คาดว่า ปี 2545 ราคามันสำปะหลังจะสดใส
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง ปี 2545 (ตุลาคม 2544 - กันยายน 2545) คาดว่า ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดีคือ ประมาณกิโลกรัมละ 0.90-1 บาท เนื่องจากมีปัจจัยที่สนับสนุนหลายประการ คือ
1. ผลผลิตพืชลดลง
คาดว่า ผลผลิตธัญพืชของสหภาพยุโรปและผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับผลผลิตมันสำปะหลังของไทย ก็มีแนวโน้มลดลงจาก 18.26 ล้านตันในปี 2544 เหลือเพียง 17.80 ล้านตันในปี 2545 หรือลดลงร้อยละ 2.58 เนื่องจากในปีที่ผ่านมาราคาไม่จูงใจ เกษตรกรจึงหันไปปลูกพืชอื่นทดแทน
2. สต๊อกมันสำปะหลัง
สต๊อกมันสำปะหลังของไทยคงเหลือในปี 2544 มีปริมาณน้อยมาก อันจะส่งผลให้อุปทานในเดือนตุลาคม 2544 ซึ่งเป็นต้นปีการค้า 2545 มีปริมาณน้อยกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
3. ราคาซื้อขายล่วงหน้ามันอัดเม็ดในตลาดรอตเตอร์ดัม
ราคาซื้อขายล่วงหน้ามันอัดเม็ดในตลาดรอตเตอร์ดัมส่งมอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2544 เฉลี่ยประมาณ 190 ดอยซ์มาร์ค เมื่อเทียบกับ 165 ดอยซ์มาร์คในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้น
4. ความต้องการ
คาดว่า ความต้องการใช้มันสำปะหลังภายในประเทศทั้งเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์และแป้งมันในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น และความต้องการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเส้นเพื่อส่งไปตลาดจีนยังคงมีปริมาณมากแม้ว่าในปีหน้านี้ผลผลิตข้าวโพดของจีนจะมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมาแต่คง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น น่าจะเป็นปีที่สดใสของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง
ข้อเสนอแนะ
เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องตลอดทั้งปีและมีความยั่งยืนตลอดไปนั้น จึงใคร่ขอแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังดังนี้
1. ชะลอการเก็บเกี่ยวหัวมันสำปะหลังสด หากเกษตรกรยังคงเร่งขุดหัวมันสำปะหลังในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ถึงร้อยละ 65 เช่นที่ผ่านมารวมทั้งขุดหัวมันอ่อน อาจส่งผลกระทบต่อราคาหัวมันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ ดังนั้นเกษตรกรควรทยอยขุดหัวมันออกมาขายเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของโรงงานแปรรูป
2. รักษาระดับพื้นที่ปลูกแต่ให้เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เกษตรกรไม่ควรจะขยายพื้นที่ปลูกในฤดูต่อไป แต่ควรที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยการใช้พันธุ์ดี การปรับปรุงบำรุงดิน ฯลฯ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้ของเกษตรกรสูงขึ้น
ในส่วนของรัฐบาลก็จะเร่งส่งเสริมโครงการส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศให้มากขึ้น รวมถึงขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดที่มีศักยภาพและตลาดใหม่ ๆ ให้มากขึ้นเช่นกัน
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 0.90 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 0.99 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.09
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 1.88 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1.93 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.59
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคาขายส่งมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.38 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
าคาขายส่งมันอัดเม็ด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.33 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลัง ชนิดดี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.75 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.43 ในกับสัปดาห์ก่อนร้อยละ 8.07
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคามันอัดเม็ด เฉลี่ยตันละ 60.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,661.00 บาท ราคาลดลงจากตันละ 62.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,761.00 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.20
ราคาแป้งมันสำปะหลังเฉลี่ยตันละ 187.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 8,246.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 37.00 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 34 ประจำวันที่ 3-9 ก.ย. 2544--
-สส-
