กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน-แอนเดียนในสหัสวรรษใหม่ ครั้งนี้ 1 (1st Symposium on ASEAN-Andean Cooperation in the New Millennium) สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
ประชาคมแอนเดียน (Andean Community) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2512 และมีสมาชิก 5 ประเทศ ประกอบด้วย โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และเวเนซูเอลา เป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและมีความสำคัญในภูมิภาคลาตินอเมริกามากที่สุดรองจากกลุ่ม MERCOSUR โดยประชาคมแอนเดียนมีพื้นที่รวมกันกว่า 4.7 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรรวมกันประมาณ 105 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รวมกันประมาณ 240 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ไทยและอาเซียนได้เล็งเห็นความสำคัญของประชาคมแอนเดียน และตระหนักดีว่าการเชื่อมโยงและกระชับความร่วมมือระหว่างกลุ่มภูมิภาคทั้งสองทางด้านการเมือง เศรษฐกิจการลงทุน เทคโนโลยี และทางสังคม ย่อมจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของทั้งสองภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเศรษฐกิจนั้น ตลาดลาตินอเมริกาจัดได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง สินค้านำเข้าจากต่างประเทศในปี 2540 มีมูลค่าสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนในตลาดดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเป้าหมายการส่งออกของไทย ดังจะเห็นได้จากการเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะ เมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2542 ที่ผ่านมา
กระทรวงการต่างประเทศจะจัดให้มีการประชุมระหว่างอาเซียนกับแอนเดียมในลักษณะ Symposium ภายใต้หัวข้อ "ความร่วมมืออาเซียน-แอนเดียนในสหัสวรรษใหม่" (ASEAN-Andean Cooperation in the New Millennium) ระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2543 ณ ห้องประชุมแนวลาด ภายในกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีกระชับความสัมพันธ์และร่วมมือกันหารือถึงแนวทางเพื่อการเชื่อมโยงและขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างประเทศสมาชิกและสำนักเลขาธิการของทั้งสององค์กร
ฯพณฯ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นประธานและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุม ในวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2543 หลังจากนั้นก็จะเป็นการอภิปรายถึงลู่ทางในอนาคตของความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกลุ่มภูมิภาคทั้งสองในมุมมองของสองเลขาธิการ จากทั้งอาเซี่ยนและประชาคมแอนเดียน นอกจากนี้ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของประชาคมแอนเดียน นอกจากนี้ ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของประชาคมแอนเดียนจักได้มีโอกาสร่วมเสวนาโต๊ะกลมกับผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์ และเสนอแนะแนวทาง รวมทั้งโครงการในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประชาคมแอนเดียนในด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เทคโนโลยี การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการประชุมนี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปเข้ารับฟังและมีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นได้อย่างเต็มที่
กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า การประชุมข้างต้นจะเป็นก้าวย่างสำคัญของการขยายลู่ทางและส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้านระหว่างอาเซียน โดยเฉพาะภาคธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกับผู้แทนจากประชมคมแอนเดียน อันจะเป็นการส่งเสริมบทบาททางเศรษฐกิจของกระทรวงการต่างประเทศในการเปิดตลาดลาตินอเมริกา รวมทั้งเป็นโอกาสดีที่จะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุนในไทยให้แก่ประเทศสมาชิกประชาคมแอนเดียนด้วย
ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังและเสนอความเห็นในการประชุมและเสวนาครั้งนี้สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5227 โทรสาร 643-5230 หรือ E_mail : div1004@mfa.go.th หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนตผ่านเวบไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศได้ที่ http://www.mfa.go.th/asean-- จบ--
-อน-
วันนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน-แอนเดียนในสหัสวรรษใหม่ ครั้งนี้ 1 (1st Symposium on ASEAN-Andean Cooperation in the New Millennium) สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
ประชาคมแอนเดียน (Andean Community) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2512 และมีสมาชิก 5 ประเทศ ประกอบด้วย โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และเวเนซูเอลา เป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและมีความสำคัญในภูมิภาคลาตินอเมริกามากที่สุดรองจากกลุ่ม MERCOSUR โดยประชาคมแอนเดียนมีพื้นที่รวมกันกว่า 4.7 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรรวมกันประมาณ 105 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รวมกันประมาณ 240 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ไทยและอาเซียนได้เล็งเห็นความสำคัญของประชาคมแอนเดียน และตระหนักดีว่าการเชื่อมโยงและกระชับความร่วมมือระหว่างกลุ่มภูมิภาคทั้งสองทางด้านการเมือง เศรษฐกิจการลงทุน เทคโนโลยี และทางสังคม ย่อมจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของทั้งสองภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเศรษฐกิจนั้น ตลาดลาตินอเมริกาจัดได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง สินค้านำเข้าจากต่างประเทศในปี 2540 มีมูลค่าสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนในตลาดดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเป้าหมายการส่งออกของไทย ดังจะเห็นได้จากการเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะ เมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2542 ที่ผ่านมา
กระทรวงการต่างประเทศจะจัดให้มีการประชุมระหว่างอาเซียนกับแอนเดียมในลักษณะ Symposium ภายใต้หัวข้อ "ความร่วมมืออาเซียน-แอนเดียนในสหัสวรรษใหม่" (ASEAN-Andean Cooperation in the New Millennium) ระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2543 ณ ห้องประชุมแนวลาด ภายในกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีกระชับความสัมพันธ์และร่วมมือกันหารือถึงแนวทางเพื่อการเชื่อมโยงและขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างประเทศสมาชิกและสำนักเลขาธิการของทั้งสององค์กร
ฯพณฯ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นประธานและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุม ในวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2543 หลังจากนั้นก็จะเป็นการอภิปรายถึงลู่ทางในอนาคตของความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกลุ่มภูมิภาคทั้งสองในมุมมองของสองเลขาธิการ จากทั้งอาเซี่ยนและประชาคมแอนเดียน นอกจากนี้ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของประชาคมแอนเดียน นอกจากนี้ ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของประชาคมแอนเดียนจักได้มีโอกาสร่วมเสวนาโต๊ะกลมกับผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์ และเสนอแนะแนวทาง รวมทั้งโครงการในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประชาคมแอนเดียนในด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เทคโนโลยี การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการประชุมนี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปเข้ารับฟังและมีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นได้อย่างเต็มที่
กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า การประชุมข้างต้นจะเป็นก้าวย่างสำคัญของการขยายลู่ทางและส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้านระหว่างอาเซียน โดยเฉพาะภาคธุรกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกับผู้แทนจากประชมคมแอนเดียน อันจะเป็นการส่งเสริมบทบาททางเศรษฐกิจของกระทรวงการต่างประเทศในการเปิดตลาดลาตินอเมริกา รวมทั้งเป็นโอกาสดีที่จะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุนในไทยให้แก่ประเทศสมาชิกประชาคมแอนเดียนด้วย
ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังและเสนอความเห็นในการประชุมและเสวนาครั้งนี้สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5227 โทรสาร 643-5230 หรือ E_mail : div1004@mfa.go.th หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนตผ่านเวบไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศได้ที่ http://www.mfa.go.th/asean-- จบ--
-อน-