'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ' เห็นด้วยกับแนวทางจัดระเบียบซิมการ์ด เพราะอาจทำให้การตรวจสอบรัดกุมมากขึ้น และคนที่นำไปใช้ในทางที่ผิดอาจเกิดความไม่สะดวก แต่ รบ. ต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่นำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
วันนี้ (19 เม.ย. 48) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดระเบียบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การใช้ระบบโทรศัพท์ที่มีการจ่ายเงินล่วงหน้าและไม่มีการตรวจสอบได้ ควรจะมีการวางแนวทางในการกำกับดูแล แต่ต้องไม่ให้เกิดความไม่สะดวกจนเกินไป ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันมาตั้งแต่สมัยที่พิจารณากฎหมายกิจการโทรคมนาคม หากรัฐบาลยังยืนยันแนวทางนี้ก็น่าจะเดินหน้าต่อได้ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่นำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และองค์กรที่ดูแลต้องมีความเข้มแข็ง เพราะการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจะละเมิดได้โดยผู้ประกอบการกับคนที่มีอำนาจรัฐเท่านั้น ‘อย่างไรก็ตามคงจะไปบอกว่าทำเรื่องนี้แล้ว ไม่ต้องทำเรื่องอื่นคงไม่ได้ เพราะนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาหรือทำให้เกิดความรัดกุมขึ้น ในแง่ของการที่จะป้องกันและป้องปรามปัญหาต่างๆ’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจจะไปซื้อซิมการ์ดจากประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้ามาใช้ก่อความไม่สงบในประเทศ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็อาจมีช่องโหว่ ซึ่งเราคงไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่คงไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำ ดังนั้นตรงไหนที่เป็นช่องโหว่รัฐบาลก็ต้องหาทางจัดการแก้ไขต่อไป ส่วนจะช่วยแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ถ้ารัฐบาลมุ่งว่าจะแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ก็คงไม่ใช่ เพราะต้องดูส่วนอื่นๆประกอบด้วย แต่อาจช่วยทำให้มีความรัดกุมมากขึ้น ในการตรวจสอบ และอาจมีผลทำให้เกิดความไม่สะดวกของคนที่นำไปใช้ในทางที่ผิด ที่สำคัญคือแนวทางของรัฐบาลที่บอกว่าจะมีการปรับเปลี่ยน ยังสัมผัสไม่ได้ เพราะฉะนั้นในเรื่องของโครงสร้าง หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ถ้าจะรอกรรมการสมานฉันท์คงไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าทำงานเลย เมื่อถามว่ามีข่าวลือว่าจะมีการลอบทำร้ายคณะกรรมการสมานฉันท์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ‘ข่าวลือก็เป็นข่าวลือ ผมไม่ทราบ และไม่เคยได้ยินเหมือนกัน’
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-
วันนี้ (19 เม.ย. 48) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดระเบียบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การใช้ระบบโทรศัพท์ที่มีการจ่ายเงินล่วงหน้าและไม่มีการตรวจสอบได้ ควรจะมีการวางแนวทางในการกำกับดูแล แต่ต้องไม่ให้เกิดความไม่สะดวกจนเกินไป ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันมาตั้งแต่สมัยที่พิจารณากฎหมายกิจการโทรคมนาคม หากรัฐบาลยังยืนยันแนวทางนี้ก็น่าจะเดินหน้าต่อได้ ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่นำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และองค์กรที่ดูแลต้องมีความเข้มแข็ง เพราะการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจะละเมิดได้โดยผู้ประกอบการกับคนที่มีอำนาจรัฐเท่านั้น ‘อย่างไรก็ตามคงจะไปบอกว่าทำเรื่องนี้แล้ว ไม่ต้องทำเรื่องอื่นคงไม่ได้ เพราะนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาหรือทำให้เกิดความรัดกุมขึ้น ในแง่ของการที่จะป้องกันและป้องปรามปัญหาต่างๆ’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจจะไปซื้อซิมการ์ดจากประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้ามาใช้ก่อความไม่สงบในประเทศ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็อาจมีช่องโหว่ ซึ่งเราคงไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่คงไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำ ดังนั้นตรงไหนที่เป็นช่องโหว่รัฐบาลก็ต้องหาทางจัดการแก้ไขต่อไป ส่วนจะช่วยแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ถ้ารัฐบาลมุ่งว่าจะแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ก็คงไม่ใช่ เพราะต้องดูส่วนอื่นๆประกอบด้วย แต่อาจช่วยทำให้มีความรัดกุมมากขึ้น ในการตรวจสอบ และอาจมีผลทำให้เกิดความไม่สะดวกของคนที่นำไปใช้ในทางที่ผิด ที่สำคัญคือแนวทางของรัฐบาลที่บอกว่าจะมีการปรับเปลี่ยน ยังสัมผัสไม่ได้ เพราะฉะนั้นในเรื่องของโครงสร้าง หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ถ้าจะรอกรรมการสมานฉันท์คงไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าทำงานเลย เมื่อถามว่ามีข่าวลือว่าจะมีการลอบทำร้ายคณะกรรมการสมานฉันท์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ‘ข่าวลือก็เป็นข่าวลือ ผมไม่ทราบ และไม่เคยได้ยินเหมือนกัน’
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-