หนี้ต่างประเทศลดลงตามการชำระคืนหนี้ของภาคเอกชน และธนาคารแห่งประเทศไทย
เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2544 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม ลดลงประมาณ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. แม้จะมีการชำระหนี้มากทั้งภาคทางการและภาคเอกชน แต่หนี้ต่างประเทศรวมกลับลดลงไม่มาก เนื่องจากผลของค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นทำให้หนี้สกุลเยนเทียบเท่าดอลลาร์ สรอ.มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
หนี้ภาคเอกชน ลดลงตามการชำระหนี้ของ ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะยาวตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดและการไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดในเดือนนี้ สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ทรงตัวทั้งหนี้ธนาคารพาณิชย์และหนี้กิจการวิเทศธนกิจ อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ได้นำเข้าเงินกู้ประเภทเบิกเกินบัญชีเพื่อปรับสภาพคล่องระยะสั้นทำให้หนี้ระยะสั้นภาคธนาคารเพิ่มขึ้น
หนี้ภาคทางการ เพิ่มขึ้น 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เป็นผลจากการที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้น ทำให้หนี้สกุลเงินเยนเมื่อเทียบเป็นดอลลาร์ สรอ. มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการชำระหนี้ประมาณ 0.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2543หนี้ต่างประเทศรวม ลดลง 4.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงในหนี้ระยะยาวทั้งภาคเอกชนและภาคทางการ ขณะที่การลดลงของหนี้ระยะสั้นได้ ชะลอลงตั้งแต่ปลายปีก่อน
หนี้ภาคเอกชน ลดลง 3.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ระยะยาวของภาคธนาคารและภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารรวมกันลดลง 2.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด ในขณะที่การชำระคืนหนี้ก่อนครบกำหนดได้ชะลอตัวลงมากเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนี้ระยะสั้นลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ระยะสั้นภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารลดลง 0.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้ภาคธนาคารระยะสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการกู้เพื่อปรับสภาพคล่องในช่วงสั้น ๆ ของธนาคารพาณิชย์ สำหรับหนี้กิจการวิเทศธนกิจระยะสั้นทรงตัวที่ระดับ 4 พันล้านดอลลาร์สรอ. ตั้งแต่ปลายปีก่อน
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดย หนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดลง 1.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระหนี้ที่ครบกำหนด ประกอบกับค่าเงินเยนอ่อนตัวลง ทำให้หนี้สกุลเยนเมื่อเทียบเป็นดอลลาร์ สรอ. ลดลง ส่วน หนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์สรอ. เป็นการลดลงของหนี้ระยะยาวตามการอ่อนตัวของค่าเงินเยน ส่วนหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากการออกตราสารหนี้ ( ECP )
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : สัดส่วนหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 18.9 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 จากร้อยละ 18.4 ณ เดือนธันวาคม 2543 สำหรับสัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการยังคงอยู่ที่ 57 : 43
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ปส-
เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2544 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม ลดลงประมาณ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. แม้จะมีการชำระหนี้มากทั้งภาคทางการและภาคเอกชน แต่หนี้ต่างประเทศรวมกลับลดลงไม่มาก เนื่องจากผลของค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นทำให้หนี้สกุลเยนเทียบเท่าดอลลาร์ สรอ.มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
หนี้ภาคเอกชน ลดลงตามการชำระหนี้ของ ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะยาวตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดและการไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดในเดือนนี้ สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ทรงตัวทั้งหนี้ธนาคารพาณิชย์และหนี้กิจการวิเทศธนกิจ อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ได้นำเข้าเงินกู้ประเภทเบิกเกินบัญชีเพื่อปรับสภาพคล่องระยะสั้นทำให้หนี้ระยะสั้นภาคธนาคารเพิ่มขึ้น
หนี้ภาคทางการ เพิ่มขึ้น 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เป็นผลจากการที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้น ทำให้หนี้สกุลเงินเยนเมื่อเทียบเป็นดอลลาร์ สรอ. มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการชำระหนี้ประมาณ 0.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2543หนี้ต่างประเทศรวม ลดลง 4.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงในหนี้ระยะยาวทั้งภาคเอกชนและภาคทางการ ขณะที่การลดลงของหนี้ระยะสั้นได้ ชะลอลงตั้งแต่ปลายปีก่อน
หนี้ภาคเอกชน ลดลง 3.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ระยะยาวของภาคธนาคารและภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารรวมกันลดลง 2.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด ในขณะที่การชำระคืนหนี้ก่อนครบกำหนดได้ชะลอตัวลงมากเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนี้ระยะสั้นลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ระยะสั้นภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารลดลง 0.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้ภาคธนาคารระยะสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการกู้เพื่อปรับสภาพคล่องในช่วงสั้น ๆ ของธนาคารพาณิชย์ สำหรับหนี้กิจการวิเทศธนกิจระยะสั้นทรงตัวที่ระดับ 4 พันล้านดอลลาร์สรอ. ตั้งแต่ปลายปีก่อน
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดย หนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดลง 1.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระหนี้ที่ครบกำหนด ประกอบกับค่าเงินเยนอ่อนตัวลง ทำให้หนี้สกุลเยนเมื่อเทียบเป็นดอลลาร์ สรอ. ลดลง ส่วน หนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์สรอ. เป็นการลดลงของหนี้ระยะยาวตามการอ่อนตัวของค่าเงินเยน ส่วนหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากการออกตราสารหนี้ ( ECP )
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : สัดส่วนหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 18.9 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 จากร้อยละ 18.4 ณ เดือนธันวาคม 2543 สำหรับสัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการยังคงอยู่ที่ 57 : 43
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ปส-