองเวง — เสียมราฐ) นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะพิจารณาเรื่องความช่วยเหลือสำหรับเส้นทางหมายเลข 68 (ช่องจอม- โอเสม็ด-สำโรง- กรอลัน-เสียมราฐ)
- ในโอกาสที่ปีนี้ เป็นปีครบรอบ 55 ปี ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ได้มีการหารือเรื่อง การใช้โอกาสนี้ในการพิจารณาโครงการเฉลิมฉลองและส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยมีการพิจารณาว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่จะสามารถเสริมความร่วมมือระหว่างกันได้ โดยจะมีโครงการด้านวัฒนธรรม และความร่วมมือในระดับประชาชนเพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันอย่างมากขึ้น ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้รับที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่
- ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการกำหนดมาตรการระยะยาวสำหรับแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายจากกัมพูชา และไทยได้ตกลงที่จะให้ความร่วมมือให้การให้ความคุ้มครองแก่ชาวกัมพูชาที่ต้องโทษในประเทศไทยเป็นไปได้ด้วยดีในกรอบที่สามารถกระทำได้ ขณะเดียวกันฝ่ายไทยขอให้ ฝ่ายกัมพูชาช่วยดูแลคุ้มครองคนไทยที่ต้องโทษในกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเร่งรัดการจัดทำ สนธิสัญญาบังคับใช้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำความตกลง โอนตัวนักโทษระหว่างกันต่อไป
- ฝ่ายกัมพูชาได้ขอบคุณฝ่ายไทยที่ได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้กรอบ อาเซียนแก่สินค้าจากกัมพูชา จำนวน 310 รายการซึ่งฝ่ายไทยยินดีที่ฝ่ายกัมพูชาได้รับประโยชน์ และเป็นทางหนึ่งในการช่วยเหลือการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา
- สนับสนุนให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชาครั้งที่ 5 ในโอกาสแรกโดยฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ
- ไทยยินดีที่จะช่วยผลักดันให้เขาพระวิหารได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และจะดำเนินการพัฒนา เขาพระวิหารควบคู่กับการพัฒนาช่องตาเฒ่า และฝ่ายไทยจะให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาในการ บูรณะปฏิสังขรปราสาทเขาพระวิหารต่อไป
- ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดการพัฒนาร่วมเขตไหล่ทวีปทับซ้อน
- ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหายาเสพติด
- ฝ่ายกัมพูชาขอให้ฝ่ายไทยให้ความช่วยเหลือเรื่องการบรรเทาภัยแล้ง โดยกล่าวถึง การแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยฝนหลวง ซึ่งไทยยินดีที่จะช่วย โดยจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.2 ประเด็นพหุภาคี
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้กรอบสามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะให้มีการประชุมเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย ลาว กัมพูชา โดยจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในปลายปีนี้เพื่อกระตุ้นให้มีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และจะมีการจัดการประชุมในระดับผู้นำในโอกาสต่อไป
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้ ACMECS ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS โดยเฉพาะการสนับสนุนการประชุมระดับผู้นำ (Summit) ครั้งแรก โดยประสงค์จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีก่อนที่กัมพูชาในช่วงเดือน มิ.ย. 48 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้สนับสนุนการจัดทำ Single Visa ของกลุ่มประเทศภายใต้กรอบ ACMECS ซึ่งลักษณะเดียวกับ Shengen Visa ในยุโรป โดยเห็นพ้องกันว่า หากประเทศใดพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที
- ในส่วนของความร่วมมือภายใต้กรอบ ACD ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญและมีความก้าวหน้า มีหลายประเทศที่แสดงความสนใจที่จะเป็นสมาชิกใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องร่วมกันพิจารณาหาฉันทามติร่วมกัน
-ในส่วนของผู้สมัครเข้าดำรงตำแหน่ง UNSG ของไทย ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุน ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีผู้สมัครของไทยเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สหประชาชาติ นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้รับว่าจะให้การสนับสนุนให้เป็นคราวของเอเชีย
3. การพบสมเด็จฮุน เซน
- ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยสมเด็จฮุน เซนได้แสดงความชื่นชม รัฐบาลไทยที่มี บทบาทอย่างสูงในการช่วยเหลือกัมพูชาในเวทีโลก
- สมเด็จฮุน เซนได้แสดงความประสงค์ที่อยากจะให้มีการลงทุนจากประเทศไทยตามบริเวณชายแดนและความร่วมมือในการเชื่อมโยงและพัฒนาเส้นทางคมนาคมซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกต่อการค้าการลงทุน
- เน้นการกระชับและยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายใต้สามเหลี่ยมมรกต โดยเฉพาะการจัดประชุมสุดยอดของความร่วมมือภายใต้กรอบนี้
- สนับสนุนให้มีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้นำและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสอง
4. การเข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์สีหโมนี
- การได้เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์นโรดม สีหโมนีในครั้งนี้รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง โดยระหว่างการ เข้าเฝ้า ฯ กษัตริย์สีหโมนีได้ทรงให้ความเป็นกันเอง และรับสั่งถึงความสัมพันธ์ทีใกล้ชิดระหว่างไทยกับกัมพูชาซึ่งมาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ความใกล้เคียงทางวัฒนธรรม ศาสนาระหว่างกัน
- ดร.กันตธีร์ ฯ ได้แสดงความขอบคุณที่กษัตริย์นโรดม สีหโมนี และกษัตริย์นโรดม สีหนุได้ทรงบริจาคทรัพย์สินส่วนพระองค์ช่วยเหลือกรณีสึนามิ
- กษัตริย์สีหโมนีแสดงความขอบพระทัยที่ไทยได้ให้การสนับสนุนกัมพูชาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรมนุษย์ซึ่งพระองค์ท่านเห็นความสำคัญในพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจน และการส่งเสริมการศึกษาซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืน
- กษัตริย์สีหโมนีรับสั่งแสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยได้ในการช่วยเหลือกัมพูชาในการพัฒนาทรัพยามนุษย์ การศึกษา และการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-