ข่าวในประเทศ
1. ธปท.แถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน ก.ย.43 ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท.เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นทางเศรษฐกิจในเดือน ก.ย.43 ว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับฤดูกาลอยู่ที่ระดับ 115.3 ขยายตัวร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมบางภาคธุรกิจขยายตัวสูงขึ้นมากผิดปกติ เช่น ยาสูบ ขยายตัวร้อยละ 43.9 หากไม่รวมการผลิตสุรา ดัชนีผลผลิตฯขยายตัวร้อยละ 1.7 เครื่องชี้ภาวะความต้องการบริโภคและการลงทุนมีอัตราการขยายตัวชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ 15 เพราะราคาน้ำมันแพง และภาวะน้ำท่วม ยอดค้าปลีกล่าสุดในเดือน ก.ค.43 ขยายตัวร้อยละ 11.9 เทียบกับต้นปีที่ขยายตัวร้อยละ 20 การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงสูง แต่การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยยังไม่แสดงการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยขยายตัวร้อยละ 18 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของการนำเข้าทั้งหมด ด้านการส่งออกในเดือน ก.ย. มีมูลค่า 5,941 ล.ดอลลาร์ หรือขยายตัวร้อยละ 20 ยอดเกินดุลการค้ามีจำนวน 602 ล.ดอลลาร์ ส่วนภาวะการไหลออกของเงินทุนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดุลการชำระเงินในเดือน ก.ย.เกินดุลเพียง 16 ล.ดอลลาร์ และทุนสำรองทางการมีจำนวน 32.2 พัน ล.ดอลลาร์ (กรุงเทพธุรกิจ 1)
2. ก.คลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ รมว.คลังเปิดเผยว่า ครม.ได้อนุมัติการออกมาตรการเสริมความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจและสังคมตามที่ ก.คลังเสนอ เพื่อรักษาอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่องและขยายตัวได้ตามเป้าหมายในอัตราร้อยละ 4.5-5 ซึ่งมาตรการทางการคลังประกอบด้วย (1) ขยายระยะเวลาการลดอัตราเงินสมทบเงินกองทุนประกันสังคมออกไปอีก 2 ปี (2) ช่วยเหลือเกษตรกรโดยเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. 2,000 ล.บาท (3) ปรับลดอัตราอากรสำหรับวัตถุดิบหรือปัจจัยการผลิตสำหรับสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ 73 รายการ (4) มาตรการการออมผ่านกองทุนรวมเพื่อเกษียณอายุ โดยเสนอจัดตั้งกองทุนให้กับผู้ประกอบการอิสระที่ไม่สามารถออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มาตรการทางการเงินประกอบด้วย (1) แผนการให้สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อค้ำประกันในปี 44 จำนวน 52,100 ล.บาท (2) ขยายบทบาทศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงินแก่เอสเอ็มอีและประชาชน โดยจัดสรรเงินงบประมาณ 200 ล.บาท เพื่อขยายระยะเวลาทำงานออกไปอีก 2 ปี (เดลินิวส์ 1)
3. นักบริหารเงินจาก ธพ.เสนอวิธีควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาท นักบริหารเงินอาวุโสจาก ธพ.แห่งหนึ่งกล่าวว่า หลังจาก ธปท.ออกมาตรการควบคุมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีผลให้การเก็งกำไรลดลง ดังนั้น ควรเปลี่ยนระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทยให้เหลือเพียงตลาดเดียว คือ ตลาดในประเทศ (ออนชอร์) ซึ่งจะทำให้ ธปท.สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้นเพราะตลาดแคบลง สำหรับแบบรายงานการซื้อขายฯ ใหม่ของ ธปท.นั้น เชื่อว่าไม่ได้ช่วยลดการเก็งกำไรมากนัก แม้จะมีความเข้มงวดมากขึ้น และที่ผ่านมา ธพ.จะรายงานวัตถุประสงค์การทำธุรกรรมทุกครั้ง และไม่ซื้อขายเงินตราต่างประเทศหากไม่มีธุรกรรมรองรับ (ไทยโพสต์ 1)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภค สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 135.2 ในเดือน ต.ค.43 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 31 ต.ค.43 Conference Board รายงานว่า เดือน ต.ค.43 ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภค ลดลงอยู่ที่ระดับ 135.2 จากที่ระดับ 142.5 ในเดือน ก.ย.43 ลดลงต่ำกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 140.2 และเป็นการลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับแต่เดือน ต.ค. 42 โดยในเดือน ต.ค.43 ส่วนประกอบของดัชนีฯ ทั้ง 2 ตัวต่างลดลงคือ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ลดลงอยู่ที่ระดับ 177.0 จากระดับ 182.5 ในเดือน ก.ย.43 ส่วนดัชนีความคาดหวังต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตระยะสั้น ลดลงอยู่ที่ระดับ 107.4 จากระดับ 115.9 ในเดือน ก.ย.43 ทั้งนี้ การที่ดัชนีฯ ลดลงมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ประกอบกับตลาดการเงินมีความอ่อนไหวจากการที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนในเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสัปดาห์หน้า (รอยเตอร์ 31)
