กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (29 พฤษภาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีที่ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาเลเซียเกี่ยวกับการที่แม่บ้านชาวมาเลเซียคนหนึ่งติดเชื้อเอดส์จากการรับบริจาคโลหิตจากโรงพยาบาลในรัฐเคดาห์ โดยนายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียกล่าวแสดงความเสียใจที่ชาว มาเลเซียเดินทางไปเที่ยวอ. หาดใหญ่ จ. สงขลา เพื่อหาความสนุกเท่านั้น มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์และซึ่งได้ตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแล้วพบว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมิได้เป็นการห้ามคนมาเลเซียมาเที่ยวที่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลาของไทย แต่เป็นการตักเตือนและป้องปรามกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยซึ่งมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV เช่นการเที่ยวประเวณี ซึ่งทางการมาเลเซียเกรงว่าจะมีผลกระทบด้านสุขภาพต่อนักท่องเที่ยวและครอบครัวของนักท่องเที่ยว
อนึ่ง การที่ดร.มหาธีร์ฯได้ให้สัมภาษณ์เตือนในลักษณะดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะมี การแพร่ขยายของเชื้อ HIV ในสังคมมาเลเซีย และในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีแม่บ้านชาวมาเลเซียอายุ 47 ปี ได้รับการถ่ายเลือด และเชื่อว่าในเลือดที่ได้รับมานั้นมีเชื้อ HIV ผสมอยู่ กรณีดังกล่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ใน มาเลเซีย เพราะมีการยกประเด็นขึ้นโจมตีรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ (เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล)บกพร่อง ที่ปล่อยให้มีการถ่ายโอนเลือดที่ติดเชื้อ
2. สื่อมวลชนมาเลเซียไม่ได้เผยแพร่ข่าวเรื่องนี้อย่างจริงจัง จะมีแต่หนังสือพิมพ์ภาษาจีน ซึ่งได้ลงข่าวเตือนชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่นิยมการท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าว
3. นายดอนฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าประเทศไทยได้มีความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาเอดส์มานานแล้ว และได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่ามีผลงานและชื่อเสียงที่ดีในการรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ซึ่งเป็นการรณรงค์แก้ไขปัญหาที่ดีและชัดเจนกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้หญิงบริการของไทยก็รู้จักป้องกันตนเองจากปัญหาโรคเอดส์ดังกล่าวมานานแล้ว
4. ต่อข้อซักถามว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่ นายดอนฯ กล่าวว่า ปรัชญาการท่องเที่ยวของไทย มิได้อยู่บนพื้นฐานของการส่งเสริมการค้าประเวณี แต่การท่องเที่ยวของไทยโดยเฉพาะที่หาดใหญ่มีจุดที่นักท่องเที่ยวจะสนใจหลายประการ เช่น สินค้า อาหารและธุรกิจภาคบริการอื่น ๆ ซึ่งเป็น รูปแบบการท่องเที่ยวปกติ ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจึงไม่น่ากระทบต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ข่าวการแสดงความไม่พอใจต่อการให้สัมภาษณ์ของดร.มหาธีร์ฯ ที่ ปรากฎในสื่อมวลชนไทยก็เป็นการสะท้อนความเห็นของคนไทยที่ไม่พึงพอใจต่อการกล่าวพาดพิงถึง อ. หาดใหญ่ และข่าวดังกล่าวคงจะได้รับถ่ายทอดกลับไปสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (29 พฤษภาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีที่ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาเลเซียเกี่ยวกับการที่แม่บ้านชาวมาเลเซียคนหนึ่งติดเชื้อเอดส์จากการรับบริจาคโลหิตจากโรงพยาบาลในรัฐเคดาห์ โดยนายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียกล่าวแสดงความเสียใจที่ชาว มาเลเซียเดินทางไปเที่ยวอ. หาดใหญ่ จ. สงขลา เพื่อหาความสนุกเท่านั้น มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์และซึ่งได้ตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแล้วพบว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมิได้เป็นการห้ามคนมาเลเซียมาเที่ยวที่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลาของไทย แต่เป็นการตักเตือนและป้องปรามกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยซึ่งมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV เช่นการเที่ยวประเวณี ซึ่งทางการมาเลเซียเกรงว่าจะมีผลกระทบด้านสุขภาพต่อนักท่องเที่ยวและครอบครัวของนักท่องเที่ยว
อนึ่ง การที่ดร.มหาธีร์ฯได้ให้สัมภาษณ์เตือนในลักษณะดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะมี การแพร่ขยายของเชื้อ HIV ในสังคมมาเลเซีย และในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีแม่บ้านชาวมาเลเซียอายุ 47 ปี ได้รับการถ่ายเลือด และเชื่อว่าในเลือดที่ได้รับมานั้นมีเชื้อ HIV ผสมอยู่ กรณีดังกล่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ใน มาเลเซีย เพราะมีการยกประเด็นขึ้นโจมตีรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ (เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล)บกพร่อง ที่ปล่อยให้มีการถ่ายโอนเลือดที่ติดเชื้อ
2. สื่อมวลชนมาเลเซียไม่ได้เผยแพร่ข่าวเรื่องนี้อย่างจริงจัง จะมีแต่หนังสือพิมพ์ภาษาจีน ซึ่งได้ลงข่าวเตือนชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่นิยมการท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าว
3. นายดอนฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าประเทศไทยได้มีความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาเอดส์มานานแล้ว และได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่ามีผลงานและชื่อเสียงที่ดีในการรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ซึ่งเป็นการรณรงค์แก้ไขปัญหาที่ดีและชัดเจนกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้หญิงบริการของไทยก็รู้จักป้องกันตนเองจากปัญหาโรคเอดส์ดังกล่าวมานานแล้ว
4. ต่อข้อซักถามว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่ นายดอนฯ กล่าวว่า ปรัชญาการท่องเที่ยวของไทย มิได้อยู่บนพื้นฐานของการส่งเสริมการค้าประเวณี แต่การท่องเที่ยวของไทยโดยเฉพาะที่หาดใหญ่มีจุดที่นักท่องเที่ยวจะสนใจหลายประการ เช่น สินค้า อาหารและธุรกิจภาคบริการอื่น ๆ ซึ่งเป็น รูปแบบการท่องเที่ยวปกติ ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจึงไม่น่ากระทบต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ข่าวการแสดงความไม่พอใจต่อการให้สัมภาษณ์ของดร.มหาธีร์ฯ ที่ ปรากฎในสื่อมวลชนไทยก็เป็นการสะท้อนความเห็นของคนไทยที่ไม่พึงพอใจต่อการกล่าวพาดพิงถึง อ. หาดใหญ่ และข่าวดังกล่าวคงจะได้รับถ่ายทอดกลับไปสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-