สินเชื่อจำแนกตามประเภทธุรกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ สิ้นตุลาคม 2543
(ข้อมูลเบื้องต้น)
จากข้อมูลเบื้องต้น ณ สิ้นตุลาคม 2543 สินเชื่อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคงค้าง 221,983.6 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4.3 และร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน
สินเชื่อประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีเพียงสินเชื่ออุตสาหกรรม สำหรับสินเชื่อประเภทที่เหลือลดลงทุกประเภท ทั้งนี้การปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ในช่วงนี้ยังคงเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่ออยู่ต่อไปเพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีกในอนาคต
สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ยังมีสัดส่วนสูงสุด (สัดส่วนร้อยละ 39.6) ยอดคงค้าง 87,805.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งมียอดคงค้าง 93,920.4 ล้านบาท รองลงมาเป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (สัดส่วนร้อยละ 18.5) ยอดคงค้าง 41,131.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดคงค้าง 43,904.2 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรม (สัดส่วนร้อยละ 13.9) ยอดคงค้าง 30,857.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดคงค้าง 30,560.3 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการรับเหมาก่อสร้าง (สัดส่วนร้อยละ 9.5) ยอดคงค้าง 21,136.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มียอดสินเชื่อ 21,674.6 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการบริการ (สัดส่วนร้อยละ 8.1) มียอดคงค้าง 17,942.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีสินเชื่อ 19,468.4 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการเกษตร 9,244.9 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 4.2 ลดลงร้อยละ 16.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดสินเชื่อ 11,109.2 ล้านบาท
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
(ข้อมูลเบื้องต้น)
จากข้อมูลเบื้องต้น ณ สิ้นตุลาคม 2543 สินเชื่อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคงค้าง 221,983.6 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4.3 และร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน
สินเชื่อประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีเพียงสินเชื่ออุตสาหกรรม สำหรับสินเชื่อประเภทที่เหลือลดลงทุกประเภท ทั้งนี้การปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ในช่วงนี้ยังคงเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่ออยู่ต่อไปเพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีกในอนาคต
สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ยังมีสัดส่วนสูงสุด (สัดส่วนร้อยละ 39.6) ยอดคงค้าง 87,805.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งมียอดคงค้าง 93,920.4 ล้านบาท รองลงมาเป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (สัดส่วนร้อยละ 18.5) ยอดคงค้าง 41,131.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดคงค้าง 43,904.2 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรม (สัดส่วนร้อยละ 13.9) ยอดคงค้าง 30,857.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดคงค้าง 30,560.3 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการรับเหมาก่อสร้าง (สัดส่วนร้อยละ 9.5) ยอดคงค้าง 21,136.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มียอดสินเชื่อ 21,674.6 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการบริการ (สัดส่วนร้อยละ 8.1) มียอดคงค้าง 17,942.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีสินเชื่อ 19,468.4 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการเกษตร 9,244.9 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 4.2 ลดลงร้อยละ 16.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมียอดสินเชื่อ 11,109.2 ล้านบาท
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-