2. ธ. กลางญี่ปุ่นประมาณการว่า ปี งปม. 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ จะเติบโตอยู่ในช่วงร้อยละ 1.9-2.3 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 ธ. กลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปี งปม. 43/44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ(GDP) จะเติบโตอยู่ในช่วงเฉลี่ยร้อยละ 1.9-2.3 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดหมายของนักวิเคราะห์ภาคเอกชนที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ แต่สูงกว่าที่สำนักงานวางแผนเศรษฐกิจ ที่ประมาณการไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 นอกจากนั้น ธ. กลางยังรายงานด้วยว่า ใน ปี 43 และ 44 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นำโดย การใช้จ่ายลงทุนในภาคที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารและสารสนเทศของบริษัทต่างๆที่เพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนหน้า (รอยเตอร์ 31)
3. คำสั่งเพื่อการก่อสร้างของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 9.8 ในเดือน ก.ย.43 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 ก. การก่อสร้างของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ก.ย. 43 คำสั่งเพื่อการก่อสร้างของบริษัทที่สำคัญ 50 บริษัทของญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 9.8 เทียบต่อปี อยู่ที่มูลค่า 1,941.17 พัน ล. เยน ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยแยกเป็นคำสั่งฯภายในประเทศของภาคเอกชน ลดลงร้อยละ 5.4 อยู่ที่มูลค่า 1,290.25 พัน ล. เยน และคำสั่งฯ ภายในประเทศของภาครัฐบาล ลดลงร้อยละ 25.5 อยู่ที่มูลค่า 502.25 พัน ล. เยน ขณะเดียวกัน ก. การก่อสร้าง รายงานด้วยว่า เดือน ก.ย. 43 การสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ในญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.1 จากเดือนเดียวกันของปี 42 อยู่ที่จำนวน 105,613 หลัง นับว่าเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 (รอยเตอร์ 31)
4. ประมาณการว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีจะเติบโตเกือบร้อยละ 3 ในปี 43 และ 44 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 Franz Schoser ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของเยอรมนี ประมาณการว่า ปี 43 และ 44 เศรษฐกิจจะเติบโตใกล้เคียงที่ระดับร้อยละ 3 (รอยเตอร์ 31)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 31 ต.ค. 43 43.972 (43.768)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 31 ต.ค. 43ซื้อ 43.7953 (43.5738) ขาย 44.1090 (43.8887)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.16 (29.19)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.49 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.แถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน ก.ย.43 ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท.เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นทางเศรษฐกิจในเดือน ก.ย.43 ว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ปรับฤดูกาลอยู่ที่ระดับ 115.3 ขยายตัวร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมบางภาคธุรกิจขยายตัวสูงขึ้นมากผิดปกติ เช่น ยาสูบ ขยายตัวร้อยละ 43.9 หากไม่รวมการผลิตสุรา ดัชนีผลผลิตฯขยายตัวร้อยละ 1.7 เครื่องชี้ภาวะความต้องการบริโภคและการลงทุนมีอัตราการขยายตัวชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ 15 เพราะราคาน้ำมันแพง และภาวะน้ำท่วม ยอดค้าปลีกล่าสุดในเดือน ก.ค.43 ขยายตัวร้อยละ 11.9 เทียบกับต้นปีที่ขยายตัวร้อยละ 20 การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงสูง แต่การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยยังไม่แสดงการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยขยายตัวร้อยละ 18 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของการนำเข้าทั้งหมด ด้านการส่งออกในเดือน ก.ย. มีมูลค่า 5,941 ล.ดอลลาร์ หรือขยายตัวร้อยละ 20 ยอดเกินดุลการค้ามีจำนวน 602 ล.ดอลลาร์ ส่วนภาวะการไหลออกของเงินทุนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดุลการชำระเงินในเดือน ก.ย.เกินดุลเพียง 16 ล.ดอลลาร์ และทุนสำรองทางการมีจำนวน 32.2 พัน ล.ดอลลาร์ (กรุงเทพธุรกิจ 1)
2. ก.คลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ รมว.คลังเปิดเผยว่า ครม.ได้อนุมัติการออกมาตรการเสริมความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจและสังคมตามที่ ก.คลังเสนอ เพื่อรักษาอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่องและขยายตัวได้ตามเป้าหมายในอัตราร้อยละ 4.5-5 ซึ่งมาตรการทางการคลังประกอบด้วย (1) ขยายระยะเวลาการลดอัตราเงินสมทบเงินกองทุนประกันสังคมออกไปอีก 2 ปี (2) ช่วยเหลือเกษตรกรโดยเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. 2,000 ล.บาท (3) ปรับลดอัตราอากรสำหรับวัตถุดิบหรือปัจจัยการผลิตสำหรับสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ 73 รายการ (4) มาตรการการออมผ่านกองทุนรวมเพื่อเกษียณอายุ โดยเสนอจัดตั้งกองทุนให้กับผู้ประกอบการอิสระที่ไม่สามารถออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มาตรการทางการเงินประกอบด้วย (1) แผนการให้สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อค้ำประกันในปี 44 จำนวน 52,100 ล.บาท (2) ขยายบทบาทศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงินแก่เอสเอ็มอีและประชาชน โดยจัดสรรเงินงบประมาณ 200 ล.บาท เพื่อขยายระยะเวลาทำงานออกไปอีก 2 ปี (เดลินิวส์ 1)
