กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (27 มิถุนายน 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนว่า กระทรวงการต่างประเทศจะจัดให้มีพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐคีร์กิซ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2544 เวลา 14.30 น. โดย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ฝ่ายไทย และนาย Kubanychbek Djumaliev รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งและสื่อสารเป็นผู้ ลงนามฝ่ายสาธารณรัฐคีร์กิซ
การลงนามความตกลงฉบับดังกล่าวเป็นผลของการเจรจาระหว่างผู้แทนรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542 ที่กรุงเทพฯ
ภายใต้ความตกลงนี้ สายการบินของไทยและคีร์กิซ สามารถที่จะทำการบินตามเส้นทาง คือ จากจุดใดจุดหนึ่งในประเทศตนไปยัง 2 จุดของประเทศคู่สัญญา โดยมีการแวะพักสองจุดระหว่างทาง และมีความถี่สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ต่อสัปดาห์ ต่อ 1 จุดปลายทาง
ความตกลงฉบับนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะเป็นการส่งเสริมการเดินทางและขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งสองให้มีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวจากคีร์กิซและประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่มีการขยายตัวที่ดีมากให้สามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น
ในด้านการลงทุน รัฐบาลคีร์กิซได้ออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเป็นประเทศเดียวในเอเชียกลางที่มีกฎหมายคุ้มครองการลงทุนจากต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศที่มาร่วมลงทุน กับคีร์กิซจะได้รับการยกเว้นภาษีในช่วง 2-5 ปีแรก แต่หากเป็นการลงทุนร่วมในเขตการค้าเสรี ก็จะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากสาธารณรัฐคีร์กิซประสงค์จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้เข้าไปลงทุนในด้าน เหมืองแร่ทองคำ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาก โดยเฉพาะสำหรับไทย รัฐบาลคีร์กิซได้เสนอให้ไทย เข้าไปพัฒนากิจการเหมืองทองคำในคีร์กิซ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม เครื่องประดับของไทย นอกจากนี้ รัฐบาลคีร์กิซได้สนับสนุนให้นักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน อุตสาหกรรมผลิตสินค้าอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นภาคที่มีความสำคัญมากของคีร์กิซ สินค้าเกษตรหลักๆ ของคีร์กิซ คือ ฝ้าย ขนแกะ ไหม ฟาง ป่าน หนังสัตว์ เนื้อสัตว์ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ผัก และผลไม้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-
วันนี้ (27 มิถุนายน 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนว่า กระทรวงการต่างประเทศจะจัดให้มีพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐคีร์กิซ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2544 เวลา 14.30 น. โดย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ฝ่ายไทย และนาย Kubanychbek Djumaliev รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งและสื่อสารเป็นผู้ ลงนามฝ่ายสาธารณรัฐคีร์กิซ
การลงนามความตกลงฉบับดังกล่าวเป็นผลของการเจรจาระหว่างผู้แทนรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542 ที่กรุงเทพฯ
ภายใต้ความตกลงนี้ สายการบินของไทยและคีร์กิซ สามารถที่จะทำการบินตามเส้นทาง คือ จากจุดใดจุดหนึ่งในประเทศตนไปยัง 2 จุดของประเทศคู่สัญญา โดยมีการแวะพักสองจุดระหว่างทาง และมีความถี่สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ต่อสัปดาห์ ต่อ 1 จุดปลายทาง
ความตกลงฉบับนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะเป็นการส่งเสริมการเดินทางและขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งสองให้มีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวจากคีร์กิซและประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่มีการขยายตัวที่ดีมากให้สามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น
ในด้านการลงทุน รัฐบาลคีร์กิซได้ออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเป็นประเทศเดียวในเอเชียกลางที่มีกฎหมายคุ้มครองการลงทุนจากต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศที่มาร่วมลงทุน กับคีร์กิซจะได้รับการยกเว้นภาษีในช่วง 2-5 ปีแรก แต่หากเป็นการลงทุนร่วมในเขตการค้าเสรี ก็จะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากสาธารณรัฐคีร์กิซประสงค์จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้เข้าไปลงทุนในด้าน เหมืองแร่ทองคำ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาก โดยเฉพาะสำหรับไทย รัฐบาลคีร์กิซได้เสนอให้ไทย เข้าไปพัฒนากิจการเหมืองทองคำในคีร์กิซ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม เครื่องประดับของไทย นอกจากนี้ รัฐบาลคีร์กิซได้สนับสนุนให้นักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน อุตสาหกรรมผลิตสินค้าอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นภาคที่มีความสำคัญมากของคีร์กิซ สินค้าเกษตรหลักๆ ของคีร์กิซ คือ ฝ้าย ขนแกะ ไหม ฟาง ป่าน หนังสัตว์ เนื้อสัตว์ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ผัก และผลไม้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-