กรุงเทพ--27 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการหารือกับนายราซาลี อิสมาอิล ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติด้านพม่า สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ในประเด็นเรื่องที่พม่าจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2549 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบว่าจากการหารือกับฝ่ายพม่าในโอกาสต่างๆ พม่าได้ส่งสัญญาณว่าพม่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบต่อผลประโยชน์โดยรวมของอาเซียน ซึ่งไทยเห็นว่าแม้ว่าพม่าจะยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณในทางบวก และอาเซียนยังคงมีเวลาที่จะหารือกันต่อไปในเรื่องนี้
2. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องสถานการณ์ในพม่า โดยนายราซาลีได้สรุปสถานการณ์ล่าสุด รวมทั้งปัญหาของตนในการติดต่อกับฝ่ายพม่าให้ทราบ เนื่องจากเห็นว่าไทยได้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมกระบวนการปรองดองแห่งชาติและการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในพม่ามาโดยตลอด แต่นายราซาลีมิได้ขอร้องให้ฝ่ายไทยช่วยเหลือในเรื่องใดเป็นพิเศษ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบว่าไทยก็ได้เคยส่งสัญญาณไปยังพม่าว่าไทยประสงค์จะให้กระบวนการปรองดองแห่งชาติและการเป็นประชาธิปไตยของพม่าเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพราะจะเป็นผลดีต่อประชาชนพม่าเอง และไทยเห็นว่าการปรองดองแห่งชาติของพม่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการรับตำแหน่งประธานอาเซียนของพม่าตามวาระ
3. เกี่ยวกับบทบาทขั้นต่อไปของสหประชาชาติในเรื่องพม่า นายราซาลีแจ้งว่าในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือนเมษายน 2548 เลขาธิการสหประชาชาติได้เคยแสดงความสนใจที่จะเดินทางไปพม่าด้วยตนเอง และทางฝ่ายพม่าเองก็ได้แสดงท่าทีตอบสนองในทางบวกด้วย อย่างไรก็ดีจะต้องมีการหารือและการเตรียมการในรายละเอียดด้านต่างๆ ต่อไป
4. การที่รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียนโดยเฉพาะสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่าประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆได้แสดงความผิดหวัง เพราะอาเซียนย่อมต้องการให้มิตรประเทศมาร่วมการประชุมนี้ในระดับรัฐมนตรีด้วยเหตุที่เป็นกิจกรรมประจำปีที่สำคัญของอาเซียน อย่างไรก็ตาม ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมมากนัก และเชื่อว่าการประชุมคงจะดำเนินไปได้ด้วยดีตามระเบียบวาระที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ไทยได้แสดงท่าทีดังกล่าวให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทราบแล้ว เมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อต้นเดือนกรกฏาคม ศกนี้ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าการที่ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ เนื่องจากติดกำหนดการอื่น มิได้ตั้งใจสะท้อนนัยทางการเมืองใดๆ แต่จะพิจารณาเข้าร่วมการประชุมในปีหน้า ส่วนการที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถมาร่วมประชุมได้นั้น ก็เป็นที่เข้าใจได้ เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นติดภารกิจสำคัญที่สหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก เกี่ยวกับความพยายามที่ญี่ปุ่นจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
5. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเดินทางเยือนพม่าของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า การเยือนดังกล่าวมิได้มีความเชื่อมโยงกับประเด็นที่จะหารือกันในการประชุม AMM แต่อย่างใด เนื่องจากฝ่ายพม่าได้เชิญและได้กำหนดเวลาการเยือนของรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านต่างๆ ระหว่างกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการหารือกับนายราซาลี อิสมาอิล ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติด้านพม่า สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ในประเด็นเรื่องที่พม่าจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2549 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบว่าจากการหารือกับฝ่ายพม่าในโอกาสต่างๆ พม่าได้ส่งสัญญาณว่าพม่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบต่อผลประโยชน์โดยรวมของอาเซียน ซึ่งไทยเห็นว่าแม้ว่าพม่าจะยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณในทางบวก และอาเซียนยังคงมีเวลาที่จะหารือกันต่อไปในเรื่องนี้
2. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องสถานการณ์ในพม่า โดยนายราซาลีได้สรุปสถานการณ์ล่าสุด รวมทั้งปัญหาของตนในการติดต่อกับฝ่ายพม่าให้ทราบ เนื่องจากเห็นว่าไทยได้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมกระบวนการปรองดองแห่งชาติและการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในพม่ามาโดยตลอด แต่นายราซาลีมิได้ขอร้องให้ฝ่ายไทยช่วยเหลือในเรื่องใดเป็นพิเศษ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบว่าไทยก็ได้เคยส่งสัญญาณไปยังพม่าว่าไทยประสงค์จะให้กระบวนการปรองดองแห่งชาติและการเป็นประชาธิปไตยของพม่าเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพราะจะเป็นผลดีต่อประชาชนพม่าเอง และไทยเห็นว่าการปรองดองแห่งชาติของพม่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการรับตำแหน่งประธานอาเซียนของพม่าตามวาระ
3. เกี่ยวกับบทบาทขั้นต่อไปของสหประชาชาติในเรื่องพม่า นายราซาลีแจ้งว่าในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือนเมษายน 2548 เลขาธิการสหประชาชาติได้เคยแสดงความสนใจที่จะเดินทางไปพม่าด้วยตนเอง และทางฝ่ายพม่าเองก็ได้แสดงท่าทีตอบสนองในทางบวกด้วย อย่างไรก็ดีจะต้องมีการหารือและการเตรียมการในรายละเอียดด้านต่างๆ ต่อไป
4. การที่รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียนโดยเฉพาะสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ดร. กันตธีร์ฯ กล่าวว่าประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆได้แสดงความผิดหวัง เพราะอาเซียนย่อมต้องการให้มิตรประเทศมาร่วมการประชุมนี้ในระดับรัฐมนตรีด้วยเหตุที่เป็นกิจกรรมประจำปีที่สำคัญของอาเซียน อย่างไรก็ตาม ดร.กันตธีร์ฯ เห็นว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมมากนัก และเชื่อว่าการประชุมคงจะดำเนินไปได้ด้วยดีตามระเบียบวาระที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ไทยได้แสดงท่าทีดังกล่าวให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทราบแล้ว เมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อต้นเดือนกรกฏาคม ศกนี้ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าการที่ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ เนื่องจากติดกำหนดการอื่น มิได้ตั้งใจสะท้อนนัยทางการเมืองใดๆ แต่จะพิจารณาเข้าร่วมการประชุมในปีหน้า ส่วนการที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถมาร่วมประชุมได้นั้น ก็เป็นที่เข้าใจได้ เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นติดภารกิจสำคัญที่สหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก เกี่ยวกับความพยายามที่ญี่ปุ่นจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
5. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเดินทางเยือนพม่าของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า การเยือนดังกล่าวมิได้มีความเชื่อมโยงกับประเด็นที่จะหารือกันในการประชุม AMM แต่อย่างใด เนื่องจากฝ่ายพม่าได้เชิญและได้กำหนดเวลาการเยือนของรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านต่างๆ ระหว่างกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-