3. นักบริหารเงินจาก ธพ.เสนอวิธีควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาท นักบริหารเงินอาวุโสจาก ธพ.แห่งหนึ่งกล่าวว่า หลังจาก ธปท.ออกมาตรการควบคุมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีผลให้การเก็งกำไรลดลง ดังนั้น ควรเปลี่ยนระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทยให้เหลือเพียงตลาดเดียว คือ ตลาดในประเทศ (ออนชอร์) ซึ่งจะทำให้ ธปท.สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้นเพราะตลาดแคบลง สำหรับแบบรายงานการซื้อขายฯ ใหม่ของ ธปท.นั้น เชื่อว่าไม่ได้ช่วยลดการเก็งกำไรมากนัก แม้จะมีความเข้มงวดมากขึ้น และที่ผ่านมา ธพ.จะรายงานวัตถุประสงค์การทำธุรกรรมทุกครั้ง และไม่ซื้อขายเงินตราต่างประเทศหากไม่มีธุรกรรมรองรับ (ไทยโพสต์ 1)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภค สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 135.2 ในเดือน ต.ค.43 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 31 ต.ค.43 Conference Board รายงานว่า เดือน ต.ค.43 ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภค ลดลงอยู่ที่ระดับ 135.2 จากที่ระดับ 142.5 ในเดือน ก.ย.43 ลดลงต่ำกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 140.2 และเป็นการลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับแต่เดือน ต.ค. 42 โดยในเดือน ต.ค.43 ส่วนประกอบของดัชนีฯ ทั้ง 2 ตัวต่างลดลงคือ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ลดลงอยู่ที่ระดับ 177.0 จากระดับ 182.5 ในเดือน ก.ย.43 ส่วนดัชนีความคาดหวังต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตระยะสั้น ลดลงอยู่ที่ระดับ 107.4 จากระดับ 115.9 ในเดือน ก.ย.43 ทั้งนี้ การที่ดัชนีฯ ลดลงมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ประกอบกับตลาดการเงินมีความอ่อนไหวจากการที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนในเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสัปดาห์หน้า (รอยเตอร์ 31)
2. ธ. กลางญี่ปุ่นประมาณการว่า ปี งปม. 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ จะเติบโตอยู่ในช่วงร้อยละ 1.9-2.3 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 ธ. กลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปี งปม. 43/44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ(GDP) จะเติบโตอยู่ในช่วงเฉลี่ยร้อยละ 1.9-2.3 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดหมายของนักวิเคราะห์ภาคเอกชนที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ แต่สูงกว่าที่สำนักงานวางแผนเศรษฐกิจ ที่ประมาณการไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 นอกจากนั้น ธ. กลางยังรายงานด้วยว่า ใน ปี 43 และ 44 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นำโดย การใช้จ่ายลงทุนในภาคที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารและสารสนเทศของบริษัทต่างๆที่เพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนหน้า (รอยเตอร์ 31)
3. คำสั่งเพื่อการก่อสร้างของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 9.8 ในเดือน ก.ย.43 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 ก. การก่อสร้างของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ก.ย. 43 คำสั่งเพื่อการก่อสร้างของบริษัทที่สำคัญ 50 บริษัทของญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 9.8 เทียบต่อปี อยู่ที่มูลค่า 1,941.17 พัน ล. เยน ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยแยกเป็นคำสั่งฯภายในประเทศของภาคเอกชน ลดลงร้อยละ 5.4 อยู่ที่มูลค่า 1,290.25 พัน ล. เยน และคำสั่งฯ ภายในประเทศของภาครัฐบาล ลดลงร้อยละ 25.5 อยู่ที่มูลค่า 502.25 พัน ล. เยน ขณะเดียวกัน ก. การก่อสร้าง รายงานด้วยว่า เดือน ก.ย. 43 การสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ในญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.1 จากเดือนเดียวกันของปี 42 อยู่ที่จำนวน 105,613 หลัง นับว่าเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 (รอยเตอร์ 31)
4. ประมาณการว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีจะเติบโตเกือบร้อยละ 3 ในปี 43 และ 44 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 43 Franz Schoser ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของเยอรมนี ประมาณการว่า ปี 43 และ 44 เศรษฐกิจจะเติบโตใกล้เคียงที่ระดับร้อยละ 3 (รอยเตอร์ 31)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 31 ต.ค. 43 43.972 (43.768)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 31 ต.ค. 43ซื้อ 43.7953 (43.5738) ขาย 44.1090 (43.8887)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.16 (29.19)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.49 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-