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง ปี 2545 (ตุลาคม 2544 - กันยายน 2545) คาดว่า ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดีคือ ประมาณกิโลกรัมละ 0.90-1 บาท เนื่องจากมีปัจจัยที่สนับสนุนหลายประการ คือ
1. ผลผลิตพืชลดลง
คาดว่า ผลผลิตธัญพืชของสหภาพยุโรปและผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับผลผลิตมันสำปะหลังของไทย ก็มีแนวโน้มลดลงจาก 18.26 ล้านตันในปี 2544 เหลือเพียง 17.80 ล้านตันในปี 2545 หรือลดลงร้อยละ 2.58 เนื่องจากในปีที่ผ่านมาราคาไม่จูงใจ เกษตรกรจึงหันไปปลูกพืชอื่นทดแทน
2. สต๊อกมันสำปะหลัง
สต๊อกมันสำปะหลังของไทยคงเหลือในปี 2544 มีปริมาณน้อยมาก อันจะส่งผลให้อุปทานในเดือนตุลาคม 2544 ซึ่งเป็นต้นปีการค้า 2545 มีปริมาณน้อยกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
3. ราคาซื้อขายล่วงหน้ามันอัดเม็ดในตลาดรอตเตอร์ดัม
ราคาซื้อขายล่วงหน้ามันอัดเม็ดในตลาดรอตเตอร์ดัมส่งมอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2544 เฉลี่ยประมาณ 190 ดอยซ์มาร์ค เมื่อเทียบกับ 165 ดอยซ์มาร์คในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้น
4. ความต้องการ
คาดว่า ความต้องการใช้มันสำปะหลังภายในประเทศทั้งเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์และแป้งมันในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น และความต้องการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเส้นเพื่อส่งไปตลาดจีนยังคงมีปริมาณมากแม้ว่าในปีหน้านี้ผลผลิตข้าวโพดของจีนจะมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมาแต่คง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น น่าจะเป็นปีที่สดใสของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง
ข้อเสนอแนะ
เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องตลอดทั้งปีและมีความยั่งยืนตลอดไปนั้น จึงใคร่ขอแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังดังนี้
1. ชะลอการเก็บเกี่ยวหัวมันสำปะหลังสด หากเกษตรกรยังคงเร่งขุดหัวมันสำปะหลังในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ถึงร้อยละ 65 เช่นที่ผ่านมารวมทั้งขุดหัวมันอ่อน อาจส่งผลกระทบต่อราคาหัวมันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ ดังนั้นเกษตรกรควรทยอยขุดหัวมันออกมาขายเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของโรงงานแปรรูป
2. รักษาระดับพื้นที่ปลูกแต่ให้เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เกษตรกรไม่ควรจะขยายพื้นที่ปลูกในฤดูต่อไป แต่ควรที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยการใช้พันธุ์ดี การปรับปรุงบำรุงดิน ฯลฯ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้ของเกษตรกรสูงขึ้น
ในส่วนของรัฐบาลก็จะเร่งส่งเสริมโครงการส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศให้มากขึ้น รวมถึงขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดที่มีศักยภาพและตลาดใหม่ ๆ ให้มากขึ้นเช่นกัน
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 0.90 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 0.99 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.09
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้ราคากิโลกรัมละ 1.88 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1.93 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.59
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคาขายส่งมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.38 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
าคาขายส่งมันอัดเม็ด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.33 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลัง ชนิดดี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.75 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.43 ในกับสัปดาห์ก่อนร้อยละ 8.07
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี ประจำสัปดาห์นี้ สรุปได้ดังนี้
ราคามันอัดเม็ด เฉลี่ยตันละ 60.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,661.00 บาท ราคาลดลงจากตันละ 62.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 2,761.00 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.20
ราคาแป้งมันสำปะหลังเฉลี่ยตันละ 187.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตันละ 8,246.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 37.00 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 34 ประจำวันที่ 3-9 ก.ย. 2544--
-สส-