สินค้า ปริมาณส่งออก(พันตัน) มูลค่าส่งออก (ล้าน US$)
2542 2543 % 2542 2543 %
ผลิตภัณฑ์ยาง n.a. n.a. n.a. 875.0 1,060.5 21.2
- ถุงมือยาง n.a. n.a. n.a. 289.4 363.7 25.7
- ยางยานพาหนะ n.a. n.a. n.a. 317.2 350.2 10.4
- ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ n.a. n.a. n.a. 23.5 44.5 89.3
ทางเภสัชกรรม
ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว
- สหรัฐอเมริกา 237.8 338.3 42.3
- อาเซียน 112.3 126.0 12.2
มาเลเซีย 18.7 28.9 54.8
สิงคโปร์ 24.0 25.3 5.5
- ญี่ปุ่น 79.2 115.7 46.0
- ฮ่องกง 40.6 52.4 29.2
- ออสเตรเลีย 22.2 27.1 22.2
- จีน 18.4 22.9 24.8
ตลาดส่งออกสำคัญที่หดตัว
- EU 197.3 195.8 -0.8
มูลค่าส่งออก (ล้านบาท)
2542 2543 %
33,109.5 42,026.5 26.9
ปี 2543 การผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภทของไทยขยายตัวดี โดยเฉพาะถุงมือยาง และถุงยางอนามัยที่ขยายตัวสูง เนื่องจาก
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตรายสำคัญของโลกได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยเพื่ออาศัยความได้เปรียบด้านวัตถุดิบและแรงงานเป็นสำคัญ
มูลค่าส่งออกถุงมือยางของไทยสูงกว่ามูลค่าส่งออกยางยานพาหนะเป็นครั้งแรกในปี 2543 แม้ว่าการผลิตถุงมือยางของไทยในช่วงปลายปี
2543 ประสบปัญหาในการผลิตเนื่องจากเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นฐานการผลิตถุงมือยางที่สำคัญ โดยเฉพาะที่จังหวัดสงขลา อย่างไร
ก็ตาม โรงงานขนาดใหญ่ส่วนมากได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย การส่งออกจึงยังขยายตัวดีตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อัตราการใช้กำลังการผลิตของบริษัทผู้ผลิตยางยานพาหนะหลายรายของไทยในปี 2543 อยู่ในระดับเฉลี่ยสูงราวร้อยละ 80 ของกำลังการผลิต
ทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2543 การส่งออกถุงยางอนามัยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักในหมวดผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรมเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจาก บริษัทผู้ผลิตถุง
ยางอนามัยรายใหญ่ที่ปิดโรงงานในสหรัฐอเมริกาและเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในช่วงก่อนหน้านี้ เร่งขยายกำลังการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น ส่งผล
ให้ปริมาณการผลิตถุงยางอนามัยของไทยเพิ่มขึ้นถึงประมาณร้อยละ 80 จากปี 2542
การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางโดยรวมของไทยขยายตัวดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลดีจากการที่ไทยปรับลดอัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิต
ผลิตภัณฑ์ยาง อาทิ เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางมีอัตราภาษีลดลงจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 1 ยางสังเคราะห์ที่ใช้ผสมกับยางธรรมชาติมีอัตราภาษี
ลดลงจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2543
ในปี 2544 คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องโดยมีปัจจัยเกื้อหนุนสำคัญ ได้แก่
- ความต้องการยางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมากทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุกในตลาดโลก คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกยางยานพาหนะของไทย
- บริษัทบริดจ์สโตนซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ได้เข้ามาลงทุนผลิตยางแท่งในไทยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์
ซึ่งคาดว่าผลผลิตยางรถยนต์ของบริษัทแห่งนี้จะเกิดความได้เปรียบในการผลิตมากขึ้น และหากเป็นไปตามที่คาดก็จะเป็นตัวอย่างให้บริษัทยางรถยนต์รายอื่น
ดำเนินการในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
- ผู้ผลิตยางยานพาหนะรายใหญ่ 2-3 รายได้เร่งขยายการลงทุนในประเทศไทยเพื่อสร้างฐานการผลิตและส่งออกยางยานพาหนะ ซึ่งหาก
ก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการได้ คาดว่าจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยางยานพาหนะที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการผลิตถุงมือยางซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าส่งออกสูงที่สุดในปี 2543 นั้น จะชะลอตัวลงในปี 2544 เนื่องจาก ผู้ผลิต
รายสำคัญทั้งไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ยังมีสินค้าเหลือค้างสต็อกอีกมากอันเป็นผลมาจากการผลิตเพิ่มขึ้นมากในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาส่งออกถุง
มือยางลดลงมากตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาเชื้อเพลิง ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อโรงงานผลิต
ถุงมือยางขนาดกลางและเล็กของไทย โดยเฉพาะโรงงานในท้องถิ่นซึ่งขาดเงินทุนหมุนเวียนและช่องทางการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม โรงงานขนาดใหญ่
ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทข้ามชาติยังประสบปัญหาไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สิงหาคม 2544--
