มูลนิธิกองทุนมันสำปะหลัง ได้จัดให้มีการประชุมโต๊ะกลมเรื่อง "ปลูกมันสำปะหลังให้อยู่รอดใน 5 ปีข้างหน้า" เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2543 ณ โรงแรมปรินซ์พาเลช กรุงเทพฯ โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งผลการสัมมนาสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
ปัญหา
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการผลิตโดยเฉพาะในเรื่องพันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ดีได้พัฒนาในระดับหนึ่งแล้ว โดยได้มีการกระจายพันธุ์ดี ได้แก่ พันธุ์ระยอง 5 ระยอง 90 และ เกษตรศาสตร์ 50 ถึงร้อยละ 60-65 ของพื้นที่ปลูก แต่ยังมีปัญหาหลายประการซึ่งส่งผลให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ค่อนข้างต่ำประมาณ 2.6 ตัน เนื่องจากสาเหตุต่อไปนี้
1.การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวยังมีน้อยและไม่ทั่วถึง นอกจากนั้นเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในบางส่วนยังขาดการยอมรับ
2. ขาดเงินทุนในการจัดหาปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย สารเคมีและแรงงานในการกำจัดวัชพืช ฯลฯ
3.เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังก่อนอายุที่เหมาะสม(9-12เดือน) เพราะ1) หากราคาหัวมันสำปะหลังในปีใดอยู่ในเกณฑ์สูง เกษตรกรก็จะเร่งขุดหัวมัน2) กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปีแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง
ที่ประชุมมีความเห็นว่า นอกจากจะพิจารณาปัจจัยทางด้านการผลิตแล้ว ควรพิจารณาทางด้านการตลาดและแปรรูปด้วยเนื่องจากเป็นส่วนที่เอื้อให้ราคาเกษตรกรขายได้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรมีเงินทุนในการดูแลรักษาต้นมัน เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น โดยที่ประชุมได้กำหนดแนวทางดังนี้
การผลิต1. จัดทำ profile ด้านการผลิตให้ชัดเจน เช่น พื้นที่เพาะปลูก ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ จำนวนเกษตรกร เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ถูกต้องและเหมาะสม2. การวิจัยเทคโนโลยีในด้านการผลิตจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม3. เร่งกระจายพันธุ์ดีรวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยจะต้องกระทำแบบเน้นหนักและมีการติดตามประเมินผล4. จัดระบบการผลิตมันสำปะหลังร่วมกับพืชอื่น ๆ ( Cropping System ) เพื่อกระจายความเสี่ยงของเกษตรกร5. ขยายระยะการชำระหนี้ของ ธ.ก.ส. โดยเกษตรกรรายใดไม่สามารถชำระหนี้สามารถขอเลื่อนระยะการชำระหนี้ โดย ธ.ก.ส. จะต้องไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มการแปรรูป1. ปรับปรุงคุณภาพหัวมันสำปะหลังรวมทั้งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ให้สอดคล้องกับความต้องการ2. สนับสนุนการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบมากขึ้นการตลาด
1.เร่งขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งในและต่างประเทศ
2.รักษาเสถียรภาพราคาหัวมันสำปะหลัง โดย1) จัดตั้งกองทุนมันสำปะหลังโดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในกองทุนด้วย2) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรและผู้ประกอบการ (Contract Farmming)ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 0.61 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 0.70 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 12.56
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 1.69 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.54 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.74ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคาขายส่งมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1.83 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 1.86 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.61
ราคาขายส่งมันอัดเม็ด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.08 บาทราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชนิดดี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.17 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ โอ บี ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ ดังนี้
ราคามันอัดเม็ด เฉลี่ยตันละ 57.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,227.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 7.00 บาท
ราคาแป้งมันสำปะหลัง เฉลี่ยตันละ 160.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 6,256.00 บาท ราคาลดลงจากตันละ 165.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 6,427.00 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.03
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 26 ประจำวันที่ 3-9 ก.ค. 2543--
-สส-
ปัญหา
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการผลิตโดยเฉพาะในเรื่องพันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ดีได้พัฒนาในระดับหนึ่งแล้ว โดยได้มีการกระจายพันธุ์ดี ได้แก่ พันธุ์ระยอง 5 ระยอง 90 และ เกษตรศาสตร์ 50 ถึงร้อยละ 60-65 ของพื้นที่ปลูก แต่ยังมีปัญหาหลายประการซึ่งส่งผลให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ค่อนข้างต่ำประมาณ 2.6 ตัน เนื่องจากสาเหตุต่อไปนี้
1.การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวยังมีน้อยและไม่ทั่วถึง นอกจากนั้นเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในบางส่วนยังขาดการยอมรับ
2. ขาดเงินทุนในการจัดหาปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย สารเคมีและแรงงานในการกำจัดวัชพืช ฯลฯ
3.เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังก่อนอายุที่เหมาะสม(9-12เดือน) เพราะ1) หากราคาหัวมันสำปะหลังในปีใดอยู่ในเกณฑ์สูง เกษตรกรก็จะเร่งขุดหัวมัน2) กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปีแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง
ที่ประชุมมีความเห็นว่า นอกจากจะพิจารณาปัจจัยทางด้านการผลิตแล้ว ควรพิจารณาทางด้านการตลาดและแปรรูปด้วยเนื่องจากเป็นส่วนที่เอื้อให้ราคาเกษตรกรขายได้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรมีเงินทุนในการดูแลรักษาต้นมัน เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น โดยที่ประชุมได้กำหนดแนวทางดังนี้
การผลิต1. จัดทำ profile ด้านการผลิตให้ชัดเจน เช่น พื้นที่เพาะปลูก ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ จำนวนเกษตรกร เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ถูกต้องและเหมาะสม2. การวิจัยเทคโนโลยีในด้านการผลิตจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม3. เร่งกระจายพันธุ์ดีรวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยจะต้องกระทำแบบเน้นหนักและมีการติดตามประเมินผล4. จัดระบบการผลิตมันสำปะหลังร่วมกับพืชอื่น ๆ ( Cropping System ) เพื่อกระจายความเสี่ยงของเกษตรกร5. ขยายระยะการชำระหนี้ของ ธ.ก.ส. โดยเกษตรกรรายใดไม่สามารถชำระหนี้สามารถขอเลื่อนระยะการชำระหนี้ โดย ธ.ก.ส. จะต้องไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มการแปรรูป1. ปรับปรุงคุณภาพหัวมันสำปะหลังรวมทั้งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ให้สอดคล้องกับความต้องการ2. สนับสนุนการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบมากขึ้นการตลาด
1.เร่งขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งในและต่างประเทศ
2.รักษาเสถียรภาพราคาหัวมันสำปะหลัง โดย1) จัดตั้งกองทุนมันสำปะหลังโดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในกองทุนด้วย2) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรและผู้ประกอบการ (Contract Farmming)ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 0.61 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 0.70 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 12.56
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 1.69 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.54 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.74ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคาขายส่งมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1.83 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 1.86 บาท ของสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.61
ราคาขายส่งมันอัดเม็ด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.08 บาทราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชนิดดี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.17 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ โอ บี ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ ดังนี้
ราคามันอัดเม็ด เฉลี่ยตันละ 57.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,227.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 7.00 บาท
ราคาแป้งมันสำปะหลัง เฉลี่ยตันละ 160.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 6,256.00 บาท ราคาลดลงจากตันละ 165.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 6,427.00 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.03
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 26 ประจำวันที่ 3-9 ก.ค. 2543--
-สส-