-อน-
2542 2543 % 2542 2543 %
ผลิตภัณฑ์ยาง n.a. n.a. n.a. 875.0 1,060.5 21.2
- ถุงมือยาง n.a. n.a. n.a. 289.4 363.7 25.7
- ยางยานพาหนะ n.a. n.a. n.a. 317.2 350.2 10.4
- ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ n.a. n.a. n.a. 23.5 44.5 89.3
ทางเภสัชกรรม
ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว
- สหรัฐอเมริกา 237.8 338.3 42.3
- อาเซียน 112.3 126.0 12.2
มาเลเซีย 18.7 28.9 54.8
สิงคโปร์ 24.0 25.3 5.5
- ญี่ปุ่น 79.2 115.7 46.0
- ฮ่องกง 40.6 52.4 29.2
- ออสเตรเลีย 22.2 27.1 22.2
- จีน 18.4 22.9 24.8
ตลาดส่งออกสำคัญที่หดตัว
- EU 197.3 195.8 -0.8
มูลค่าส่งออก (ล้านบาท)
2542 2543 %
33,109.5 42,026.5 26.9
ปี 2543 การผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภทของไทยขยายตัวดี โดยเฉพาะถุงมือยาง และถุงยางอนามัยที่ขยายตัวสูง เนื่องจาก
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตรายสำคัญของโลกได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยเพื่ออาศัยความได้เปรียบด้านวัตถุดิบและแรงงานเป็นสำคัญ
มูลค่าส่งออกถุงมือยางของไทยสูงกว่ามูลค่าส่งออกยางยานพาหนะเป็นครั้งแรกในปี 2543 แม้ว่าการผลิตถุงมือยางของไทยในช่วงปลายปี
2543 ประสบปัญหาในการผลิตเนื่องจากเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นฐานการผลิตถุงมือยางที่สำคัญ โดยเฉพาะที่จังหวัดสงขลา อย่างไร
ก็ตาม โรงงานขนาดใหญ่ส่วนมากได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย การส่งออกจึงยังขยายตัวดีตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อัตราการใช้กำลังการผลิตของบริษัทผู้ผลิตยางยานพาหนะหลายรายของไทยในปี 2543 อยู่ในระดับเฉลี่ยสูงราวร้อยละ 80 ของกำลังการผลิต
ทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2543 การส่งออกถุงยางอนามัยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักในหมวดผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรมเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจาก บริษัทผู้ผลิตถุง
ยางอนามัยรายใหญ่ที่ปิดโรงงานในสหรัฐอเมริกาและเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในช่วงก่อนหน้านี้ เร่งขยายกำลังการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น ส่งผล
ให้ปริมาณการผลิตถุงยางอนามัยของไทยเพิ่มขึ้นถึงประมาณร้อยละ 80 จากปี 2542
การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางโดยรวมของไทยขยายตัวดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลดีจากการที่ไทยปรับลดอัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิต
ผลิตภัณฑ์ยาง อาทิ เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยางมีอัตราภาษีลดลงจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 1 ยางสังเคราะห์ที่ใช้ผสมกับยางธรรมชาติมีอัตราภาษี
ลดลงจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2543
ในปี 2544 คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องโดยมีปัจจัยเกื้อหนุนสำคัญ ได้แก่
- ความต้องการยางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมากทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุกในตลาดโลก คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกยางยานพาหนะของไทย
- บริษัทบริดจ์สโตนซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ได้เข้ามาลงทุนผลิตยางแท่งในไทยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์
ซึ่งคาดว่าผลผลิตยางรถยนต์ของบริษัทแห่งนี้จะเกิดความได้เปรียบในการผลิตมากขึ้น และหากเป็นไปตามที่คาดก็จะเป็นตัวอย่างให้บริษัทยางรถยนต์รายอื่น
ดำเนินการในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
- ผู้ผลิตยางยานพาหนะรายใหญ่ 2-3 รายได้เร่งขยายการลงทุนในประเทศไทยเพื่อสร้างฐานการผลิตและส่งออกยางยานพาหนะ ซึ่งหาก
ก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการได้ คาดว่าจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยางยานพาหนะที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการผลิตถุงมือยางซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าส่งออกสูงที่สุดในปี 2543 นั้น จะชะลอตัวลงในปี 2544 เนื่องจาก ผู้ผลิต
รายสำคัญทั้งไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ยังมีสินค้าเหลือค้างสต็อกอีกมากอันเป็นผลมาจากการผลิตเพิ่มขึ้นมากในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาส่งออกถุง
มือยางลดลงมากตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาเชื้อเพลิง ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อโรงงานผลิต
ถุงมือยางขนาดกลางและเล็กของไทย โดยเฉพาะโรงงานในท้องถิ่นซึ่งขาดเงินทุนหมุนเวียนและช่องทางการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม โรงงานขนาดใหญ่
ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทข้ามชาติยังประสบปัญหาไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สิงหาคม 2544--
-อน-